เรื่องสั้น ๆ ของฉันกับเขา

    เป็นเรื่องแรก ยังไงก็ช่วย ๆ กันติชมหน่อยนะเจ้าคะ...พิจิกา...หน้าฝน

    1.

    เมฆขาวก้อนหนากระจัดกระจายอยู่เต็มท้องฟ้า อีกไม่กี่ชั่วโมงพวกมันคงรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่มหึมาสีเทาดำชวนให้ผู้พบเห็นรู้เป็นสัญญาณล่วงหน้าว่า คนที่อยู่ใต้ฟ้าจะได้เย็นฉ่ำชื่นใจหรือหงุดหงิดเนื่องจากรถติดอันเป็นปรกติของชีวิตในเมืองหลวง

    ใบหน้ากลมรีละสายตาจากแผ่นฟ้าเบื้องนอก หมุนเก้าอี้ที่นั่งอยู่กลับมาคีย์ข้อมูลหน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อ ตาดำยาวรีไล่เรียงตามเอกสารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว พอ ๆ กับมือที่สัมผัสแป้นคีย์บอร์ด สองชั่วโมงกว่าแล้วที่พัชรียาต้องก้มหน้าก้มตาพิมพ์เอกสารตรงหน้า จนปวดคอ ปวดตาไปหมด ถ้าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ก่อนจบปริญญาโทของพี่สาวสุดสวยของเธอน่ะนะ จ้างให้เธอก็ไม่ต้องมาทำให้เสียเวลาหรอก (แถมไม่ได้ค่าจ้างอีกต่างหาก เห็นว่าพิมพ์ไม่ทันหรอกนะ!)

    “ทำไรอะพัช”  เสียงหวาน ๆ เอ่ยทักขึ้นมา แต่ก็ทำเอาคนนั่งหน้าจอสะดุ้งไม่ได้

    หันไปมองก็เห็นสุชาดาเพื่อนร่วมสายงานอีกคนถือกระเป๋า กอดอกยืนพิงประตูอยู่ด้วยมาดเก๋ไก๋ราวนางแบบมืออาชีพ

    “พิมพ์งานอยู่ มีไร”  มือที่ยังเคลื่อนไหวอยู่หยุดชะงัก   “จะไปแบงค์เหรอ งั้นฝากเช็คไปขึ้นเงินหน่อยสิ ได้ใบนี้มาตั้งหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลาไปเลย”  

    “ได้สิ แต่วันนี้ไม่กลับเข้ามาแล้วนะ ไปแล้วจะไปเลย สนใจไปด้วยกันมั้ยล่ะ”  ฝ่ายคนจะออกไปข้างนอกเก็บเช็คเข้ากระเป๋าใบเก๋ พัชรียาส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    “ไม่ล่ะ วันนี้ไม่มีอะไรทำเลยจะพิมพ์งานพี่พาให้เสร็จ เนี่ยะอีกไม่กี่สิบแผ่นเอง วันนี้ไม่ค่อยมีงาน ไม่มีเอกสารอะไรเข้ามาเลย เลยกะว่าจะทำให้เสร็จ จะดูเอกสารที่จะไปต่อวีซ่ากะ work permitให้ตามาร์คด้วย  แกจะไปก็ไปเหอะ ขอบใจนะ พรุ่งนี้วันหยุดสุดสัปดาห์เที่ยวให้สนุกล่ะ”  

    “เออ  งั้นเราไปล่ะนะ”

    “จ๊ะ”

    เมื่อพัชรียายืนยันสุชาดาค่อยเดินนวยนาถออกไป ปล่อยให้หล่อนหันไปก้มหน้าก้มตากับเอกสารตรงหน้า และเรื่องที่จะต้องทำต่อไป

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำลายความเงียบหลังจากพัชรียากำลังเตรียมเอกสารต่าง ๆ เพื่อทำเรื่องต่อวีซ่าและ work permit ให้แก่พนักงานซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ที่จะหมดวีซ่าในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งชาวต่างชาติทุก ๆ คนที่เข้ามาทำงานและมีรายได้ในประเทศไทยจะต้องมีใบอนุญาตในการทำงานรวมถึงการเสียภาษีต่าง ๆ เหมือนคนไทยด้วย

    “จากคุณดาค่ะ สายสอง”  เสียงโอเปอเรเตอร์สุดสวยประจำบริษัทกรอกมาก่อนจะวางไป

    “ขอบคุณค่ะ พี่นิด”  มือเรียวยาวกดปุ่มไฟกระพริบสีแดงเมื่ออีกฝ่ายวางสาย

    “สวัสดีจ้า สบายดีเหรอ”  

    “บายดี คิดถึงเลยโทรมาหา ทำไรอยู่ ไม่ได้คุยกันนานเลยนะ วันนี้เพื่อน ๆ จะนัดเจอกัน มีเรื่องจะป่าวประกาศ ออกมาพบหน่อยสิ ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว ทุ่มตรงนะ มาเองได้มั้ยที่…….หรือจะให้ไปรับ..”

    “โอ้ย! ใจเย็น ๆ หน่อย โทรมายังกะอัดอั้นไม่ได้พูดมาสิบปีงั้นล่ะ”  มันอดแย้บไม่ได้ ปลายสายเลยหัวเราะร่วน ก็รัวยังกะรถไฟด่วนนี่ พัชรียาหยิบตารางในสมุดบันทึกเล่มเล็กขึ้นมาดู..วันศุกร์…ว่าง

    “เย็นนี้…ไปเองได้จ๊ะ”

    “OK รู้เรื่องแล้ว งั้นแค่นี้ก่อนนะจะโทรไปบอกคนอื่นต่อ…บาย”  พอพูดจบปุ๊บเจ้าตัวก็วางสายปั๊บ ไม่ทันที่คนรับสายอีกฝั่งจะทันทักทวงอะไร

    เออ…ดีวุ้ย มาเร็วไปเร็วกว่าดาวตกซะอีก เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะเลิกงาน งั้นเก็บของก่อนดีกว่า…

    +++++++++++++++++++++++++++

    กว่าจะพาร่างอันแสนจะแคะแกรนของตัวเอง ฝ่าฝูงชนขึ้นไปยืนเบียดบนรถประจำทางอันแสนแออัด แล้วลงมายืนบนป้ายรถเมล์หน้าวัดแห่งหนึ่งก็เล่นเอาทะลักทุเลพอสมควร เมฆบนฟากฟ้ารวมกลุ่มกันหนาตา ฟ้าครึ้ม เมฆสีหม่น ๆ  ไม่น่าไว้ใจได้เลย แต่พัชรียาก็ก้าวเข้าไปยังท่าเรือที่อยู่ลึกเข้าไปตามทางเดินเพียงรถแล่นได้เลนเดียวเท่านั้น อีกพักใหญ่ก็ได้ลงไปนั่งในเรือด่วนเจ้าพระยาอย่างสบายอกสบายใจ ไม่ต้องยืนเบียดใครให้เมื่อย

    เสียงแชะ แชะ เร็วถี่ ๆ ดังอยู่ข้างตัว หันไปก็พบชายหนุ่มผมเกรียนคนหนึ่งแถมใบหน้ายังถูกกล้องตัวใหญ่ที่ราคาคงจะแพงพอตัว บดบังจนเกือบมิด สงสัยพวกเด็กศิลป์ …สายน้ำตรงหน้าดูกว้างใหญ่เหลือเกินเมื่อเทียบกับคนตัวเล็ก ๆ อย่างเธอ ถ้ามีโอกาสเธอจะชอบหาทางต่อรถต่อเรือเหมือนนโยบายที่ทางรัฐกำลังสนับสนุนอยู่ในขณะนี้ ก็บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ ได้เห็นวิถีชีวิตตามลำน้ำ ลมแม่น้ำพัดพากลิ่นอายความเป็นธรรมชาติไม่ต้องผจญควันพิษและการจราจรที่ติดขัด ช่างมีความสุขดีจัง…

    “เปลี่ยนที่กันมั้ยค่ะ?”  หญิงสาวเลิกเอามือท้าวคาง แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มที่บัดนี้กำลังลดกล้องลง ใบหน้าขาว ๆ หันมา ดวงตาดำรายล้อมไปด้วยขนตายาวงอน จมูกปากได้รูปก็ช่วยส่งให้คนตรงหน้าดูดีไม่น้อย ไม่สิดูดีมาก ๆ เลยในสายตาของคนทั่วไป

    คิ้วคนตรงหน้าเริ่มขมวดเข้าหากัน “ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นคุณถ่ายรูปอยู่ เผื่อมานั่งตรงนี้จะได้รูปชัด ๆ ไง”  พัชรียารีบบอกก่อนที่ชายหนุ่มจะสงสัยอะไรต่อ “แล้วเดี๋ยวชั้นก็จะขึ้นท่าหน้าแล้ว”

    เขาสายหน้า “ขอบคุณครับ แต่ไม่ต้องหรอก…จะขึ้นเหมือนกัน” ชายหนุ่มอุปกรณ์ ถอดเลนส์ และกล้องเก็บใส่กระเป๋าอย่างเรียบร้อย เธอจึงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้แล้วก็ไม่ได้สนใจคนข้างตัวอีกต่อไป

    เมื่อขึ้นมาจากท่าน้ำได้เรียบร้อย( ดีนะที่วันนี้ใส่กางเกงมาทำงาน ก็ที่ทำงานเธอน่ะ ใส่กางเกงทำงานได้จ๊ะ) ละอองบาง ๆ ของฝนบนฟ้าก็ร่วงลงมากระทบตัว พัชรียาจึงพาตัวเองก้าวยาว ๆ แกมวิ่งด้วยขาอันแสนสั้นไปตามทางเลียบแม่น้ำสายเล็ก ๆ ดีนะร้านที่เพื่อน ๆ นัดกันอยู่ห่างจากท่าน้ำไปไม่เท่าไหร่

    เพลงเบา ๆ ร่วมสมัยดังมากระทบโสตประสาทเมื่อเอื้อมมือผลักประตูบานเล็ก ๆ เข้าไป บรรยากาศไม่เลวเลยสำหรับร้านสังสรรค์ในวันสุดสัปดาห์แบบนี้ พัชรียาก้าวชึ้นไปชั้นสองอันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าบรรดาสมาชิกตั้งแต่สมัยทำงานที่แรกด้วยกัน ดาหรือดาริกา นุ่น-นิภาพร เพื่อนร่วมรุ่นแต่ต่างสถาบัน เจ๊หมวย-สินีพี่ใหญ่สุดแต่อายุห่างกันแค่สองปี ทุกคนทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งมาด้วยกันก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายไปตามทางที่แต่ละคนเลือกที่จะก้าวเดิน

    ดาทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งแถบชานเมือง ส่วนนุ่นกลับได้ทำงานที่ใหม่ในย่านธุรกิจที่สำคัญ ส่วนพี่ใหญ่ใจดี๊ดีก็ยังทำงานอยู่ในบริษัทเดิมต่อไป  และยังมีสิทธิสมาชิกอีกคนที่ย้ายตัวเองขึ้นไปเปิดร้านอาหารที่เชียงใหม่ซึ่งนาน ๆ ถึงจะลงมาเยี่ยมเยือนกันสักที

    “ทางนี้พัช”  เสียงตะโกนดังมาจากมุมห้องข้างหน้าต่างกระจกบานใหญ่ สมาชิกมากันครบทุกคนแล้ว

    “มานานยัง นี่ นี่”  พัชรียายื่นข้อมือข้างขวาที่ใส่นาฬิกาเรือนเล็กให้สมาชิกที่นั่งอยู่ให้ดู “ฉันไม่ได้มาสายนะ ตรงเวลาเป๊ะ”  แล้วเลยนั่งลงข้าง ๆ สาวร่างบางผิวเข้มผู้มีนามว่านุ่น

    “มีอะไรกินมั้ง แล้วยำถั่วพูฉันล่ะ สั่งให้ยัง”

    “เห็นแก่กินจริง ๆ แก มาถึงไม่ทักไม่ทายถามหาของกินก่อนเลยวุ้ย”  พี่ใหญ่ในกลุ่มเอ่ยยิ้ม แต่ก็ตักทอดมันชิ้นเหลืองกำลังดีใส่จานให้พัชรียาจนได้

    “ก็เห็น ๆ อยู่ว่าอยู่ดีมีสุขทุกคน ดูดิ มีมั้ยไม่เห็นมีใครเป็นอะไรสักคนนั่งกันหน้าบานกันขนาดนี่”  พลางจิ้มทอดมันตรงหน้าเข้าปากไปด้วย

    “ช่างมันเหอะพี่หมวย ปล่อยมันสักคน ปากแบบนี้หาอะไรอุดปากมันไว้อย่างนั้นล่ะดีแล้ว”  ดาเอ่ยขึ้นเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน ยกเว้นคนที่กำลังใช้ส้อมจิ้มทอดมันอีกชิ้นอยู่ สายตาเลยแลไปยังเก้าอี้ที่ว่างข้าง ๆ ดาริกา

    “แล้วนี่ เว้นที่ไว้ทำไม”

    “แขกพิเศษ”  น้ำเสียงแกมขบขันของสินีดังขึ้นเป็นคำตอบ  

    จากคุณ : พิจิกา - [ 16 ส.ค. 46 21:25:16 A:203.170.150.232 X: ]