ช่วยอ่านเรื่องสั่นของเราหน่อยนะ อ่านแล้วก็ช่วยวิจารณ์ด้วยว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุงตอนต่อไป
Wish-mail
จดหมาย-ปรารถนา
เริ่มต้น
เราเลิกกันเถิด...เราคบกับเธอไม่ได้หรอก แล้วเธอก็เดินจากผมไปในที่สุด
เฮ้อ.....ทำไมหน้า พอผมนึกคำนี้ทีไร ทำไมจิตใจของผมต้องห่อเหี่ยวจังเลย ทั้งๆที่จริงคำนี้มันผ่านมานานแล้วนิ..
เมื่อสามปีที่แล้ว ตอนที่ผมเรียนอยู่สมัยม.ปลาย ผมได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอน่ารักและสวยมากเลยที่เดียว ซึ่งตอนนั้นผมเห็นเธอในวันที่ผมไปลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด
เพื่อเข้าเรียนต่อในระดับม.ปลายที่นี่ ขนาดวันแรกนะเนี้ย มีผู้ชายมารุมจีบเธอเต็มไปหมดจนเป็นที่สนใจของคนแถวนั้น แต่แล้วเธอก็ปฏิเสธคำพูดทุกอย่างจากพวกผู้ชายเหล่านั้น แล้วเธอก็เดินหนีไป เหมือนเธอรังเกียจผู้ชายอย่างกะอะไรดี สงสัยเธอต้องมีอะไรในใจกับผู้ชายแน่ๆเลย ไม่งั้นไม่เป็นอย่างนี้หรอก ผมคิดเช่นนั้น
แต่น่ารักจังเลยวะ อย่างนี้ต้องลองจีบบ้างแล้วเรา ผมพูดอย่างเบาๆ
จดหมาย-ปรารถนา ตอนที่ 1
เกน ๆ ตื่นได้แล้วลูก วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกน้าลูก แหมวันแรกก็ตื่นสายเลยนะ เดี๋ยวไป
โรงเรียนไม่ทันหรอกลูก 6โมงเช้าแล้ว ตื่นๆ แม่ผมเรียกอย่างหงุดหงิด
เมื่อเสียงเรียกสิ้นสุดลง ผมค่อยๆเปิดม่านตามองดูโลกของการเปิดเรียนวันแรก
โอ๊ย ทำไมมันชั่งง่วงอะไรเช่นนี้ ผมกล่าวกับตัวเองอย่างเบาๆ พร้อมตะโกนออกไปว่า
ครับตื่นแล้ว จะลงไปเดี๋ยวนี้
รีบลงมาละเดี๋ยวจะเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ แม่ตอบกับมา
อันที่จริงผมไม่อยากขานรับหรอกครับ ผมจะนอนต่อด้วยซ้ำ เพราะผมง่วงนอนมาก คืนทั้งคืนมัวแต่คิดถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่ผมเจอเธอเมื่อวันลงทะเบียนที่โรงเรียน อยากรู้จังเนอะว่าเธอเป็นใคร
และชื่ออะไร ว่าแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ และรีบลงไปข้างล้าง
แม่ครับพ่อครับผมไม่ทานข้าวนะ ผมไปโรงเรียนก่อนดีกว่า สวัสดีครับพ่อแม่ ผมกล่าวบอกท่าน
พร้อมทั้งหยิบรองเท้าที่ผมเตรียมไว้เมื่อคืนที่หน้าประตูนำไปใส่นอกบ้าน และผมก็ได้ยินเสียงแม่ผมบอกว่า
ดูสิ... นึกจะทำอะไรก็ทำ แปลกคนจัง แม่ผมบอกกับพ่อผมที่กำลังทานข้าวเช้าอยู่
ไม่แปลกหรอก เด็กมันกำลังเห่อ พ่อผมตอบกลับ
พอผมได้ยินทั้งทั้งสองคนคุยกัน ผมก็ยิ้มในใจ และก็รีบออกไปทันที
อ้าว! นึกแล้วว่าต้องลืมจนได้ แม่ผมบอกกับพ่อผม
ลืมอะไรหรอจ๊ะ พ่อผมตอบกับ
ก็ลืมเงินไปโรงเรียนที่เตรียมไว้บนโต๊ะกับข้าวไง สงสัยมีเงินอยู่แล้วมั้ง แม่ผมบอกพร้อมทั้งยิ้มกับพ่อผม
แต่กว่าผมจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วละครับ (อ้าวเป็นอย่างนั้นไป)
โรงเรียนของผมนั้น ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30นาที อันที่จริงแล้วไม่นานหรอกครับ แต่ที่นานก็เพราะว่า ผมต้องรอรถสองแถวประจำหมู่บ้าน ซึ่งในแต่ละคันก็ห่างประมาณ15นาที และในแต่ละคันนั้นมีแต่เด็กนักเรียนเต็มไปหมดเลย ทำให้ผมต้องตัดสินใจเดินไปโรงเรียนดีกว่า ถ้าขืนรอคันต่อไปเรื่อยๆไปโรงเรียนสายกันพอดี ผมจึงเริ่มเดินออกจากหน้าบ้านผมไปยังโรงเรียนผม
ระหว่างทางที่ผมเดินนั้นเต็มไปด้วยบ้านเรือนที่เพิ่งสร้างกัน บางบ้านก็มีแต่ตอไม้ บางบ้านก็มีแต่
รั้ว ดูแล้วตลกดีเหมือนกัน อันที่จริงผมไม่ค่อยคุ้นที่นี่เท่าไรหรอก เพราะว่าผมเพิ่งย้ายมาอยู่กับพ่อแม่ผม แต่ก่อนนั้นผมอยู่กับน้ามาก่อนที่กรุงเทพ แต่ผมไม่อยากอยู่ที่นั้นอีกต่อไปแล้ว ผมอยากอยู่ใกล้พ่อแม่ดีกว่า ใกล้ทุ่งนาที่ผมเคยวิ่งเล่น ใกล้บ่อน้ำที่ผมเคยว่าย นึกแล้วน่าสนุกจัง
ผมนึกในใจพร้อมทั้งก้าวขาเดินต่อไปเรื่อยๆ แต่ผมมารู้ตัวอีกที ผมเดินผ่านทุ่งนานี้ตั้งแต่เมื่อไรนิ
เมื่อกี้ยัง สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านเรือนอยู่เลยนิ ผมพูดพลางออกมาเบาๆพร้อมทั้งมองกลับไปข้างหลังเพื่อตรวจสอบทางเดิน
อ้อ! เราผ่านบ้านเรือนแถวนั้นมานานแล้วนิ แย่จังเลย..เมื่อแต่นึกถึงอดีตๆเลยหลงๆลืมๆเลย
ผมกล่าวกับตัวเอง พร้อมทั้งเดินต่อไป
แต่..นึกถึงที่ไรก็สบายใจจริงโว้ย ผมตะโกนออกไปพร้อมทั้งบิดขี้เกียจ
นิเธอ? บ้าหรือเปล่ามาตะโกนอะไรตรงนี้ เสียงของคนข้างหลังผม
ใครวะ ผมพูดออกไป พร้อมทั้งหันหน้ากลับไปข้างหลัง
นิ..ถามดีๆแล้วยังมาว่าเราอีก เสียงของคนข้างหลังผมตอบ
เฮ้ย!! ผมตกใจอย่างสุดขีด
อะไรเป็นไรหรือเปล่า เสียงของคนข้างหลังผมตอบ
ผมรีบตั้งสติ พร้อมตอบกลับไปว่า
เออๆ เปล่าครับผม
เสียงที่ถามผมนั้นเป็นเสียงของผู้หญิงที่ผมเจอวันที่ลงทะเบียนที่โรงเรียน เธอทำเอาหัวใจของผมเต้นไม่หยุดเลย ผมเป็นอย่างนี้เละครับ เวลาเจอคนที่ผมชอบทีไรหัวใจมันเต้นไม่หยุดทุกที เธอชั่งน่ารักอะไรเช่นนี้ หน้าตาก็ใสเหมือนเด็กๆ ผมก็ซอยบางๆ หุ่นก็ดี การแต่งตัวก็เหมือนกับลูกคนมีเงิน น่ารักแบบนี้จะมีอีกไหมเน้อ
เธอๆจะเดินไปโรงเรียนหรือไง เธอถามผม
ครับๆผม ผมกำลังจะเดินไปโรงเรียน ผมตอบ พร้อมหยุดความคิดทั้งหมดที่ขึ้นมาในสมองของผม
เธอนิแปลกคนจัง ไม่มีใครแถวนี้เดินไปโรงเรียนกันหรอกนะ ส่วนใหญ่มักจะรอรถสองแถวกัน
เธอบอกผมพร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ เหมือนผมเป็นตัวตลก แต่ผมมานึกในใจ เมื่อกี้ผมหันกลับไปยังไม่มีคนเดินตามมาเลยนิ สองข้างทางก็ไม่แต่ทุ่งนากับป่ารกๆ ซอยก็ไม่มี แล้วเธอเดินมาจากไหนน้า ผมจึงถามเธอต่อไปว่า
เธอเดินตามเรามาหรือ? ผมถามเธอ
ก็ใช้ไง เธอนั้นเละบ้า.. เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเอง และก็ยังตะโกนอะไรที่ริมถนนอีก เธอตอบ
แสดงว่าเธอเพิ่งย้ายมาแน่เลย ไม่เคยเห็นหน้านิ เธอถามผม
ครับ ผมเพิ่งย้ายมาอยู่กับพ่อแม่ ผมตอบ
พอผมตอบเธอ ในใจของผมก็นึกว่า วันนี้เธอมาแปลกจัง เมื่อคราวก่อนก็เห็นไม่อยากคุยกับผู้ชายเลย แต่ทำไมวันนี้จึงยอมคุยกับผม อีกใจหนึงผมก็อยากจะถามเธอ แต่ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวเธอจะ
โกรธผม และไม่ยอมคุยกับผมต่อ
เธอชื่อไรละ ผมถามเธอ
เราชื่อแพรว และเธอละ เธอถามผมกลับ
เราชื่อเกนครับ ผมตอบเธอ
ชื่อแพรว ชื่อเพราะจัง แสดงว่าชื่อจริงต้องเพราะด้วยแน่เลย ชื่อปรานวาศใช้หรือเปล่า
ผมแกล้งถามเธอ
เอะ..ทำไมเธอรู้ละ เรายังไม่ได้บอกชื่อจริงเธอเลย เธอทำหน้างงๆ
ก็เราอ่านชื่อเธอบนเสื้อเธอไง ผมตอบพร้อมทั้งยิ้มๆ
เดี๋ยวโดน มาแอบอ่านชื่อเรา เธอตอบผมอย่างอายๆ
งั้นแล้วมาเรียกชื่อเล่นกันดีไหม เธอถามความคิดเห็นผม
ดีเหมือนกัน ผมตอบกับไป
และแพรวเดินไปโรงเรียนทุกวันเลยหรือ ผมถามเธออย่างสงสัย
ใช้จ๊ะ เราเดินทุกวัน แพรวตอบผม
ไหนบอกว่า คนแถวนี้ไม่ชอบเดินไปไง ผมถามแพรว
ก็ไม่แต่แพรวไง ไม่งั้นแพรวไม่รู้หรอก แพรวตอบผม
อ้าว ทำไมแพรวไม่ขึ้นรถละ ผมถามแพรวต่อ
เราชอบเดินมากกว่า อีกอย่างโรงเรียนอยู่แค่นี้เอง แพรวตอบ
ระหว่างทางที่เราเดินไปโรงเรียนนั้น เราสองคนก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนมารู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้าโรงเรียนเสียแล้ว ทำไมมันเร็วเช่นนี้ ถ้าผมเดินมาโรงเรียนกับแพรวทุกวันก็ดีละสิ ผมนึกในใจจนแพรวสงสัยจนเธอถามผม
เป็นไรหรือเปล่า แพรวถามผม
เปล่าไม่เป็นไร ผมตอบ
งั้นแพรวขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะ บ้ายบาย แล้วแพรวก็เดินจากผมไปเข้าไปในโรงเรียน
เฮ้อ..เมื่อกี้น่าจะถามน้าว่าอยู่ห้องอะไร ลืมจนได้เลย ผมกล่าวกับตัวเอง พร้อมทั้งเดินเขาไปในโรงเรียน
จากคุณ :
X-port (เด็กช่างคิด)
- [
22 ส.ค. 46 21:37:49
A:203.148.208.164 X:unknown
]