ให้อกพี่เป็นที่ซับน้ำตา
ดวงมาลาเจ้าอย่าช้ำร่ำไห้
ให้ใจพี่เป็นที่สมานใจ
สิ้นอาลัยใสสร่างเศร้าโศกา......
ปราสาทแกะสลักสีขาว สูงสวย งามวิจิตร ในสวนพฤกษาที่ตัดแต่งประณีต เสียงประโคมดนตรีนุ่มนวลสอดประสาน พระราชพิธีมงคลงดงาม ยากหาสายตาในใต้หล้า ที่จะไม่ประทับใจ
บนผิวสระน้ำศิลาใสกลางมหาเศวตปราสาท ดอกไม้เทียนลอยล่อง น้ำกระเพื่อมน้อยๆ เปลวประทีปทองเรืองรองอร่าม กลิ่นมาลาที่อบร่ำเนื้อเทียนฟุ้งขจร
ในอากาศเยือกเย็นที่นิ่งสนิทละเอียดอ่อนนั้น
ภาพหนึ่งงาม ราวกับมิใช่สองตาเนื้อจะแน่ใจว่าได้ชม นอกไปจากในนิทราอันแสนสุข
เหมือนภาพฝัน ที่ทิพย์โลกชลอเอาทัศน์แห่งเทพราชาลงมาให้ชม
ราชธิดาเกษราพร่าพรายองค์ด้วยวัชระปิลันธนาภรณ์เคียงคู่...ท้องฟ้า... บุรุษที่งามเหมือนดั่งท้องฟ้านภากาศ อันมีสีขาวของเมฆ สีครามของคัคนานต์ และความพรายแพรวแห่งดวงดาว
พระปรางฝ่ายนารีคงประทินด้วยโสมนัสจึงเป็นสีระเรื่อเปี่ยมสุขเช่นนั้น
รัชทายาทแห่งสิหิงค์ผ่อนพระปัสสาสะพลางส่งเทียนบุปผาในพระหัตถ์ต่อพระหัตถ์เวียนไป กลางพิธีอภิเษก ราชวงศ์ราชอาคันตุกะเนืองแน่น บรรยากาศสุขเกษม เหตุใดในพระทัยจึงหมองเศร้า......
กรวิก
เสียงเรียกจากข้างกายเบาๆ เหมือนเตือนสติ
เหลือบตาไปได้สบสายตาของอนุชาซึ่งมองมาเหมือนจะถาม ......พี่ไม่สบายใจหรือ ?
มิได้ทรงตอบเพราะขณะนั้นมิสมควรจะสั่งสนทนาเท่าใดนัก ทรงพยายามไม่เหม่อ เรียกสติมาสู่ทุกอิริยาบถ กิรเดชคงจะสังเกตเห็น ตั้งแต่หลายเพลามาแล้ว ที่ พี่ชาย ไม่สบายใจ นับแต่เสด็จกลับมาจากต่างแคว้นครั้งหลัง เสด็จไปแล้วแทบจะทั่วทวีป
เจ้าควรจะหาคู่ครองได้แล้ว โอรสทั้งหลายที่วัยควรต่างก็วิวาห์แล้วทั้งนั้น เหลือแต่เจ้ากับกิรเดชสองคน กรวิก ชนมายุเจ้าน่ะเลยสมควรมาแล้วนะ
สามสิบนี่เลยสมควรแล้วฤๅท่านแม่
มิใช่อายุ แต่เป็น เวลา หรอกกระมังที่ควรจะเลยสมควรแล้ว
เจ็ดปีสำหรับความผิดหวัง คะนึงหาอาลัย นานไปไหม
เป็นความโศกครั้งหลังใช่ไหมที่ทำให้ทั้ง ๘ แคว้นในมหาทวีปที่ได้ย่างเยือนไปมิเคย ประทับใจ
....นินนาเป็นเพียงสามัญชน ไม่สมควรเป็นราชินี...
ก็เทวราชาเบื้องหน้านั้นหรือมิใช่ คนกำพร้า ที่ใครๆ เคยเรียกขาน ถึงกระนั้นมกุฏกษัตรีที่มุ่งมั่นพระองค์นี้ก็มิเคยตัดพระทัยไปจาก
พี่คงจะผิด นินนา มิใช่เพราะพี่ไม่เคยตัดใจจากเธอ แต่เป็นเพราะพี่ประมาณน้ำใจของเธอผิด เธอไม่ใช่ไม่รักพี่มาก หากแต่รักและเทิดทูนมากเกินไป จนสามารถทำลายหัวใจตนเองเพื่อพี่ได้เท่านั้น
ไม่รู้ฤๅว่าพี่มองเห็น แววตาโศกเศร้าที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้ม และหัวใจของเธอที่ยังคงมองมายังพี่ ขณะที่เดินตามชายผู้นั้นไป
นินนา แต่งงาน กับบุรุษที่สมศักดิ์สมฐานะกับเธอ
ทิ้งให้ ผู้ที่สูงศักดิ์เกินไปนั้นสลายแล้ว เหลือแต่โครงร่าง
ต่อไปนี้เขาจะไม่รักใคร.....
๗ ๖ ๕ ๔ ๓........ เพี้ยง......
องค์เล็กนั่งนับพลางภาวนาในใจจดจ่อ
....เทพยดาทั้งหลายอันศักดิ์สิทธิ์ฤทธิยิ่งใหญ่และเป็นฝ่ายข้าพเจ้า....ขอ.....
อุ๊ย หลุดโอษฐ์อุทานนิ่วพักตร์เมื่อรู้สึกถึงแรงหยิกที่ต้นแขนไม่เบานัก
ลุกลี้ลุกลนอะไรนะเรา
สุรเสียง ท่านแม่ กระซิบข่มขู่สำทับ สินีนาถเม้มพระโอษฐ์ นั่งนิ่งมิต่อคำ ขณะเนตรจ้องเขม็งไปยังหอพิธีฝั่งตรงข้าม โอกาสสำคัญ ที่เทียนหอมรูปดอกลีลาวดีดอกน้อยกำลังส่งต่อๆ กันไป ผ่านหัตถ์พระโอรสหลายแคว้นไปจนกระทั่ง....
๒......๑.......
องค์สูงผิวคล้ำ เนตรคมกริบในฉลองพระองค์ดำ
ตูม.....!
กลีบเทียนสีชมพูอ่อนจางห้ากลีบประกอบรวมกันมีก้านเกสรสีเหลืองประดิษฐ์อยู่บนฐานเทียนเล็กๆ ที่มีรูปทรงคล้ายถ้วยซึ่งช่วยพยุงให้ลอยน้ำ ผ่านพระหัตถ์มกุฎราชกุมารแห่งสิหิงค์มาถึงองค์รัชทายาทปทุมนคร ตอนล่างของถ้วยเทียนที่ทำเป็นชั้นช่องงดงามราวใครจงใจแกล้งปั้นไว้มุมหนึ่งก็หลุดออก ปล่อยน้ำตาเทียนที่เก็บกักเอาไว้พรูผ่านพระหัตถ์ลงไปถึงพระเพลาซึ่งทรงกำมะหยี่สีเข้ม เลอะเป็นรอยสีชมพูปนเหลืองเละๆ
ความร้อนที่เกือบจะลวกได้นั้นทำให้เผลอหลุดโอษฐ์อุทานออกมาเบาๆ
องค์กรวิกซึ่งประทับอยู่ข้างและเป็นผู้ส่งเทียนให้เองก็ยังตกพระทัยอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน
โอย ตายจริง ขอพระราชทานอภัย
วิศรุตรีบปฏิเสธ มิเป็นไรมิได้พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันซุ่มซ่ามเอง
เนตรคมกริบมองดอกไม้เทียนแวบเดียวก็เดาเรื่องได้ เนตรนั้นจึงปราดมองข้ามสระแก้วไปยังผู้หนึ่ง ในฉลององค์สีส้มอมชมพูคล้ายดอกไม้ เจ้าของ น้ำตาเทียน เม้มโอษฐ์พักตร์สีก่ำแกล้งเมินมองทางอื่น
เปลวประทีปยังลุกอยู่ในหัตถ์ และน้ำตาเทียนหยาดใหม่เริ่มหยดลงสู่ที่อันควรคือฐานดอกรูปถ้วยชั้นใน ที่คงไม่สามารถรั่วออกมาใส่ผู้ใดง่ายๆ แบบเมื่อครู่อีกแล้ว บนแผ่นคำพรเล็กๆ ตรงปลายจารึกพระนาม สินีนาถ ด้วยลายพระหัตถ์ดังจะเย้ยสายตา
ทรงส่งดวงมาลาต่อไป ทอดพระเนตรที่พระเพลาซึ่งหยาดเทียนเริ่มจับตัวแข็งเป็นลวดลายประหลาด นึกคำนวณกำหนดการว่าอีกเมื่อไหร่จึงจะมีโอกาสผลัดสนับเพลา ซึ่งก็คงจะอีกนานไม่น้อย
วิศรุตเม้มโอษฐ์ส่งเปลวตาอาฆาตข้ามห้องไป อย่าให้จับตัวได้ทีเดียว แม่จอมยุ่ง
ลวกพระหัตถ์หรือเปล่า
ผินพักตร์มาตอบเจ้าชายจากสิหิงค์ซึ่งยังทรงเป็นห่วง
ไม่ถึงเช่นนั้นหรอกกระหม่อม
กรวิกมองดูพระหัตถ์ซึ่งเป็นรอยแดงน้อยๆ อย่างจะให้แน่ใจ
น้ำตามันปริ่มอยู่แล้ว พี่ควรจะเตือนเธอสักหน่อยก่อน
วิศรุตว่า อย่ากังวลพระทัยไปเลยพระเจ้าค่ะ น้ำตาดอกไม้นั้นจงใจหยดใส่กระหม่อมแล้ว เป็นโชคนักที่มิได้พลอยเดือดร้อนผู้ใดไปด้วย
กรวิกขมวดคิ้วกับดำรัสตอบซึ่งคล้ายจะแฝงความนัย
ดอกไม้ร้องไห้ แต่มีใครคนหนึ่ง ยินดีรับน้ำตานั้นไว้เอง ดูคล้ายจะน่ายินดีกับดอกไม้
พี่หวังว่าจะทราบเหตุไฉนดอกลั่นทมสีชมพูดอกนั้นถึงร้องไห้กับเจ้าเสียมากมายนัก
วิศรุตหัวเราะ
เจ้าของเขาคงรื่นรมย์ใจมากเกินขนาดไปพระเจ้าค่ะ
กรวิกจึงเดาเรื่องได้ว่า ลีวาวดีดอกนี้เห็นทีเป็นของกุมารีองค์ใดสักองค์
ดอกลั่นทมร้องไห้ด้วยความยินดี
นัยนี้ ประทับพระทัย
จากคุณ :
ศรีจิตรา
- [
17 ส.ค. 46 15:04:16
]