กองทัพเงยหน้าจากตัวอย่างแบบผลิภัณฑ์ที่วางอยู่บนโต๊ะ เพราะมีนิ้วเรียวสวย มาวางทับอยู่เหนือเอกสารตัวอย่างที่เค้ากำลังดูอยู่ ชายหนุ่มทอดสายตามองหญิงสาวที่ยืนคุยอยู่อย่างเมามันไม่ได้รู้สึกตัวสักนิดว่านิ้วมือของเธอกำลังเกะกะการทำงานของสายตาเขาอยู่
หญิงสาวร่างสูงโปร่งในชุดนักศึกษามหาลัย ที่ยืนคุยกับเพื่อนรุ่นพี่ของเขานั้นยิ้มได้สวยอย่างที่เขาไม่เคยเห็นใครยิ้มได้สวยเท่ามาก่อน และก่อนที่เขาจะได้สะกิดเธอนั้น รุ่นพี่ของเขาก็ได้หันมาเจอสายตาของเขาพอดิบพอดี
อ้าว เจ้าทัพ น้องกวิตา หรือกีวี่ จะมาฝึกงานที่บริษัทเรานับแต่วันนี้ คนถูกเรียกว่ากีวี่หันมายกมือไหว้ ชายหนุ่มแค่พยักหน้ารับเฉย ๆ
นี่พี่กองทัพ หรือพี่ทัพ เป็นคนออกแบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราจ๊ะ
ฝากตัวด้วยค่ะ เสียงเล็ก ๆ นั้นกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ชายหนุ่มนึกชอบ หากที่เค้าทำได้ก็คือส่งยิ้มบาง ๆ ให้พร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานในมือต่อไป
กวิตารู้สึกงง ๆ อยู่ไม่น้อย เพราะตั้งแต่ถูกแนะนำให้รู้จักกันนั้นชายหนุ่มหน้าตาดี คิ้วเข้ม และดวงตาดุ ๆ คู่นั้นไม่ได้พูดกับเธอแม้สักครึ่งคำ ปล่อยให้เธอกับพี่เสก ยืนพูดกันอยู่สองคน แม้เธอจะชำเลืองมองเขาบ่อย ๆ แต่ก็ไม่มีแม้แต่คำพูดจากจากเขาเลยสักนิดเดียว แต่แล้วเธอก็ได้ความกระจ่างเมื่อเธอเข้าไปส่งเอกสารที่ซีล็อกให้พี่เสกนั่นเอง
ไอ้ทัพน่ะ อย่าไปถือมันเลยนะ มันพูดไม่ได้ และอีกอย่างมันก็เป็นหุ้นส่วนของที่นี่ครึ่งหนึ่ง ถ้า กีวี่จะจะพูดอะไรกับพี่ทัพน่ะ พี่เค้าจะจ้องหน้าตลอดก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะเค้าจะอ่านคำพูดจากปากกีวี่นั่นแหละ นั่นแหละเธอถึงได้รู้ว่าคนที่ยิ้มจาง ๆ ให้เล็กน้อยแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานนะเป็นคนพิการพูดไม่ได้ ความรู้สึกที่เข้ามาในตอนนั้นก็คือสงสารเพราะคำพูดประโยคต่อมาของพี่เสกนั่นเอง
ไอ้ทัพ นะมันไม่ค่อยมีเพื่อน แต่คนเป็นเพื่อนมันเยอะใคร ๆ ก็ชอบมัน แต่มันสนิทไม่กี่คนอีกอย่างมันก็ไม่ปกติอย่างคนอื่นเขา มันก็เลยชอบอยู่เงียบ ๆ มากกว่า ยังไง กีวี่ก็ชวนมันพูดบ้างก็ได้ ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวมันก็เขียนให้อ่านเองแหละ
ค่ะ เธอรับคำก่อนจะเดินออกมาจากห้องเล็ก ๆ นั้น แล้วตาคู่สวยก็กวาดไปเจอสายตาดุ คู่นั้นพอดีเลยเช่นกัน เธอจึงส่งยิ้มให้เขาแต่เขาไม่ได้ยิ้มตอบเธอมาสักน้อย แถมยังหลบสายตาก้มลงมองงานบนโต๊ะเสียอีก
วันนี้เป็นวันแรกที่กวิตามาฝึกงาน ณ บริษัท แห่งนี้ ด้วยความอนุเคาระห์จากพี่ชายเธอ เพราะพี่ กวิน เป็นเพื่อนสนิทของพี่เสก เขาเลยยัดเยียดแกมบังคับให้เพื่อนซี้นั้นรับน้องสาวตัวเองเข้าฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยของพี่เสก
แรก ๆ กวิตาก็เขิน ๆ อยู่ไม่น้อย เพราะในบริษัทเล็ก ๆ แห่งนี้มีพนักงานไม่กี่คนก็จริง หากแต่พนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้ชายเกือบจะทั้งหมดยกเว้นแม่บ้าน และพี่จ๋าที่เป็นพนักงานบัญชีเท่านั้น นี่ถ้าไม่เพราะพี่ชายเธอบังคับข่มขู่แล้วล่ะก็เธอก็คงนะบินตามเขาไปญี่ปุ่นด้วยแล้ว เรื่องอะไรจะยอมเสียเวลาช่วงปิดเทอมอยู่บ้านคนเดียวล่ะ
หากแต่พี่กวินก็ยังหาเรื่องให้เธอได้มาฝึกงานก่อนกำหนดจริงของทางมหาลัยจนได้ด้วยเหตุผลที่ว่า กลัวเธอเหงาถ้าอยู่บ้านคนเดียว แต่ก็ไม่ยอมให้เธอไปญี่ปุ่นด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า พี่ไปทำงานนะไม่ได้ไปเที่ยว เธอเลยต้องจำยอมที่จะฝึกงานอยู่กับพี่เสกโดยปริยาย
เมื่องานเอกสารบนโต๊ะที่พี่เสก และพี่จ๋าส่งมาให้เธอช่วยทำเสร็จเรียบร้อย กวิตาเงยหน้าจากกองเอกสารบนโต๊ะ หากเมื่อกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็พบว่าเลยเวลาเที่ยงมา20 นาทีแล้ว และพนักงานทั้งหมดก็คงออกไปทานข้าวกันแล้วด้วย หากแต่เมื่อเธอกำลังจะเดินออกจากโต๊ะทำงานของตนเองนั้นก็เห็น คนที่ยิ้มจาง ๆ ให้เธอเมื่อตอนเช้ายังคงง่วนกับแบบสเก็ตภาพผลิตภัณฑ์อยู่นั่นเอง กวิตาสาวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างช้า ๆ
กองทัพเงยหน้าขึ้นจากแบบร่างภาพที่ตนเองกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับมันเนื่องจากนิ้วเรียวสวยได้รูปมาวางแปะลงมาบนโต๊ะทำงานของเขา ดวงตาคู่สวยยิ้มพร้อมกับรอยยิ้มที่ฝีปากได้รูปสวย
ไ ป ท า น ข้ า ว กั น ไ ห ม ค่ะ หญิงสาวพยายามพูดช้าที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้หากแต่คนที่มองอยู่ก็ยังคงทำหน้านิ่งไม่ได้ตอบว่าอะไร กวิตาจึงหันไปหยิบกระดาษเปล่า ๆ ก่อนเขียนข้อความที่ถามลงไปในนั้น แล้วส่งให้ชายหนุ่มอ่าน
กองทัพเหลือบสายตาลงอ่านข้อความในกระดาษ จริง ๆ แล้วเขารู้แล้วล่ะว่าเธอชวนทานข้าวเพียงแต่มัวมองหน้าเธอเพลินไปหน่อย เลยทำให้เธอเข้าใจผิดว่าเขาไม่เข้าใจที่เธอพูด เขาจึงทำท่าทางภาษาใบ้บอกเธอไปว่า
---ให้เธอไปทานก่อนเลยเขายังไม่หิว--- แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจภาษามือของเขานัก ชายหนุ่มจึงเอากระดาษแผ่นเดิมมาเขียนข้อความลงไปว่า
คุณไปทานก่อนเถอะผมยังไม่หิว จะทำงาน แล้วก็ส่งให้หญิงสาวที่ยืนอยู่เธอรับมันไปอ่านก่อนจะเขียนโต้ตอบพร้อมกับพูดไปด้วยว่า
ไม่หิวก็ต้องทานนะ นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว เดี๋ยวจะเป็นโรคกระเพาะ เธอว่า ไปเถอะกวิตาชี้มือไปที่ประตูและชี้มาที่ตัวเองและที่กองทัพ
กองทัพยิ้มจาง ๆ กับความดื้อของเธอ ดูท่าหญิงสาวคนนี้คงไม่ยอมไปถ้าเขาไม่ไปด้วยเป็นแน่ ชายหนุ่มจึงจัดการเก็บงานบนโต๊ะก่อนลุกเดินตามเธอออกไป
มันก็น่าแปลกไม่น้อยสำหรับเขา อาจจะเพราะความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกิด แต่ดีที่ว่าครอบครัวของเขามีฐานะพอสมควรจึงทำให้ลูกชายคนเดียวของบ้านที่มีปัญหาแค่ทางคำพูด ได้เล่าเรียนจนจบมหาวิทยาลัยชื่อดัง และได้ลงทุนเปิดบริษัทเล็ก ๆ กับเพื่อนสนิทในสาขาที่เล่าเรียนกันมา
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองปกติเช่นคนอื่น เขายังคงรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น แตกต่างจากคนอื่น จนถึงขึ้นปิดกั้นตัวเองจากมิตรภาพและความผูกพันทั้งหลายแล จึงทำให้มีเพื่อนน้อยกว่าที่ควร และส่วนหนึ่งอาจเพราะภาษาที่ใช้นั้นต่างกันโดยสิ้นเชิงและการเข้าใจกันก็ยากเกินกว่าที่จะพยายาม กองทัพจึงมีเพื่อนที่ถือว่าสนิทจริง ๆ แค่นายเสกเพียงเท่านั้น นอกจากนั้นเพื่อนก็คือคนรู้จักของเขาเท่านั้น
แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกถูกชะตากับ เด็กสาวคนนี้ก็ไม่รู้ อาจจะเพราะรอยยิ้มที่เจืออยู่บนดวงตาสีนิลคู่สวยก็เป็นได้ ปกติแล้วเขาไม่เคยออกไปทานข้าวกับคนแปลกหน้าหรือคนที่เพิ่งเคยรู้จักกันเพียงชั่วครู่ แต่นี่มันผิดปกตินิสัยของเขา ๆ รู้ดี
จะทานอะไรค่ะ กวิตาถามเมื่อเดินเข้าไปถึงร้าน ๆ หนึ่งที่คนชวนเล็งมาตั้งแต่เช้าที่มาถึงแล้ว ก่อนจะอุทานกับตัวเองเบา ๆ ลืมไป เธอหันมายิ้มเจื่อน ๆ ก่อนจะพยายามถามอย่างช้า ๆ ว่า
พี่ ทั พ จะ ท า น อ ะ ไร ค่ะ ชายหนุ่มที่เดินตามมานั้นนั่งมองเมนูในมือก่อนจะชี้ไปที่ ข้าวมันไก่ที่ มีอยู่ในเมนู
ข้าวมันไก่สองที่ค่ะ เธอหันไปสั่งก่อนจะหันมายิ้มสวยให้ชายหนุ่มอีกครั้ง
พี่ ทั พ อ า ยุ เ ท่ า ไ ร ค่ะ มือใหญ่ของชายหนุ่มนั้นชูนิ้วสามนิ้วพร้อมกับ อีกหนึ่งนิ้ว
สามสิบเอ็ด เธอทวน เขาพยักหน้ารับเบา ๆ
กี วี่ 2 3 ค่ะ เธอพูดพร้อมกับทำนิ้วประกอบบอกเขา พี่ ทั พ มี แ ฟ น ห รื อ ยั ง ค่ะ เธอถามอีก หากแต่แววตาดุ ๆ คู่นั้น ฉายประกายคำถามชัดเจน
น้อง ๆ ของกระดาษกับปากกาหน่อยจ๊ะ เธอหันไปบอกเด็กเสริฟที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วเธอก็ได้สิ่งที่ต้องการมาอยู่ในมือ
กวิตาเขียนคำถามที่ถามเมื่อสักครู่ลงไปใหม่อีกครั้งแล้วส่งให้ชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าตาสงสัยอยู่ แล้วเมื่อได้รับกระดาษคำถามแผ่นนั้น คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วก็ขมวดหนักเข้าไปอีกจนได้ กวินตามองอยู่นาน แล้วจู่ ๆ คนตาดุคนนั้นก็เงยหน้าสบตาเธอทันทีเช่นกัน ชายหนุ่มส่งกระดาษแผ่นนั้นกลับคืน
ข้อความในกระดาษแผ่นนั้น เขียนว่า ------ จะรู้ไปทำไม ------- กวิตายิ้มแหยก่อนจะเอ่ยเบา ๆ ว่า ขอโทษค่ะ ชายหนุ่มยืนกระดาษอีกแผ่นมา
-----ไม่มีหรอก------ คำตอบนั้นทำให้หัวใจเล็ก ๆ ของเธอรู้สึกแปลก ๆ อย่างที่เจ้าตัวเองก็ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
------ยิ้มอะไร-------- กระดาษถูกส่งมาอีก
เ ป ล่ า ค่ ะ แค่ แ ป ล ก ใ จ เธอบอก ก็ใครจะไปบอกได้ล่ะว่าไม่เชื่อน่ะที่ว่าไม่มีแฟน ก็หน้าตาออกจะคมเข้มขนาดนั้น น่าจะมีสาวสักคนมาหลงรัก ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบา ๆ กับคำตอบของเธอ หากเมื่อจะได้คุยอะไรกันต่อไปนั้นอาหารก็ถูกนำมา เสริฟเสียก่อน
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 46 23:34:05
จากคุณ :
เปียร์รุส
- [
29 ส.ค. 46 09:43:41
]