ฉันยังอยู่

    แบบว่าว่างมาก ไม่มีอะไรทำนะฮะ วันนี้เป็นเรื่องสั้น หุหุ ช่วยๆกันอ่านหน่อยนะครับ

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

    สามปีแล้วซินะ จะว่าไปเวลามันก็ผ่านไปเร็ว หากผมไม่ไปคิดถึงเรื่องราวบางเรื่อง สามปีที่ผ่านมา ผมทำงานหนักและ พยายามไม่ให้ตัวเองว่าง เพื่อที่จะ ไม่ให้ตัวเองมีเวลาคิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา

    เรื่องราวที่ผมอยากจะลืมเมื่อสามปีก่อน มันคลับคล้ายคลับคลาว่า จะจางหายไปกับเวลาแล้ว หากแต่แท้จริงความเจ็บปวดนั้น มันยังคงอยู่ในใจผมตลอดมา

    วันนี้ผมนั่งอยู่ริมทะเล ที่ที่เคยเป็นที่ของเรา ผมเป็นคนที่ชอบทะเลเอาเสียมากมาก สมัยผมเรียนอยู่สถาปัตย์ อย่างน้อยๆ ต้องมาให้ได้เดือนละครั้งเลย มานั่งฟังเสียงคลื่นซะหน่อยก็ยังดี

    เธอคนนั้นเอง ก็ชื่นชอบทะเลอยู่ไม่ใช่น้อย ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ผมมาชายหาดแห่งนี้ เธอก็จะขอตามมาด้วยทุกครั้ง ครั้งแรกที่ผมและเธอมาทะเลด้วยกัน เราคบกันได้สามเดือน

    ผมมักจะมาแบบ มาเช้าเย็นกลับ ก็อาศัยเช่าผ้าใบบนชายหาดนอนฟังเสียงคลื่นไปเรื่อยๆ หากวันไหน เกิดนึกสนุกขึ้นมา ก็ไปเช่า เจตสกีมาขับเล่น ซึ่งเธอก็มักจะมาขอซ้อนทุกครั้งไป

    ก่อนจะกลับ เรามักจะไปแวะทานอาหารทะเลที่บ้านอำเภอ มันเป็นร้านประจำตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมมักจะมาทานอาหารทะเลกับครอบครัวผมที่นี่  

    สามปีแล้วหรือ ที่เรื่องราวต่างๆเหล่านี้ แปรเปลี่ยนเหลือเพียงความทรงจำเท่านั้น และเป็นความทรงจำ ที่อาจมีเพียงผมคนเดียวที่ยังคงจดจำมันได้อยู่

    “ชล ชล เราทานอาหารร้านนี้กันมั้ยคะ” เจ้าของเสียงนี้ เป็นหญิงสาวเชื้อสายจีน ซึ่งดูออกตั้งแต่หน้าตาแล้ว  หน้าตาสะสวย ผิวขาว ตัวเล็กกว่าผม ผมยาวแต่ถูกรวบเอาไว้ ดูเป็นคนร่างเริงเอามากมาก

    “แล้วแต่แพรละกันค่า” ผมตอบ ผมเป็นชายหนุ่มผิวดำแดง หน้าตาธรรมดาๆ ไม่มีอะไรพิเศษ อาจจะพิเศษตรงที่ สาวที่มากับผมซะมากกว่า  ผมทำงานเป็นสถาปนิกโครงการหมู่บ้านจัดสรรชื่อดัง เพิ่งเริ่มงานได้ไม่ถึงครึ่งปี

    จริง จริงแล้ว อะไรผมก็ทานได้ ผมไม่ใช่คนเรื่องมากอยู่แล้ว อีกอย่างถ้าลองแพรเอ่ยชวนแล้วล่ะก็ ยังงัย ก็ต้องเข้าไปทาน ถึงผมจะเลือกร้านอื่นก็ตาม

    “งั้นเราเข้าไปทาน ร้านนี้ละกัน แพรหิวแล้วด้วย” แพรเอ่ยพร้อมกับจูง แต่ผมว่า น่าจะเป็นลากผมเข้าไปมากกว่า

    “เอา ทาโกะยากิ ปลาดิบชุดนี้ แล้วก็ชาเขียว ว่าแต่ชลเอาอะไรดีคะ” แพรชอบอาหารญี่ปุ่นมาก โดยเฉพาะปลาดิบเนี่ย หลังจากเธอสั่งพนักงานเสร็จก็หันมาถามผม

    “ผมเอา ชุดสเต็กเนื้อครับ” ผมเองก็มักจะทานชุดนี้ประจำ สลับกับ ชุดกุ้งเทมปุระละครับ พนักงานทวนออเดอร์เราอีกครั้ง แล้วกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่ม ก่อนที่อาหารจะตามมา

    “ชลขา เสาร์ อาทิตย์นี้ ชลว่างมั้ยคะ แพรอยากไปดูหนังค่ะ” แพรถามผม เพราะเธอรู้ว่า บางครั้ง เสาร์อาทิตย์ผมต้องไปออฟฟิตเพื่อสะสางงานที่คั่งค้างทั้งหลาย

    “อืม อาทิตย์นี้คงยังไม่ได้หรอกนะคะ เพราะว่า งานเร่งมากเลย จะปิดโครงการที่สี่แล้วด้วยเนี่ย” ผมคิดถึงงานที่ต้องทำ มันก็เยอะเอาการทีเดียว ในใจยังคิดว่า เสาร์อาทิตย์ยังงัยก็ไม่พอหรอก สงสัยอาทิตย์หน้าทั้งอาทิตย์คงต้องทำโอทีแน่นอน

    “ว้า ทำไมนะ งานชลเยอะตลอดเลย เบื่อจัง” แพรบ่นกระปอดกระแปด

    มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นอย่างนี้หรอก งานผมยุ่งมาก ผมเองแทบไม่มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากทำงานเลย หลังจากเริ่มงานหลังเรียนจบ ผมก็เจอแพรน้อยลง อย่างมากแค่ทานข้าตอนเย็น อาทิตย์ละครั้ง ส่วนเรื่องไปเที่ยว ไปดูหนังเนี่ย สอง สามเดือนครั้งละมั้ง

    ถ้าเป็นเมื่อก่อน เสาร์ อาทิตย์เนี่ย เจอกันได้ตลอด หรือ วันธรรมดาเลิกเรียนเร็ว ผมมักจะไปหาแพรที่ คณะมนุษยศาสตร์ประจำ

    “โธ่ แพรขา ชลน่ะ” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรต่อมากไปกว่านี้ แพรก็พูดขัดขึ้นมาว่า

    “ค่า แพรรู้ค่า ชลเพิ่งเริ่มทำงานไม่นาน อยากตั้งใจทำผลงานให้ดี ไม่ให้ใครเค้าว่าได้ว่าเป็นเด็กฝาก ใช่มั้ยคะ ทราบค่า” อย่างน้อยๆ เธอก็ยังยิ้มให้กับผมหลังเธอพูดจบ

    “แหม ใช่แล้วค่ะ แพรก็รู้นี่นา” เพราะผมเพิ่งเริ่มทำงาน นั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่ง แต่การที่คนเพิ่งจบไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน ได้เข้ามาทำงานที่บริษัทมีชื่อแห่งนี้ได้ มันก็ต้องมีเส้นสายกันบ้าง ผมถึงต้องทุ่มเทให้กับงานนี้เต็มที่ อย่างน้อยๆ ไม่ให้เสียชื่อคนที่ฝากผมเข้าไป

    พนักงานยกทาโกะยากิมาเสริฟ เจ้านี่เป็นของชอบผมเลยทีเดียว แรกๆที่คบกัน แพรไม่ชอบเอาซะเลย แต่พอเห็นผมกินบ่อยๆเข้า เธอก็ขอลอง แล้วก็ติดใจ จนหลังๆ กลายเป็นผมเองที่นั่งดูเธอกินเจ้าลูกกลมๆ ไส้ปลาหมึกนี่ไป

    “ชล จะกินมั้ย มัวแต่จ้องหน้าแพรอยู่ได้ ไม่กินแพรเหมานะ” คนถูกมองพยายามหาเรื่องเบี่ยงเบนความสนใจของผม

    แหม จะทำงัยได้ ผมชอบมองเธอเหลือเกิน แฟนผมน่ารักนี่ครับ ไม่มองก็แย่แล้ว แต่ดูจากความเร็วที่เธอกินแล้ว ขืนผมไม่ทานตอนนี้ละก็ มีหวังอดแน่

    หลังจากเราทานอาหารเสร็จก็ออกมาเดินย่อยกัน ก็เรามาทานอาหารในห้างสรรพสินค้า เลยมีที่เดินเยอะแยะ อยากจะดูอะไรก็มีทั้งนั้นแหละ

    ส่วนใหญ่ก็ต้องไปร้านกิฟชอบแหละนะ ผู้หญิงทุกคนต้องเข้าไปร้านที่ขายของเล็กๆ พวกนี้ตลอดเวลา ผมมักจะยืนรอหน้าร้าน เพราะในร้านมักจะมีแต่ผู้หญิงกับเด็ก แล้วที่สำคัญคนแน่นมากมาก

    “แพร ผมไปร้านหนังสือนะ ข้างๆเนี่ย เสร็จแล้วไปตามละกัน” ผมเดินเข้าไปบอกแพร ผมว่าจะไปหาหนังสืออ่านซะหน่อย พักนี้ยุ่งๆไม่ค่อยได้เข้าร้านหนังสือเลย ผมชอบอ่านพวกแมกกาซีน อะไรที่มันทันสมัย พวกเทคโนโลยีนั่นแหละ

    ผมยืนอ่านอยู่พักใหญ่ แต่ยังไม่เห็นวี่แววแพรจะมา เสียหยิบหนังสือสองสามเล่มไปจ่ายเงิน แล้วเดินออกมาจะไปหาแพร แต่เมื่อผมออกจากร้าน

    “ชล ชล อยู่นี่ค่ะ” แพรร้องทักผม ผมสังเกตได้ว่า มีชายหนุ่มหลายๆคน ที่มองแฟนผมอยู่ แหมก็เธอน่ารักขนาดนั้น และสายตาเหล่านั้นก็มีแววอิจฉาชายหนุ่มผู้โชคดีอย่างผมด้วย ผมยิ้ม

    ผมเดินไปหาแพร แต่แล้วก็เพิ่งเห็นว่า แพรยืนคุยกะชายหนุ่มคนนึง หน้าตาออกทาง ตี๋ๆ ขาวๆ ใส่เสื้อเชิตมีสไตล์ กางเกงสแลก และ รองเท้าหนังราคาแพง ดูดีแบบที่สาวๆหลายๆคนชื่นชอบ

    “ชล นี่ มัทธ์งัย เพื่อนแพรสมัยเรียน ชลจำได้มั้ยคะ” แพรหันมาบอกผม นายมัทธ์ คนนี้ทำไมผมจะจำไม่ได้ ตามจีบแพรทั้งๆที่รู้ว่าแพรเป็นแฟนกับผม กว่าจะเลิกราไปได้ก็นานโขเชียว

    “สวัสดีครับ มัทธ์” ผมยิ้มให้

    “สวัสดีครับ เออ แพร เราไปก่อนนะ ไว้ยังงัย เราค่อยคุยกันนะ มัทธ์มีเบอร์แพรแล้ว ไว้จะโทหา ไปละ บายครับ ทั้งสองคน” ว่าแล้วนายมัทธ์ก็เดินลิ่วขึ้นบันไดเลื่อนไปทันที

    “พอดีว่าเจอเพื่อน เลยยืนคุยกันน่ะคะ ชล ว่าแต่ได้หนังสือมาหลายเล่มเชียว” แพรเอ่ยเมื่อเห็นถุงหนังสือในมือผม

    “ค่า ไม่มีอะไร ชลเห็นว่าแพรไม่มาซักที กลัวจะไปเหมาร้านเค้าอ่ะดิ ฮ่าๆ” ผมขำ

    “น่าเกลียด ชลล่ะก็ เห็นแพรเป็นอะไรนะ  ว่าแต่มืดแล้ว เรากลับกันเถอะค่ะ” แพรพูดพร้อมกับลาก เอ้ยจูงผมไปลานจอดรถ

    “จ้า จ้า ใจเย็นๆ ไม่รีบขนาดนั้น” ผมเอ่ย แต่ก็ต้องตามเธอไป ก็เธอจูงมือผมไว้นี่นา

    หลังจากวันนั้น ผมก็ยุ่งกับงานทุกวัน งานมากกว่าที่คิด โครงการกำลังจะปิดแล้ว แต่ผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จ ผมต้องไปคุมที่ไซท์งาน งานเร่งอย่างนี้ ผมเองก็เครียด ไม่เป็นอันทำอะไร

    “ฮาโหล ชล หรอ นี่แพรโทร มาหลายทีแล้วนะ ทำไมไม่รับคะ” เสียงหงุดหงิดมาตามสาย

    “ผมยุ่งมากเลยแพร คุมงานที่ไซท์ เนี่ยงานเร่งมากมาก ผมไม่ได้เอามือถือไปล่ะ ตอนนี้เพิ่งกลับมาออฟฟิต” ผมเพิ่งมาถึงออฟฟิตก่อนที่จะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดัง ผมยังไม่ทันได้ดูว่ามีใครโทรมาบ้าง ก็รับสายแพรก่อนนี่แหละ

    “แล้วตกลงวันเสาร์ว่างมั้ยคะ” แพรถาม

    “ท่าทางอย่าว่าแต่เสาร์เลยนะ หลังจากนี้ไปเป็นอาทิตย์แหละ ผมไปไหนไม่ได้หรอก” ผมบอกความจริงกับเธอ งานเหลืออีกไม่น้อย ตอนนี้งานช้ากว่าตารางไปเกือบห้าวัน มันจะต้องเป็นอาทิตย์ที่ยุ่งแน่นอน

    “อีกแล้วนะ ชลอ่ะ อย่างนี้ทุกที ให้คนอื่นทำมั่งซิ” แพรงอแงซะแล้ว

    “แพรก็รู้นี่คะ ว่าชล” ผมยังพูดไม่ทันจบ

    “ค่าๆๆๆๆ แพรทราบแล้วว่า คุณชลสิทธิ์ไม่อยากให้ใครมาว่า ว่าเป็นเด็กฝาก ขึ้นใจแล้วค่า งั้นแพรไปกับเพื่อนละกันนะ”

    “โอเคค่า ไว้หลังงานนี้เสร็จเราไปทะเลกันนะ” หลังจากผมเริ่มทำงาน ผมยังไม่ได้ไปทะเลอีกเลย ผมคิดถึงเสียงคลื่นจริงๆ

    “ได้ค่ะ งั้น แพรไม่กวนแล้วนะคะ ไว้คุยกันค่ะ บาย”

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เรื่องสั้นเรื่องแรกเลยครับผม กะว่า ไม่กี่ตอนก็พอ ยังงัยขอคำติชมด้วยนะครับผม

    แก้ไขเมื่อ 20 ส.ค. 46 07:20:14

    จากคุณ : ชินตาโร่ - [ 20 ส.ค. 46 07:19:40 ]