รักกับทุกข์ ( ตอนที่ 2 )

    หลังจากวันนั้น ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเช่นเคย มันเหมือนๆ กับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ฉันไม่รู้ว่าเขาจะจัดการยังไงกับภรรยาน้อยของเขา ฉันไม่กล้าที่จะถามเขาว่า ระหว่างเขาและภรรยาน้อยมีภาระผูกพันอะไรกันหรือไม่ ได้แต่ต้องทำใจและเชื่อในตัวเขาอีกครั้ง ว่าเขาจะแยกทางกับผู้หญิงคนนั้นได้ในไม่ช้า และต้องเชื่อว่าเขารักเรา

    “อีสาย:-)บ้าหรือ:-)โง่วะ ผัว:-)มีเมียน้อยนะเว้ย แล้วนี่เท่าที่ฉันรู้มันก็นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แล้วที่:-)ไม่กล้าบอกฉันอีก ไม่รู้กี่ที” เพื่อนฉัน นังแจ๊ด พูดด้วยน้ำเสียงและหน้าตาเซ็งไปที่สุด แจ๊ดไม่เคยพูดอย่างนี้มาก่อน

    “:-)จะให้ัฉันทำไง ระหว่างต้องยอมทนเพื่อมีเขา กับยอมเจ็บที่จะไม่มีเขา ตอนนี้ฉันเลือกอันแรก :-)ก็รู้ฉันเลิกไม่ได้ :-)จะให้ฉันทำไง” ฉันสวนกลับโดยไม่คิด น้ำตายังคงไหล ที่จริงฉันไม่รู้ว่า ฉันอยากนังแจ๊ดมันปลอบ หรืกยุให้เลิกกันแน่

    “แล้ว:-)จะเสือกมาร้องไห้ทำไม ก็ตอนนี้มันก็อยู่กับ:-) มันก็ดีกับ:-)ไม่ใช่หรอวะ เฮ้อฉันว่าคงจะดีได้สัก 4-5 วัน :-)ก็หายแล้วฉันว่า เคยจำอะไรที่ไหนล่ะ:-) ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันอยากออกไปเที่ยว :-)ไปแต่งหน้าแล้วออกไปกับฉัน” นังแจ๊ดพูดจบก็เดินมาลากฉันไปล้างหน้า

    แล้วฉันกับนังแจ๊ดก็พากันไปเดินห้าง ฯ.. ไปกิน.. ดูหนัง.. ฯลฯ

    ในใจก็ยังคงคิดถึงแต่เรื่องเขาอยู่ตลอดเวลา แต่ก็อย่างที่นังแจ๊ดว่า ฉันมันคนลืมง่าย โกรธง่าย อ่อนไหว แต่ก็หายโกรธเร็ว แต่ใครจะรู้บ้างว่า ถึงฉันจะหายโกรธเร็วเพียงใดก็ตาม แต่ความรู้สึกเสียใจมันไม่เคยลบออกไปจากใจของฉันเลย มันอาจเหมือนกับคนไม่รู้จักปล่อยวาง ไม่รู้จักจบจักสิ้นเสียที แต่มันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

    คืนนั้นพอฉันกลับถึงบ้าน เวลายังคงดึกไม่พอที่จะได้เจอสามีของฉัน ฉันจัดแจงนำซูซิ และอาหารญี่ปุ่นอีกหลายอย่าง ที่ซื้อมาจาก ร้านที่เขาชอบ มาจัดใส่จาน พร้อมกับเตรียมเบียร์เย็นๆ เพื่อเป็นอาหารมื้อค่ำของเราทั้งสองคน

    มื้อค่ำในวันนั้นถึงแม้ฉันจะมีความสุข เขาทำดีกับฉัน เราทานอาหารด้วยกัน หัวเราะ ดื่ม และคืนนั้นเรา มีความสุขด้วยกัน ฉันเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ฉันไม่รู้ว่านี่คือ แพ้หรือชนะ เวลาที่อยู่กับเขาฉันมีความสุข แต่พอเขาไม่อยู่ฉันได้แต่นั่งคิดนู้นคิดนี่ คิดไปแล้วก็ร้องไห้ไป

    วันนี้ฉันก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยวหัวเราะแล้วอีกสักพักก็ร้องไห้ ฉันไม่เข้าใจตัวเอง และก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฉันจะหายจะโรคร้ายนี้สักที หรือมันคงจะต้องเป็นอย่างนี้ตลอดไป ตราบใดที่รักนั้นยังคงอยู่

    รักคือการให้

    รักคือการที่มีการให้

    รักคือการที่มีคนหนึ่งให้ และมีอีกคนหนึ่งรับ

    การให้และการรับนั้นสิ้นสุดอยู่ตรงไหน ใครตอบได้ช่วยตอบที



    หมายเหตุ ต้องขออภัยที่มีคำบางคำไม่เหมาะสมนะคะ

    จากคุณ : สายฟ้า - [ 19 ส.ค. 46 20:28:43 A:203.113.39.10 X: ]