กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ในหมู่บ้านที่ห่างจากเราออกไปทางทิศใต้
มีกระท่อมเล็กหลังหนึ่ง เป็นกระท่อมของคุณยาย
เราจะเรียกให้จำกันได้ง่ายๆว่า 'คุณยายทอผ้า' เพราะคุณยายมีอาชีพทอผ้าขาย
ในกระท่อมนอกจากจะมีคุณยาย ยังมีหลานสาวของคุณยายอยู่ด้วยอีกคนหนึ่ง
ซึ่งคุณยายเรียกเธอว่า เจ้าหญิงน้อย หรือไม่ก็เจ้าหญิงน้อยๆของยาย
เพราะเด็กหญิงเป็นเด็กน่ารัก กริยาท่าทางก็อ่อนหวานละมุนละไม
ไม่ผิดอะไรกับเจ้าหญิงตัวน้อยๆ
แต่เด็กหญิงกลับไม่อยากให้คุณยายเรียกเธอเช่นนั้น
เธอรู้สึกอับอายและกลัวว่าคนอื่นๆจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน
เพราะสองยายหลานเป็นคนยากจน
เสื้อผ้าที่ใส่ถึงจะซักรีดสะอาดเรียบร้อย แต่ก็เก่าจนมอซอ
และทั้งๆที่คุณยายมีอาชีพทอผ้า แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะทอผ้าใหม่ๆไว้ใช้
คุณยายมีเรี่ยวแรงพอเพียงจะทอผ้าไว้ขาย เพื่อเป็นค่าอาหารเท่านั้น
วันหนึ่งเด็กหญิงจึงเล่าความรู้สึกอายนี้ให้คุณยายฟัง
คุณยายจึงสอนเธอว่า
"เจ้าหญิงน้อยของยาย การที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆสักคนจะเป็นเจ้าหญิงได้หรือไม่
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าที่เขาใส่ ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนร่ำรวย และมีคนคอยรับใช้
แต่ขึ้นอยู่กับจิตใจและความคิดที่ดีงาม และยายก็คิดว่าหนูเหมาะสมกับคำๆนี้นะ
หลานสาวตัวเล็กๆที่น่ารัก"
คุณยายพูดพลางลูบศีรษะเด็กหญิงเบาๆ เด็กหญิงรับฟังอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
เพราะเจ้าหญิงในเทพนิยายที่เธอเคยรู้จัก ล้วนแล้วแต่สวมเสื้อผ้าที่งดงาม
แต่ในเมื่อคุณยายบอกอย่างนี้ เธอก็คิดว่าเธอควรจะทำตาม
ถึงไม่ได้เป็นเจ้าหญิงจริงๆก็คงไม่เป็นไร แค่ได้เป็นเด็กดีของคุณยายก็พอใจแล้ว
"เด็กดีต้องมีความเมตตา เมตตาคือช่วยเหลือผู้อื่น
ต้องมีความกล้าหาญ กล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม
กล้าที่จะยอมรับผิด กล้าที่จะเสียสละ กล้าที่จะให้อภัย
โอ เจ้าหญิงตัวน้อยๆของยาย ไม่รู้ว่าหลานจะเข้าใจสักแค่ไหน แต่ยายก็ยังอยากให้หลานเป็นคนดี"
คุณยายสอนเด็กหญิงด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและปราณี
เด็กหญิงชอบฟังเวลาที่คุณยายพูดกับเธอแบบนี้ และรู้สึกอยากจะเป็นคนดี
แม้บางทีจะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
บ่ายวันหนึ่ง ในฤดูกาลที่ท้องทุ่งเต็มไปด้วยรวงข้าวสีทองสดใส
บรรดาแม่ๆในหมู่บ้านต่างพาลูกสาวของตนมายังกระท่อมของเจ้าหญิงน้อยกับคุณยาย
มีคุณป้ารีดนมเดินจูงมือมากับเด็กหญิงแก้มใส
คุณน้าขายลูกกวาดที่มักมีขนมอร่อยๆมาแจกเด็กๆมากับเด็กหญิงน้ำใจ
แล้วก็คุณยายคนทำขนมปังพาเด็กหญิงใจดีมาแทนคุณแม่ของเธอที่มาไม่ได้
"หมู่บ้านจะมีงานฉลองหลังเก็บเกี่ยวกัน "
คุณป้าคนรีดนมบอกคุณยายด้วยดวงตาเป็นประกาย
"มีงานออกร้าน งานเต้นรำ และต้องมีขนมอร่อยๆแจกแน่ๆเลย"
เด็กหญิงน้ำใจแอบกระซิบเล่าให้เจ้าหญิงน้อยฟังบ้าง
"แล้วเราก็จะหาเจ้าหญิงน้อยประจำหมู่บ้าน ให้เด็กๆมาแสดงความสามารถกัน"
คุณป้ารีดนมเล่าต่ออย่างนึกสนุก
"พวกเราพาเด็กๆมาสั่งทอผ้าและตัดชุดใหม่ที่จะใส่ในงานวันนั้น"
บรรดาแม่ๆบอกกับคุณยายทอผ้าพร้อมๆกันด้วยน้ำเสียงเบิกบาน
ไม่มีใครทันเห็นแววหมองในดวงตาของเด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่งในนั้น
เจ้าหญิงน้อยๆค่อยๆเดินแยกตัวออกมาอย่างเศร้าสร้อย
"เราอยากมีเสื้อผ้าสวยๆใหม่ๆอย่างคนอื่นบ้าง บางทีในงานฉลองถ้าเรามีชุดสวยๆใส่
เราอาจจะได้เป็นเจ้าหญิงจริงๆก็ได้ "
เด็กหญิงรำพึงออกมาเบาๆและคิดจะเข้าไปขอร้องคุณยายให้ทอผ้าผืนใหม่ให้
แต่พอกลับเข้าไป เธอก็เห็นคุณยายกำลังยุ่งอยู่การทอผ้าที่รับปากบรรดาแม่ๆไว้
"ถ้าเราขอให้คุณยายทอผ้าให้ใหม่ คุณยายคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ"
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเด็กหญิงจึงพยายามไม่คิดถึงเรื่องเสื้อผ้าชุดใหม่อีกต่อไป
และรีบเข้าไปช่วยคุณยายทำงาน
ผ้าทั้งสามผืนที่ทอเสร็จสวยงามราวกับชุดเจ้าหญิงในฝัน
ชุดของเด็กหญิงแก้มใสมีสีเงินยวงเหมือนแสงของดวงจันทร์
ชุดของเด็กหญิงน้ำใจมีสีสันสดใสคล้ายแท่งลูกกวาด
ชุดของเด็กหญิงใจดีมีสีขาวสะอาดเหมือนแป้งที่โม่เสร็จใหม่ๆ
คุณยายทอผ้าทำงานทุกชิ้นด้วยความสุขและความตั้งใจ
ผลงานที่ได้จึงพิเศษและสวยงาม
"ชุดของพวกเธอสวยจัง"
เจ้าหญิงน้อยเอ่ยชมเพื่อนๆอย่างจริงใจ
และรับชุดที่ลองเสร็จมาห่อลงถุงผ้าให้ เพื่อที่ชุดสวยๆใหม่ๆจะได้ไม่เปื้อน
"แล้วชุดของเธอล่ะ"
เด็กหญิงแก้มใสถาม เจ้าหญิงน้อยเพียงแต่ยิ้ม
"แล้วเจอกันเย็นนี้นะ"
เพื่อนๆบอกเมื่ออกจากกระท่อมไป อย่างร่าเริงแจ่มใสเหมือนนกตัวน้อยๆในยามเช้าที่แสนเบิกบาน
งานเลี้ยงฉลองในเย็นวันนั้นเต็มไปด้วยของสวยๆงามๆ
มีไฟสีต่างๆประดับต้นไม้ ขนมและลูกกวาดสีสดสวยมากมายไว้แจกเด็กๆ
แต่ที่ทุกคนรอคอยคือผลการตัดสินว่า เด็กหญิงตัวเล็กๆคนไหน จะได้เป็นเจ้าหญิงของหมู่บ้าน
แล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อผู้ใหญ่บ้านก้าวขึ้นไปบนเวที
และประกาศด้วยเสียงดังกังวาน ขานชื่อเด็กหญิงทุกคนในหมู่บ้านไปยืนแถว
เจ้าหญิงน้อยก็ต้องไปกับเขาด้วยเช่นกัน เธอจึงได้แต่คอยยืนแอบอยู่ข้างหลัง
เพราะรู้สึกอายในเสื้อผ้าเก่าๆที่ใส่ มองไปทางเด็กหญิงใจดีและเด็กหญิงแก้มใส
ชุดสีขาวสะอาดและสีเงินยวงสะท้อนแสงจันทร์และแสงไฟเป็นประกาย
เด็กหญิงน้ำใจเองก็อยู่ในชุดลูกกวาดสีสดใส เด็กคนอื่นๆมีชุดใหม่ๆสวยๆกันทั้งนั้น
"และผู้ที่ทุกคนเห็นควรแล้วว่าจะได้เป็นเจ้าหญิงน้อยของหมู่บ้าน
คือหลานสาวคุณยายทอผ้า"
ทันใดนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศเรียกให้เจ้าหญิงน้อยเดินออกมา
เด็กหญิงทั้งงุนงงและสงสัย จนกระทั่งคุณป้ารีดนมมาจับมือเธอไว้
คุณน้าขายลูกกวาดเอามงกุฎดอกไม้มาสวมให้
และคุณยายคนทำขนมปังกระซิบเบาๆที่ข้างหู
"สมควรแล้วจ้ะที่เป็นหนู"
"ดีใจด้วยเจ้าหญิงน้อย รางวัลนี้เป็นของใครไม่ได้จริงๆนอกจากเธอ"
เพื่อนๆต่างเข้ามารุมล้อมแสดงความดีใจ
ในขณะที่เด็กหญิงยังคงประหลาดใจ
"เพราะคนที่เป็นเจ้าหญิงได้จะต้องมีจิตใจดีงาม
การที่เธอยอมใส่เสื้อผ้าเก่าๆไม่ไปรบกวนคุณยาย
การที่เธอดูแลเสื้อผ้าเพื่อนๆด้วยความเอาใจใส่อย่างจริงใจ
และการเป็นเด็กดีของเธอ ทำให้เราทุกคนเต็มใจยกให้เธอเป็นเจ้าหญิงน้อย"
เด็กหญิงแก้มใสกระซิบบอก
"มานี่สิ เจ้าหญิงตัวน้อยๆ เธออยากจะพูดอะไรกับทุกคนไหม"
ผู้ใหญ่บ้านกวักมือเรียกเจ้าหญิงน้อยเข้าไปใกล้
ตอนนั้นเธอเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่คือความจริง และนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
"ตอนแรกที่มางานวันนี้ หนูรู้สึกอับอาย อายที่ต้องใส่เสื้อผ้าเก่าๆ
ถึงคุณยายจะบอกว่าการเป็นเจ้าหญิงจะเป็นที่จิตใจ หนูก็ยังอาย"
เด็กหญิงหยุดพูดและนิ่งเหมือนคิดอะไร
"แต่วันนี้ทุกๆคนใจดีมาก ทุกคนทำให้หนูไม่นึกอยากมีเสื้อผ้าสวยๆอีกต่อไป
และหนูก็เชื่อแล้วว่าการเป็นเจ้าหญิงเป็นที่จิตใจ หนูขอบคุณเด็กหญิงใจดี
เด็กหญิงแก้มใส เด็กหญิงน้ำใจ และเพิ่อนๆทุกคนที่มีน้ำใจ ยอมให้หนูเป็นเจ้าหญิงน้อยของหมู่บ้าน
หนูคิดว่าเพื่อนๆทุกคนก็ใจดีและเป็นเจ้าหญิงได้เช่นกัน"
พอเด็กหญิงพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังลั่น และงานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้นอย่างสนุกสนาน
นับจากวันนั้นทุกๆบ้านก็จะมีเด็กหญิงตัวเล็กๆที่เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่
เป็นเจ้าหญิงน้อยๆที่น่ารักของบ้าน และเติบโตไปเป็นหญิงสาวที่มีจิตใจดีงาม อ่อนหวาน
เพื่อเป็นเจ้าหญิงจริงๆในชีวิตใครสักคน :)
จากคุณ :
เจ้าหญิงน้อย
- [
22 ส.ค. 46 17:40:44
A:203.113.61.198 X:
]