@^o^@ เรื่องรักวันรับน้อง @^o^@

    " หา! " เสียงใสๆอุทานขึ้น น้ำเสียงบ่งบอกถึงความแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง
     ทำให้เขาต้องกลั้นยิ้มแทบตาย  ทำไมน่ะเหรอ  ก็หน้าตาอันเหรอหรา
     ของหล่อนน่ะสิ ดูเอ๋อสิ้นดี
    " หาอะไรคุณ ให้ผมช่วยหาไหม "  เสียงทุ้มถามกลับมา
     ทำให้สาวเสียงใสหน้าเอ๋อเมื่อกี้ อึ้งไป 2 - 3 วินาที แล้วตามด้วยการ
     ส่งสายตาค้อนผ่านดวงตากลมโตสวยไปยังชายหนุ่มชุดดำที่อยู่เบื้องล่าง

    " ก็พี่บอกว่า "ยังไม่ทันที่หล่อนจะพูดจบประโยคชายชุดดำคนเดิมก็พูดแทรก
    " ใครเป็นพี่คุณ "  หญิงสาวแอบถอนหายใจ
    " ก็คุณบอกว่า " เอาล่ะสิ หล่อนจะใช้คำแทนตัวยังไงดี  ดิฉัน  ฉัน  หรือหนู
     โอ้ย ! รับน้องเฮงซวยบ้าบออะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ ขืนแทนตัวเองว่าหนู  
     อีตาบ้าคนนั้นคงบอกอีกแหละว่า หนูที่บ้านคุณ ตัวโตขนาดนี้เลยหรือ เฮ้อ!

    " ว่าไงคุณ "
    " ก็คุณบอกว่า ให้ถือดอกกุหลาบนี่ให้มันดูสดใสก้านไม่หักงอมีชีวิตชีวานี่นา
     ใครจะทำได้ก็มันเหี่ยวออกอย่างนี้ " หล่อนว่าพลางยื่นดอกกุหลาบที่เหี่ยว
     แถมก้านตรงโคนดอกก็หักงอมาแทบทิ่มตาเขา
    " อะไรกันคุณ  แค่นี้ทำไม่ได้หรือ แล้วอย่างนี้จะเป็นวิศวกรได้ยังไง "

          เอา เอาเข้าไป บ้ากันเข้าไป การถือดอกกุหลาบที่เหี่ยวๆ
     ไม่ให้เหี่ยวเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับการที่หล่อนจะเป็นวิศวกรในอนาคต  
     ไม่เข้าใจเล้ย ไม่เข้าใจจริงๆ นี่หล่อนหลุดเข้ามาในดินแดนประหลาด
     หรือตอนนี้หล่อนเป็นบ้าไป แล้วใครไม่รู้ส่งหล่อนเข้ามาในโรงพยาบาลโรคจิต
     โดยที่หล่อนไม่รู้ตัวหรือไงนะ  เอาล่ะ เป็นไงเป็นกันสิ สู้ตายยัยแป้ง

          ชายหนุ่มในชุดสีดำจับจ้องใบหน้าครุ่นคิดของหญิงสาว
     แล้วต้องกลั้นหัวเราะจนปวดท้อง  เมื่อหญิงสาวตรงหน้าบรรจงยิ้ม
     จนแก้มแทบฉีกราวกับจะทำให้โลกนี้ทั้งใบตกอยู่ในเสน่ห์รอยยิ้มของหล่อน
     พร้อมกันนั้นหล่อนก็ถือดอกกุหลาบโดยถือที่ปลายก้านแล้วให้ปลายดอก
     ชี้ลงที่พื้น

    " สดใสพอไหมคะ "  เสียงหวาน ๆ ดังมากระทบหู  การกระทำของหล่อน
     เรียกเสียงโห่ฮาวี้ดวิ้วผิวปากจากพวกสต๊าฟรุ่นพี่และเพื่อนร่วมรุ่นของหล่อน
     ซึ่งคณะนี้นักศึกษาส่วนมากเป็นชาย
    " พอ  กลับเข้าที่ได้  อ้อ ! เอาดอกกุหลาบนี่มาประชุมเชียร์ด้วยทุกครั้ง  ผมจะขอดู "
     เสียงทุ้มๆกำชับตามมา

         โธ่เอ้ย!แค่นี้เอง จริงๆแล้วหล่อนจะถือตรงโคนดอกแล้วปล่อยก้าน
     ให้ห้อยลงมาก็ได้ ไงก้านมันก็ไม่งออยู่แล้ว แต่อยากจะรู้ว่า
     ถ้าหล่อนถือแบบพิสดารผิดชาวบ้านชาวเมืองเนี่ย อีตาบ้านั่น
     จะทำอะไรหล่อนอีกไหมแล้วไอ้ที่ยิ้มหวาน ๆ  ที่หล่อนบรรจงปั้นซะ
     สุดฤทธิ์สุดเดชนั่นก็อีก บรื๋อส์ ........คิดขึ้นมาแล้วยังขนลุกไม่หาย  
     หล่อนทำลงไปได้ยังไงนะ


    " แป้ง   เราหิวข้าวแล้ว  ไปกินข้าวกันเถอะ  "
    " อืมม  ไปสิ "  หญิงสาวรับคำ  แล้วก็สนใจหนังสือเล่มโตในมือต่อ
    " ยัยแป้ง "  เพื่อนสาวเรียกเสียงเข้มขึ้นบ่งอาการหงุดหงิดเล็ก ๆ
    " อะไร  เดี๋ยว " หญิงสาวคนเดิมตอบโดยไม่ได้เงยหน้า
    " ไอ้แป้ง   แกจะลุกหรือไม่ลุก  แล้วก็เลิกอ่านได้แล้ว  แกอยากจะเป็น
     คุณหญิงดาริน แล้วเข้าป่าไปกับพรานรพินทร์ ล่าเก้ง ล่ากวาง ล่าช้าง
     หรือไงยะ อ่านมาตั้งชั่วโมงกว่าแล้วนะ  ไม่หิวข้าว หิวน้ำบ้างหรือไง  
     หรือว่าแกเสพย์แค่ตัวอักษร  แกก็มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องกินข้าว  "
    " เออ ๆ  ไปเดี๋ยวนี้แหละ  บ่นเป็นยายแก่ไปได้  ยัยอ้อเอ้ย !
     ฉันมีแกไว้เป็นเพื่อนหรือเป็นแม่วะ "
    " ยัยแป้งเอ้ย ! "  อ้อเรียกเพื่อนสาวอย่างล้อเลียนเพื่อน  

        เพื่อนที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงป. 6 แล้วก็มาห่างหาย
     จากกันไปตอนม.ต้น  สุดท้ายด้วยบุญพาวาสนาส่ง  หรือเวรกรรมก็ไม่รู้
     ที่ทำให้ทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้งตอนเรียน ม. ปลาย  จนสอบเข้าเรียนได้
     ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกัน

    " แกไม่ต้องยกให้ฉันเป็นแม่แกหรอก เอาแค่เพื่อนก็พอ ถ้าฉันมีลูกสาว
     อย่างแกน่ะนะ  เฮ้อ ! ฉันคงอยากตายเดือนละ  30 ครั้ง "
       
        พูดจบยัยอ้อก็รีบจูงกึ่งลากยัยแป้งไปที่โรงอาหารของคณะ ราวกับรู้ทันว่า
     หากช้าไปเพียงนิด  ยัยแป้งต้องถกเถียงกับหล่อนอีกนานเป็นแน่
     ก็เพื่อนหล่อนคนนี้ ยอมใครที่ไหนกัน
    " เฮ้ย ! ช้าหน่อยก็ได้  ยังไม่ได้เก็บหนังสือเข้าเป้เลย "  แป้งท้วง  
          หากดูเหมือนยัยอ้อจะไม่ยอมฟังเสียงใดๆทำให้หญิงสาว
     ต้องหอบทั้งหนังสือและเป้ตามแรงลากของเพื่อนไป
     ด้วยสีหน้าบึ้ง ๆ กึ่งสุขนิด ๆ ที่ได้แกล้งเพื่อน

          โรงอาหารของคณะยามนี้ผู้คนดูบางตาลงไป เนื่องจากจะบ่ายโมงแล้ว  
    บุคลากรและนักศึกษาส่วนมากมักมาใช้บริการตั้งแต่  11 โมงจนถึงเที่ยงครึ่ง

    " เอ้า  ไปหาที่นั่งไป  จะกินอะไรจะซื้อมาให้ "  อ้อโยนกระเป๋าให้เพื่อน
    " อะไรก็ได้ "
    " อะไรก็ได้ของแกเนี่ย  มันอะไร  คิดหน่อยได้ไหม เดี๋ยวสมองก็ฝ่อหรอกแก "
    " กะเพราไก่ไข่ดาว " เสียงตอบกลับทันควัน  แถมคนตอบยังยักคิ้วท้าทาย
    " เวรกรรม  เพื่อนฉันสงสัยมันสิ้นคิดจริง ๆ "  อ้อบ่นงึมงำแล้วเดินไปสั่งอาหาร

        เมื่อแป้งเลือกที่นั่งได้ก็ก้มหน้าก้มตาสนใจกับหนังสือในมือต่อ  
     โดยไม่ทันสังเกตว่า  ตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของชายหนุ่มที่การแต่งกาย
     ช่วงบนดูเป็นนักศึกษาเชิ้ตขาวแขนยาว ส่วนช่วงล่างนุ่งยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ
     เขาเห็นหล่อนตั้งแต่ยืนเพื่อรอข้ามถนนที่อยู่หน้าโรงอาหารแห่งนี้
     หอบข้าวของพะรุงพะรัง  ปากก็พูดจาโต้ต้อบกับเพื่อนที่มาด้วยกันไม่หยุด
     ดูๆ ไปหล่อนก็น่ารักดีเหมือนกัน  

        หยุด !หยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้วินทร์ ทำไมเอ็งใจง่ายอย่างงี้ว่ะ
     เอ็งจำไม่ได้หรือไงพิษรักที่มันยังฝังอยู่ข้างในใจเอ็งตอนนี้  
     มันก็เกิดเพราะความใจง่ายของเอ็งไม่ใช่เหรอวะ อย่าเชียวนะเอ็ง  
     ตอนนี้เอ็งก็มีความสุขดี  ไม่ต้องแคร์ใคร  ไม่ต้องตามรับตามส่งใคร  
     ไม่ต้องคอยเป็นห่วงใคร  ไม่ต้องมีความรู้สึกคิดถึงอยากเจออยากเห็นหน้า
     จิตใจร้อนรุ่มกระวนกระวาย  อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนเชียว

    " มาแล้วแป้ง  กิน ๆ  บ่าย   2 มีเรียนนะแก "  อ้อนั่งลงข้าง ๆ เพื่อนสาว  
     พลันสายตาก็พบกับชายหนุ่มที่นั่งโต๊ะถัดไป
    " แป้ง ๆ "  อ้อกระซิบกับเพื่อนสาว
    " อะไร "
    " ผู้ชายที่อยู่โต๊ะถัดเราไป  แกว่าใช่พี่ว้ากหรือเปล่า ดูดิ ก้มหน้าก้มตากินใหญ่เลย
     สงสัยกลัวเราจำได้ "

         แป้งมองตามท่าทางพยักเพยิดของเพื่อน    ก็เห็นชายหนุ่มก้มหน้าก้มตา
     รีบตักข้าวเข้าปาก
    " ทำไมต้องกลัวเราจำได้ด้วย "  
    " อ้าว  ก็รุ่นพี่เขาบอกว่าพวกว้ากจะพยายามหลบหน้าหลบตารุ่นน้องปีหนึ่ง  
     ไม่ให้เห็นเหมือนเป็นใครไม่รู้มาตะคอกตวาดพวกเราไง "

    "  อ๋อ "  ดีล่ะ  หญิงสาวคิด  
        อีตาบ้า อย่าเงยหน้าขึ้นมาเชียวนะ ฉันจะนั่งจ้องนายอย่างนี้แหละ
    สาธุ! กินเร็วๆ อย่างงั้น ขอให้ข้าวติดคอทีเถอะ สิ้นเสียงภาวนา
    ในใจหล่อนไม่นาน  

        เสียงไอก็ดังมาเข้าหู   หญิงสาวยิ้มด้วยความพอใจ
     มองชายหนุ่มที่รีบคว้าน้ำมาดื่ม  พลันสายตา 2 คู่ก็เจอกัน
     คู่หนึ่งมีแววขำบวกสะใจในดวงตา  อีกคู่ก็จ้องตากลมโตดำขลับ
     เขม็งราวกับจะบอกว่า  ฝากไว้ก่อนนะ  อย่าเผลอแล้วกัน  

        วินทร์ลุกขึ้นสะพายกระเป๋าจะเดินออกจากโรงอาหาร  
     ระหว่างที่ผ่านโต๊ะของสองสาว  เขาก็ได้ยินเสียงหวานใสคล้ายจงใจ
    " ทีหลังทานข้าวไม่ต้องรีบก็ได้นะคะ  เดี๋ยวจะติดคอ "  
     พูดจบหล่อนยังยักคิ้วหลิ่วตาให้เขาอีก  ผู้หญิงอะไรแก่นอย่างนี้วะ  
     เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับตีให้ก้นลายเชียว

    "  ไอ้แป้ง! เดี๋ยวแกก็โดนดีหรอก  เมื่อวานแกยังไม่เข็ดอีกหรือ  
     เรื่องกุหลาบน่ะ  ระวังไว้เถอะวันศุกร์นี้แกเจอดีแน่ ๆ  "  
     อ้อที่เห็นเหตุการณ์ตลอดกล่าวเตือนเพื่อนรัก

    " ฉัน -  ไม่ - กลัว " แป้งตอบอย่างเน้นหนักทุกคำว่าหล่อนไม่กลัวจริงๆ  
      ก็ลองดูสิว่าอีตาบ้านั่นน่ะ จะทำอะไรหล่อนบ้าง  ทำได้ก็ทำไป  
     แกล้งได้ก็แกล้งไป  แต่เมื่อถึงเวลาของหล่อนเมื่อไหร่
     หล่อนก็จะเอาคืนไม่ยั้งเหมือนกัน  ทีใครก็ทีมันดิ

    @^o^@  อุณากรรณ   @^o^@

    จากคุณ : อุณากรรณ - [ 24 ส.ค. 46 19:08:21 A:172.179.58.97 X: ]