ในขณะที่สามีฉันตอนนั้น กำลังวัยเอาะ พาคณะ ญาติโยมวัยเดียวกัน ไปเที่ยวทะเล แน่นอน เป็นธรรมเนียม ตกดึก ต้องมีการเล่าเรื่องผี โดยมีสามีเป็นคนเล่า
เขานั่งหันหลังให้หน้าต่างบานไม้เก่าๆ ขณะความน่าสะพรึงกลัว ได้ไต่ลำดับมาถึงตอนเข้าได้เข้าเข็ม ก็ปรากฏ เงาของชายคนหนึ่ง โผล่ขึ้นมาตรงหน้าต่างข้างหลังสามี ซึ่ง ทุกคน หันหน้าประจัญหน้าต่าง อันดำมืดและเงียบ สามีไม่รู้เรื่อง แต่คนอื่นเห็นเงาแล้ว ให้ตาเหลือก!!!
หวัดดีครับ เสียงชายหนุ่มเจ้า ของเงาปริศนาทักทายเสียงใส แต่เสียงโต้กลับ กลับกลายเป็น กรี๊ดดดดดดดดดด วี๊ดดดดด กระเจิง กระจาย ชายหนุ่มหวัดดีครับ อยู่ในสภาพ !!!
ทุกคนแตกฮือ ด้วยความตกใจสุดขีด รวมทั้งสามีฉันด้วย โดน แล้ว โดน แล้ว
.
หวัดดีครับ ผมเอา น้ำแข็งที่โทรไปสั่งไว้มาส่ง
ทุกคนกินน้ำแข็งจนหมดแล้วโทรเรียกคนมาส่งน้ำแข็ง แต่ดันฟังรายการเพลินจนลืมเรื่องนี้ แต่คนส่งก็ช่างกระไร แทนที่จะมาทางประตู ดันโผล่ มาทางหน้าต่าง เล่นเอาชาวคณะ เยี่ยวแทบแตก (หรือความจริง อาจมีขี้แตกผสมโรงด้วย) เรื่องนี้ก็เฮฮาไป
+
+
เมื่อสามีอายุ 19 ยังไม่ได้ไปอเมริกา ก็นั่งเงกอยู่ที่บ้าน พลันอาม่า ซึ่งชอบนอนกลางวันเดินลงมาถามอย่างมุ่งมั่น อาจอ กลับมายัง อาม่าหมายถึงพี่ชายสามี
ยัง แม่สามีรีบตอบ ด้วยท่า ตกใจไว้ก่อน ถึงแม้คำถามจะไม่มีอะไรมาก แต่ด้วยเป็นคนขี้ระแวง แม่สามีจึงรีบระแวง นี่ เห็นอาจอ มายืนร้องไห้อยู่หน้าห้องนอนอาม่า ก็นึกว่ากลับมาแล้ว
คำพูดของอาม่า ทำให้แม่สามี ระแวง และตกใจสุดขีด ชะรอย ต้องมีเรื่องร้ายเกิดกับอาจอแน่ๆ สมัยก่อน ไม่มีมือถือด้วย ถ้าอย่างนั้นยังพอทำเนา บรรเทาความหวาดระแวงและขวัญเสียของแม่สามีได้บ้าง แต่นี่ ทุกคนต้อนั่งเฝ้ารอข่าวด้วยความกระวนกระวาย
พอตกเย็นได้เวลาทานข้าว อาจอก็กลับถึงบ้าน
เออ
โล่งอก มันกลับมาแล้ว ไม่มีอะไรนี่นา
วันนี้ผมเกือบตายแน่ะ อาจอ แฉขึ้น
แม่สามี ที่กำลัง Relax กลับตื่นตัวขึ้นมาอีก
อาจอเล่าให้ฟังว่าช่วงบ่าย เขาก็ไป โฮ่ฮากับเพื่อนฝูงตามประสา และเขาชอบเล่น โยนถั่วโก๋แก่ขึ้นฟ้า แล้วใช้ปากรับเป็นอันมาก คล้ายแสดงความเก่งให้เพื่อนได้ริษยา แต่คนเก่ง เก่งไม่ได้ทุกครั้งหรอก
ครั้งนี้ เขาโยนพรวด เมล็ดถั่ว ไหลรูดลงคอด้วยความลื่นถลา ไปปิดหลอดลมเข้าพอดี
โฮ๊ก อ๊อกๆๆๆๆ แคะ แค๊กๆๆๆ โอย อะ ห้อย อะ ห้อย เขาพยายามไอหลายรอบ แต่เมล็ดถั่วไม่ยอมออก จนเขาคิดว่าเขากำลังจะตาย เขาหน้ามืด แต่คล้ายมีแรงเฮือกสุดท้าย ถีบเมล็ดถั่วออกจากคอได้ เพื่อนๆ ช่วยกันมาดูแล จนเขาปกติและกลับบ้านได้
คนที่ใกล้ตาย คงมีจิตแรง สิ่งแรกที่พวกเขาคิด น่าจะเป็นคน หรือที่ที่เขาคุ้นเคย อาจอคนที่ อาม่าเห็น คงเป็นคนเดียวกันกับ คนที่หน้ามืดดำปี๋เพราะโก๋แก่!
วาระจิตสุดท้ายสำคัญนัก คนใกล้ตายที่รู้ตัวล่วงหน้า ญาติโยมจึง หาทางให้คนตายมีสมาธิจิตที่เป็นทางกุศล เช่น เอาหนังสือ หรือ เทปธรรมะมาเปิดให้คนใกล้ตายฟัง เพื่อการน้อมนำจิต ไม่ให้ไปคิดถึงเรื่องที่เคยปล้ำหญิงแล้วไม่รับผิดชอบ หรือ เรื่องเล่นถั่วโป แล้วชอบมากเป็นต้น เพราะนั่นจะส่งผลของการไปเกิดใหม่ในปรภพ
จิตยิ่งเป็นสามธิดี คิดแต่เรื่องดี ก็ยิ่งส่งให้เขาไปดีก่อน ส่วนเรื่องเวรกรรมอื่นจะตามทัน ก็เออ
มันเป็นเรื่อง เฉพาะหน้า เวรใคร กรรมมันก็แล้วกัน
(มีต่อนะ อยากอ่านไหม อ๋อ เบื่อแล้วเหรอ โอเต)
จากคุณ :
น้าสือสาว
- [
21 ส.ค. 46 23:20:43
]