โชคชะตาแห่งรัก

    สวัสดีค่ะ

    เรื่องนี้เคยลงที่ lovestories board มาเเล้วค่ะ มิถุนาเพิ่งได้โอกาสเอามา rewrite ใหม่ เพราะรู้สึกว่าของเก่ายังขาดๆ อะไรไปบ้าง
    อ่านแล้วเป็นยังไง ติชมมาได้นะคะ เพราะรู้สึกว่ายังอ่อนหัดกับเรื่องสั้นมากๆ เลยค่ะ

    มิถุนา

    ปล. มีตัวละครตัวนึงเคยโผล่มาให้เห็นแว่บๆ ในเรื่องที่มิถุนาเคยแต่งด้วยค่ะ เดาถูกไหมคะว่าใคร

    โชคชะตาแห่งรัก

    หญิงสาวผมซอยสั้นแบบบ๊อบวิ่งกระหืดกระหอบลงนั่งยังเก้าอี้ประจำตัว เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มหน้าผากกว้าง ผิวแก้มแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาดแห่งวัยสาว เธอพิมพ์พาสเวิร์ดเข้า MSN อย่างรัวและเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจ การไซน์อินก็เสร็จสมบูรณ์

    UNA : ลิลลี่จ๋า รู้ไหมว่าวันนี้ฉันเจอใครอีกแล้ว
    หญิงสาวพิมพ์ข้อความส่งถึงเพื่อนสาวทาง MSN

    ไม่นานนักเสียงตอบก็ดังขึ้น
    Lilly : นายฟ้าน่ะเหรอ

    UNA : ทำไมถึงรู้ล่ะ

    Lilly : ยายบ๊องอุ๊...ก็ฉันเห็นเธอเจอแต่นายฟ้าทุกวัน ทั้งกะปีทั้งกะชาติน่ะสิ

    อุณากรรณเจอนายรถไฟฟ้าหรือที่เธอเรียกย่อๆว่า "นายฟ้า" บนรถไฟฟ้า BTS มาร่วมเดือนแล้ว หญิงสาวสะดุดกับใบหน้าคมคายของชายหนุ่มตั้งเเต่ครั้งแรกที่เธอสบตาเขา...แต่เขาไม่ได้สนใจเธอหรอกนะ...ก็เธอน่ะ กะโปโลจะตายไป

    เธอก็เห็นหน้านายฟ้าทุกวัน เขาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีปลายทางอ่อนนุชทุกเช้า...สถานีเดียวกับเธอ...ยืนอยู่ในโบกี้รถไฟฟ้าด้วยกันร่วมสิบป้าย
    ...ก็แน่ล่ะ เวลาเช้าๆ น่ะคนออกจะแน่นเอี้ยด เธอไม่เคยได้นั่งเลยสักหน ทำไมน่ะหรือ...เพราะว่าเธอชอบยืนมากกว่าล่ะสิ แต่ถึงเเม้จะได้นั่ง เธอก็มักจะสละที่ให้เด็กๆ เสียมากกว่า วัยอย่างเธอยืนเพียงแค่ไม่กี่ป้ายจะเป็นไรไป นายฟ้าก็คงคิดเหมือนเธอ เพราะหญิงสาวไม่เคยเห็นเขานั่งเลยแม้แต่หนเดียว

    ทุกๆ วันอุณากรรณจะลงก่อนที่สถานีสีลม ส่วนเขาน่ะเหรอ...เธอไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มที่เธอเรียกว่าฟ้าจะลงที่สถานีไหน...แต่นั่นก็ไม่สำคัญ...ขอเพียงเธอได้เห็นหน้าเขาทุกเช้าเธอก็พอใจแล้ว

    UNA : แหม...ยายลิลลี่ก็...รู้ทันจนได้นะ

    Lilly : ชอบเขาขนาดนั้น ทำไมไม่เข้าไปทำความรู้จักกับเขาเลยล่ะ ( ", )

    UNA : จะบ้าเหรอ...เดี๋ยวเขาจะหาว่าฉันไม่เต็มเต็งน่ะสิ ไม่รู้จักเเล้วจู่ๆ จะให้เดินเข้าไปบอกว่า...สวัสดีค่ะดิฉันชื่ออุณากรรณค่ะ แล้วคุณชื่ออะไรคะ...แบบนี้น่ะเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก

    Lilly : แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ถึงจะได้มีแฟนกับเขาเสียทีล่ะ เดี๋ยวก็ถูกคาบไปกินแบบคราวก่อนอีกหรอก

    ลิลลี่เอ่ยถึงรุ่นพี่ในคณะที่อุณากรรณเคยแอบชอบมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ด้วยความขี้อายของหญิงสาวทำให้เเม่สาวสวยคณะเดียวกันคว้าชายหนุ่มคนนั้นไปเสียก่อน
    ความจริงแล้ว อุณากรรณก็ไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่อะไร เจ้าหล่อนน่ารักพอตัวเชียวล่ะ...เสียอยู่อย่างเดียว...ขี้อายกับซุ่มซ่ามไปหน่อยเท่านั้น (เท่านั้นจริงๆ นะ)

    UNA : ฮึ (-_-) งอน...ไม่พูดด้วยแล้ว...ฉันไปทำงานต่อดีกว่า บ๊าย บายนะ
    ******************
    วันนี้อุณากรรณอยากจะเล่าเรื่องของนายฟ้าเสียเต็มประดา หญิงสาวรีบกินข้าวกลางวันอย่างรวดเร็วเพื่อจะได้ขึ้นไปเม้าท์กับเพื่อนสาวไวๆ

    UNA : ลิลลี่จ๋า ฉันมีเรื่องสำคัญจะเล่าให้ฟังอีกเเล้ว...เรื่องนายฟ้าไง

    เสียงร้องของ MSN ทำให้จุลดิษฐ์เงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่และมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความงงงวย
    ...เราไม่ได้เปิด MSN ไว้นี่...ทำไมถึงมีเสียงเรียกได้นะ...
    ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวาอย่างระวังระไว ฉับพลัน...เสียงร้องของ MSN ก็ดังเตือนเขาอีกครั้ง

    UNA : รู้ไหมว่าวันนี้เขายิ้มให้ฉันด้วยนะ กรี๊ด...ยิ้มแล้วหล่อระเบิดไปเลย

    และแล้วจุลดิษฐ์ก็หาตัวต้นเหตุพบ เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทางด้านหลัง
    ...โต๊ะยายลี่นี่นา...ลืมล็อคเอ้าท์ก่อนไปพบลูกค้าหรือไงนะ...แย่จริงๆ สะเพร่าแบบนี้ เกิดใครแอบมาใช้ MSN หรือแอบเข้าไปดูเมลล์บ๊อกซ์ก็แย่กันพอดี...
    เขาส่ายหัวให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องอย่างระอา
    ...กลับมาต้องว่าเสียหน่อยแล้ว...

    UNA : อยากรู้ไหมว่าทำไมเขาถึงยิ้มให้ฉัน...

    UNA : ...ฉันกระเปิ๊บกระป๊าบล้มใส่เขาตอนรถไฟฟ้าเบรคน่ะสิ...น่าอายมากเเต่ก็...คุ้มมมมมม :-)) ต้องขอบคุณพี่คนขับที่เลี้ยวรถเข้าสถานีสยามอย่างรวดเร็ว อิ อิ

    เสียงของ MSN ดังขึ้นสองครั้งติดๆ กัน จุลดิษฐ์อดที่จะรำคาญไม่ได้
    ...เพื่อนยายลี่กระมัง...
    ...ท่าทางจะมีเรื่องคุยเยอะ...ไม่รู้ว่าจะทักทายอะไรกันนักหนา...

    จุลดิษฐ์ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ กำลังจะพิมพ์ตอบกลับไปว่า
    ...ลิลลี่ไม่อยู่ ออกไปพบลูกค้าตั้งเเต่สิบโมงแล้ว…
    แต่เขาก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อได้รับข้อความที่ฝ่ายตรงข้ามส่งเข้ามาอีกระลอก ด้วยความอยากรู้ ชายหนุ่มจึงเงยหน้าอ่านข้อความในกรอบ MSN ที่ขึ้นชื่อว่า UNA

    UNA : ฉันต้องล้มลงไปกองกับพื้นแน่ถ้าเขาไม่จับฉันไว้ ตอนนั้นฉันยืนใกล้เขามาเลยนะ ใกล้จนได้กลิ่นตัวของเขาเลยล่ะ...กลิ่นน้ำหอมเอสเคปของเคลวิน ไคลน์จางๆ...ห๊อม หอม ขนตาก็ย๊าว ยาว พอฉันขอบคุณเขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน ยิ้มจนฉันแทบจะละลายเลยล่ะลิลลี่ > o <

    แน่นอนว่าอุณากรรณไม่อาจจะเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่เธอเข้าใจว่าเป็นเพื่อนได้ คิ้วหนาสีดำของเขาขมวดแน่น ใจไพล่ไปนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อเช้า...แม่สาวหน้าใสที่ยืนยิ้มอายๆ อยู่ในวงแขนของเขา ความสงสัยทำให้เขาย้อนกลับขึ้นไปอ่านข้อความที่อยู่ข้างบนอย่างถ้วนถี่

    UNA : นี่! ยายลิลลี่...อยู่ตรงนั้นไหมยะ ถ้าอยู่ก็ช่วยเซย์ฮัลโหลมาด้วยสิ วันนี้เป็นอะไร...แปลกจัง...เงียบ ไม่พูดเชียว

    ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาพิมพ์ตอบกลับไปในทันทีว่า

    Lilly : ยังอยู่...

    Lilly : นี่...ถามจริงๆ เถอะ...

    Lilly : ...ชอบเขามากเลยหรือ

    กว่าจะรู้สึกตัว จุลดิษฐ์ก็กดเอ็นเทอร์ส่งข้อความสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    UNA : ชอบสิ รักแรกพบเลยเชียวแหละ...คราวพี่เอกยังไม่เป็นขนาดนี้เลย

    ...เจ้าหล่อนจะตกใจไหมนะถ้ารู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสารภาพรักกับผู้ชายคนนั้นอยู่...
    รอยยิ้มเอียงอายของหญิงสาวยังลอยวนเวียนอยู่ในความคิดของเขา สมองสั่งการให้จุลดิษฐ์พิมพ์คุยกลับไป งานที่ตั้งใจว่าจะสะสางให้เสร็จก่อนลงไปกินข้าวเป็นอันถูกลืมไปโดยปริยาย

    Lilly : รู้ได้ยังไง

    UNA : ก็...ก็ไม่รู้สิ หัวใจมันบอกว่ารักมั้ง :-)) ลิลลี่ก็รีบหาบ้างสิ จะได้กระชุ่มกระชวยแบบเราไง อิ อิ

    Lilly : จริงๆ แล้วเราก็แอบชอบคนๆ นึงอยู่เหมือนกัน...เจอบนรถไฟฟ้า

    UNA : จริงอ่ะ...ตั้งแต่เมื่อไหร่...ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย...ทีเรื่องของตัวเองไม่เห็นบอกเราเลยนะ ปล่อยให้เราเล่าเรื่องของนายฟ้าให้ฟังแต่ฝ่ายเดียว...ที่แท้ก็เเอบมีเหมือนกันเหรอ เรานึกว่าลิลลี่จะเป็นคนไม่มีหัวใจเสียแล้วนะเนี่ย...แล้วไงต่อล่ะ เรื่องของเขาคนนั้นของลิลลี่น่ะ

    Lilly : เรื่องมันยาวน่ะ...เย็นนี้มาเจอเราได้ไหม...จะได้เล่าให้ฟัง

    UNA : ได้สิ...ไม่ได้เจอลิลลี่ตั้งนานเเล้ว เจอที่ไหนดี

    คำตอบที่ได้กลับมานั้น ไม่มีการลังเลเลยแม้แต่น้อย

    Lilly : ที่สีลมก็ได้...ร้าน Coffee World ตรงพัฒน์พงศ์ละกัน

    UNA : ได้เลย...ประมาณหกโมงเย็นเจอกันนะ เราอาจจะเลทนิดนึง พอดีมีงานต้องเคลียร์น่ะ
    **************

    มีต่อค่ะ

    จากคุณ : มิถุนายน - [ 29 ส.ค. 46 14:06:36 ]