คําสาปรัก บทที่ 6

    ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ห่างหายไปเสียนาน ทํางานหนักเกินไปหน่อยคะช่วงนี้

    และก็ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านๆอีกครั้งหนึ่งนะคะที่ติดตาม
    อ่านเรื่องแปลของดิฉัน :) ความลับเริ่มจะเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ
    แล้วหละคะ เหลืออีกแค่ 4 บทเท่านั้นเองนะคะ ถ้ามีความ
    คิดเห็นประการใดก็ช่วยแนะนําได้นะคะ ดิฉันยินดีรับฟังคะ

                                  บทที่ 6
    แสงสุริยันต์กําลังจะลับขอบฟ้า แว่วเสียงลมพัดมาแต่ไกลในยามพลบคํ่า เขาและเธอเดินเคียงคู่กันมุ่งหน้าไปยังหน้าผาสูงชัน ร่างกายและจิตใจของเขาผ่อนคลายความตึง
    เครียดที่เขามีมาหลายสัปดาห์

    ถ้าว่ากันด้วยเหตุและผลในตอนนี้ละก้อ เคลินคิดว่าเขาควรจะวิ่งเหมือนรถด่วนไปที่โรงพยาบาลประสาทเพื่อเช็คประสาทตัวเองให้แน่ใจว่าเขายังปกติดีอยู่ แต่ หน้าผาข้าง
    หน้าที่ดูอ้างว้างเงียบเหงา ซากปราสาทปรักหักพังที่มีมนตร์ขลัง รวมไปถึงผู้หญิงที่มีใบหน้าที่สวยงามคนนี้ที่ยืนอยู่ข้างเขาๆซึ่งเธออยากจะให้เขาเชื่อว่าเธอเป็นแม่มด...และท้ายสุด ภาพมายาต่างๆที่เขาเห็น การได้สัมผัสเธออีกครั้ง และตํานานของความรักอันยิ่งใหญ่ที่เธอบอกเขา ทําให้เขาคิดว่าตัวเองควรจะต้องท้ิงเหตุและผลต่างๆไปก่อนสักพักหนึ่งเขาอยากจะลืมมันไปสักพักหนึ่งก่อนแล้วค่อยกลับมาคิดถึงมันใหม่ทีหลัง

    “ไอร์แลนด์เป็นประเทศที่สวยงามจริงๆนะครับ” เขาเอ่ยชม

    “คุณรู้ไหมผมพยายามจะตั้งสติปรับตัวให้เข้ากับสถานที่แห่งนี้เพราะผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่เมื่อเช้านี้เองยังไม่ถึงสิบสองชั่วโมงดีด้วยซํ้าไป”

    “แต่หัวใจคุณมันฝังรากอยู่ที่นี้นานมาแล้วคะ”

    มันเหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ได้เดินเกี่ยวก้อยไปกับเขาแบบนี้ เหมือนกับว่ามันเป็นอะไรที่เธอกับเขาทําอยู่เป็นประจํา ในหัวใจเธอมันช่างเหมือนกับว่าได้เกิดปาฎิหาริย์ขึ้นที่เธอได้เดินเคียงข้างกับเขาอีกครั้ง

    “เล่าให้ฉันฟังถึงนิวยอร์กบ้างสิคะ ฉันเคยเห็นแต่ในหนังและก็รูปภาพมันยิ่งทําให้ฉันอยากรู้เกี่ยวกับนิวยอร์กมากขึ้น มันเหมือนในหนังไหมคะที่ผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ รวดเร็ว และก็มีแต่เรื่องตื่นเต้นตลอดเวลาจริงหรือคะ?”

    “มันก็คงจะจริงมั้งครับ” และในขณะนั้นนิวยอร์กสําหรับเขาเหมือนกับอยู่กันคนละโลกเหมือนกับว่าอยู่ห่างไกลกับเขาสักหนึ่งพันปีมาแล้ว

    “แล้วบ้านคุณละคะเป็นยังไง?”

    “ผมอยู่ในอพาร์ทเมนต์ คุณสามารถมองเห็นสวนสาธารณะจากที่ที่ผมอยู่ได้ ผมชอบที่กว้างๆเพื่อที่จะได้สร้างห้องทํางานของผมในนั้นได้ และอีกอย่างมันก็เป็นที่ที่มีแสงและเงาที่ผมชอบ”

    “ฉันจําได้ว่าคุณชอบที่จะยืนอยู่ตรงระเบียง” หล่อนกําลังจะบอกเขาต่อแต่เหลือบไปเห็นเขาส่งสายตาคมกริบมาที่เธอเหมือนกับว่าเขาเริ่มจะโมโหขึ้นมาต่อสิ่งที่เธอกําลังบอกเขา มันทําให้เธอเหนื่อยหน่ายใจต่อท่าทีของเขาขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

    “ฉันก็แค่แอบย่องไปดูคุณบ้างบางครั้งบางคราเท่านั้นเองนะคะ”

    “แอบย่องไปดูผม???”
    เขาเอื้อมมือไปยึดคางเธอไว้ในอุ้งมือเขาไม่ให้เธอหนีหน้าไปไหน

    “ไหนลองบอกผมทีซิว่าคุณไปแอบดูอะไร อย่าโยกโย้นะครับบอกผมมาตรงๆ”

    “ก็ฉันต้องการจะรู้ว่าคุณอยู่อย่างไร แล้วก็ทํางานยังไงเท่านั้นเองจริงๆนะคะ”

    เธอถอยห่างออกไปจากเขาและออกเดินช้าๆไปข้างก้อนหินที่เรียงรายอยู่ตรงนั้นซึ่งมีนํ้าพ่นออกมาสาดไปทั่วเหมือนกับเพชรที่ส่องประกายแพรวพราวยามที่ถูดสาดส่องด้วยแสงสุริยา

    “โอ้คุณนะมีผู้หญิงมาเยี่ยมเยียนเยอะนะคะเคลินฟาเร็ลล์ผู้หญิงพวกนั้นมาหาคุณท้ังๆที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบชุดและที่ไม่มีผ้าผ่อนติดตัวเลยสักชิ้นก็ยังมี”

    เขาห่อไหล่ตัวเองเหมือนกับว่าเขากําลังอยากจะเกาหลังตัวเองอยู่ในตอนนี้แต่มันไม่สามารถเกาถึงได้

    “คุณแอบมาดูผมกับผู้หญิงคนอื่นอย่างงั้นหรือ”

    ยังมีต่อ...

    จากคุณ : โรส สลาลินน์ - [ 24 ส.ค. 46 04:07:50 A:12.108.141.179 X: ]