บทที่ 4 ต่อ...
เอ่อ...พ่อแม่คุณก็เป็นพ่อมดแม่มดด้วยเหมือนกันหรือ
เธอได้ยินเสียงที่ประหลาดใจของเขาเมื่อเขาเพิ่งจะเข้าใจว่าพ่อแม่เธอก็เป็นผู้มีเวทมนตร์คาถาเช่นเดียวกัน เธอรู้สึกโกรธที่เขารู้สึกแบบนั้น
ที่ฉันเป็นแม่มดก็เพราะมันเป็นกรรมพันธุ์คะ อํานาจหรือความสามารถพิเศษที่ฉันมีอยู่มันมาจากสายเลือดบรรพบุรุษของฉันจากรุ่นหนึ่งมาสู่อีกรุ่นหนึ่ง มันไม่ใช่งานอดิเรกนะคะ เคลิน และมันก็ไม่ใช่อะไรที่ฉันทําเล่นๆหรือเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่ง แต่มันเป็นชะตากรรมของฉันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของฉันและฉันก็ภูมิใจในสิ่งที่ฉันได้รับตกทอดมา ฉันขอละคะอย่ามาสบประมาทฉันในเมื่อคุณเองก็กําลังจะกินข้าวในบ้านฉันและพักอยู่ในบ้านของฉัน มันคงไม่มากมายอะไรถ้าฉันจะขอร้องคุณในเรื่องนี้
หล่อนส่ายหัวอย่างระอาใจและนั่งลงในที่สุด
เคลินเกาคางเขาเบาๆรู้สึกผิดยังไงพิกล ตอบเธอกับไปว่า
ได้ครับ มาดาม
เขานั่งลงตรงข้ามเธอนั่นเองและสูดกลิ่นอาหารที่โชยมาเข้าจมูกเขา
กลิ่นหอมน่ากินจังครับ
เขาตักมันขึ้นมาชิม รสชาติของซุปอร่อยอย่างที่เขาคาดไม่ถึงและเอ่ยชมซุปที่เธอทําเอง
และอร่อยอีกต่างหาก
อย่ายอ ดิฉันเกินไปเลยคะ คุณนะหิวจนตาลายต่อให้เป็นเนื้อม้าดิบๆคุณก็คงจะบอกว่าอร่อย
ถูกของคุณ เขาตักซุปเข้าปากเขาด้วยความเพลิดเพลินในอารมณ์อยู่ในขณะนี้ อดที่จะถามเธอออกมาไม่ได้
ผมหวังว่าคุณคงไม่ได้ใส่พวกตาจิ้งจกลงในนี้หรอกนะ
เมื่อจบคําพูดหยอกล้อของเขา แววตาของหญิงสาวส่องประกายกล้าเมื่อมันสบตาเขากลับไปด้วยความหมั่นไส้
ตลกตายหละ
ผมก็ว่ามันตลกดีนะคุณ
เขาไม่รู้ว่าจะคิดยังไงดีกับเรื่องราวทั้งหมดที่เขารับรู้อยู่ในตอนนี้มันกําลังเกิดขึ้นกับเขาจริงๆอยู่ไม่ใช่ความฝัน และถ้าเขาไม่คิดว่าโชคชะตากําลังเล่นตลกกับเขาอยู่ละก้อ
เขาคิดว่าตัวเองคงต้องเป็นบ้าอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน
เอาเถอะ
ว่าแต่ว่าคุณมาทําอะไรอยู่ที่นี่คนเดียวแบบนี้
ตายหละถามอะไรออกไปบ้าๆแบบนั้น เขาไม่คิดว่าเขาอยากจะรู้คําตอบของเธอขึ้นมาเฉยๆ มันอาจจะทําให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นประสาทหนักขึ้นไปอีก
จริงๆที่ผมอยากจะรู้ก็คือ
คุณทํางานอะไรครับ
โอ้มันไม่ประโยชน์อะไรเล้ยที่หล่อนกําลังรู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างหนัก เพราะดูเหมือนว่าเขาคงจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลยถ้าเขารู้ว่าเธอกําลังหมั่นไส้เขาและรําคาญเขาอย่าง
หาสาเหตุไม่ได้อยู่ในขณะนี้
คุณอยากจะถามฉันว่า ฉันทํางานอะไรที่มันจะได้เงินมาเลี้ยงตัวฉันเองใช่ไหมคะ ฉันรู้นะคะว่าเงินเป็นปัจจัยสําคัญของชีวิต
หล่อนยื่นส่งขนมปังให้เขาพร้อมกับเกลือและเนย
ฉันถักและทอผ้าคะ และขายมันทุกชิ้นที่ฉันทําเอง เสื้อกันหนาว พรม ผ้าห่ม หมอนอิง และก็มีของอย่างอื่นๆอีกที่ฉันทักและทอมันด้วยมือของฉันเอง มันเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่เวลาฉันได้ทักหรือทอแล้วทําให้ฉันสบายใจและมีความสุข มันช่วยให้ฉันได้อยู่อย่างสันโดษและอยู่อย่างมีอิสรภาพไม่ต้องผูกมัดอยู่กับเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
พรมรองเท้าที่อยู่ในอีกห้องหนึ่ง คุณทําเองใช่ไหมครับ
ใช่คะ
คุณมีทักษะในการทอมากนะครับ ผมคิดว่ามันสีสวยแปลกตาดีแล้วก็มีลวดลายที่เป็นศิลปะเฉพาะตัว น่าสนใจไม่น้อย
เขายังจําได้ถึงเครื่องทอผ้าและเครื่องปั่นผ้าที่เขาเห็น
เขากระพริบตามองเธอ ก่อนจะถามออกไปอย่างประหลาดใจ
คุณปั่นด้ายเองหรือ
ใช่คะมันเป็นศิลปะเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยดึกดําบรรพ์และฉันก็ชอบปั่นด้ายพวกนั้นด้วยมือของฉันเอง
ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เขารู้จักไม่มีใครสักคนที่เย็บผ้าหรือซ่อมแซมเม็ดกระดุมเม็ดเดียวได้เลยและเขาก็ไม่เคยสนใจในความไม่รู้เรื่องพวกนี้ของผู้หญิงเหล่านั้นที่เขารู้จักเพราะเขาไม่เคยคิดว่ามันสําคัญอะไร แต่กับ บริอาน่่ามันกลับทําให้เขาสนใจอยากจะรู้จักเธอให้มากกว่าเดิม เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนๆที่เขารู้จักมาก่อนหน้านี้
ผมไม่คิดมาก่อนว่าพวกแม่มดทั้งหลาย
เอ่อ
จะพูดยังไงดี..ไม่รู้สิคุณ
ผมคิดว่าถ้าพวกคุณอยากได้อะไรขึ้นมาละก้อ
อืม เสกมันขึ้นมา
ง่ายดีกว่าเป็นไหนๆ
เสกขึ้นมา? คิ้วหล่อนขมวดขึ้นสูง
คุณหมายถึงถ้าฉันอยากได้เหรียญทองสักโถหนึ่ง ฉันก็แค่เป่าคาถาผิวปากจากนั้นมันก็หล่นมาอยู่ในมือฉันอย่างงั้นหรือ
หล่อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา หล่อนบอกเขาอย่างรําคาญในอารมณ์อยู่ในขณะนี้
ฉันก็มีคําถามอยากจะถามคุณเหมือนกันว่าทําไมคุณใช้กล้องที่มีปุ่มสารพัดปุ่มกว่าจะได้ภาพแต่ละภาพก็เหนื่อยแทบตาย ทําไมคุณไม่ใช่กล้องอัตโนมัติที่ไม่ต้องทําอะไรเลยก็แค่กดปุ่มๆเดียวก็ได้ภาพออกมาเหมือนๆกันละคะ
ก็เพราะมันจะไม่คุ้มค่ากับความพยายามหรือมีความหมายอะไรเลยถ้าคุณไม่ได้ใช้ความสามารถอะไรเลยนอกจากกดปุ่มๆเดียว มันจะมีความหมายกับผมมากถ้าผมได้ใช้ความสามารถของผมเอง ควบคุมทุกอย่างเอง วางแผนทุกๆอย่างเอง และล้างภาพออกมาเอง
.
เขาหยุดอธิบายโดยฉับพลัน สบตาเธอเห็นสายตายิ้มเย้ยอย่างสบายใจของเธอที่มองมามาอย่างเขา
เอาหละๆผมเข้าใจแล้ว ถ้าคุณแค่ดีดนิ้วครั้งเดียวแล้วได้ผลทันใจมันก็ไม่มีความภูมิใจเหมือนกับที่คุณได้ลงแรงเองโชว์ผลงานทางศิลปะของคุณออกมา
ใช่คะ และยังมีอีกเหตุผลหนึ่งด่้วยเหมือนกันที่ทําให้ฉันไม่ใช้เวทมนตร์คาถาของฉันเพราะมันเป็นคําปฏิญาณที่ฉันต้องรักษาไว้ว่าจะไม่ใช้อํานาจที่ฉันได้มาในทางที่ผิดๆ
และที่สําคัญที่สุดก็คือฉันจะต้องไม่ใช้มันทําร้ายผู้ใดทั้งสิ้น คุณกําลังจะเชื่อฉันแล้ว ใช่ไหมคะ เคลิน
ตกตะลึงเพราะเธอพูดออกมาตรงกับใจเขาที่มันเริ่มจะเอนเอียงเชื่อเธอขึ้นมาจริงๆ แต่เขาจะไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆหรอก
ไม่มีอะไรมากหรอกคุณ ผมแค่ชวนคุณคุยเท่านั้น เขาพูดอยู่ในลําคอก่อนจะลุกขึ้นไปตักซุปใส่ถ้วยของเขา เจ้าแมวดําตามติดเขาไม่ห่างเหมือนเป็นเงาตามติดมันคงหวังว่าเขา
จะใจดีแบ่งซุปให้มันบ้าง และอยู่ๆเขาก็ถามเธอออกมา
มันนานมาแค่ไหนแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่คุณไปเที่ยวอเมริกา
ฉันไม่เคยไปอเมริกาหรอกคะ หล่อนยกไวน์ขึ้นดื่มหลังจากที่เขาเติมให้เธอ
ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อคุณตัวต่อตัวหรอกคะ จนกว่าคุณจะมาหาฉันเองที่นี่ และคุณเองก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่นี่จนกว่า จะถึงเวลาหนึ่งเดือนก่อน ระยะเวลาหนึ่งพันปีที่กําลังจะมาถึงในไม่ช้านี้
คาลเคาะนิ้วมือเขาลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ หล่อนช่างเล่าเรื่องได้ปะติดปะต่อทําให้น่าสนใจได้จริงๆ เขาคิดในใจ
ยังมีต่อ...
จากคุณ :
โรส สลาลินน์
- [
16 ส.ค. 46 14:59:26
A:12.108.141.146 X:
]