. . . เปอร์เซโปลิส . . . ( Persepolis) . . . ๘

    วีรบุรุษ

    มีนักโทษการเมืองสามพันคนถูกปลดปล่อยเป็นอิสระในสองสามวันต่อมา

    ในจำนวนนั้นเรารู้จักสองคน


    'เซียแมค จาคี

    เกิด      20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 ที่ลูริสถาน

    อาชีพ   นักหนังสือพิมพ์

    อาชญากรรม  เขียนบทความต่าง ๆ ในคีย์ฮานโจมตีรัฐบาล

    วันเข้าคุมขัง  กรกฎาคม ค.ศ. 1973

    วันปล่อยตัว มีนาคม ค.ศ. 1979

    คำพิพากษา คอมมิวนิสต์  '


    กับ


    'โมห์เซ็น ชากิบา

    กับ

    'โมห์เซ็น ชากิบา

    เกิด      22 พฤศจิกายน  ค.ศ. 1947 ที่ราชท์

    อาชีพ   กบฎ

    อาชญากรรม ก่อการกบฎ  

    วันเข้าคุมขัง  เมษษยน ค.ศ. 1971

    วันปล่อยตัว มีนาคม ค.ศ. 1979

    คำพิพากษา คอมมิวนิสต์  '


    88888888888888888888888888888888888888888888888888

    ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับคุณเซียแมคมาก่อนการปฎิวัติ เขาเป็นสามีของเพื่อนรักคุณแม่

    "เธอไม่ได้เข่าวเขามานานเท่าไหร่แล้ว" ฉันได้ยินคุณแม่คุยทางโทรศัพท์ในวันหนึ่ง

    "สิบเดือนเชียวหรือ??"

    "วันนี้พาลาลีมากับเธอด้วยสิ เราจะได้คุยกันเรื่องนั้น"

    ลาลีเป็นลูกสาวคุณเซียแมค

    "พ่อเธอไปไหนซะล่ะ" ฉันถามเธอ

    "ไปเที่ยว"ลาลีตอบ

    "เธอรู้ไหม ที่ใคร ๆ พาบอกว่าเขาไปเที่ยว ที่จริง หมายความว่าเขาตายไปแล้วล่ะ"

    หน้าตาของลาลีเริ่มไม่สู้ดี

    "อย่างน้อยก็เป็นจริงในกรณีของคุณตาฉันล่ะ"

    "โฮ. .  .โฮ" ลาลีร้องไห้วิ่งเข้าบ้านไป

    บางคนั้งความจริงก็ยากที่จะยอมรับได้

    "ไม่ ไม่ใช่จ๊ะ คุณพ่อไม่ได้ตายจริง ๆ" คุณแม่ของเธอปลอบ ลาลีที่ร้องไห้ระล่ำระลักกอดเข่าเธออยู่

    "โฮ ๆ มาร์จีเค้าบอกว่าคุณพ่อตายแล้วค่ะ"

    ฉันยิ้มเก้อ ๆ เมื่อเห็นหน้าบึ้งตึงของคุณแม่

    "กลับไปอยู่ในห้องของลูก " คุณแม่ท้าวสะเอวสั่ง

    ฉันได้แต่ก้มหน้าห้มตาทำตาม

    ไม่มีใครยอมรับความจริงกัยบ้างเลยนะ

    88888888888888888888888888888888888888888888888888

    ภายหลังจาการปฎิวัติ ฉันก็ตระหนักว่า คนเราอาจเข้าใจผิดกันได้

    .วันนี้วันดีจริง ๆ เลยลูก เราเชิญคุณพ่อของลาลีและโมห์เซ็นมา ทั้งคู่เพิ่งออกจากคุก" คุณแม่บอก

    "คุณพ่อของลาลีหรือคะ?" ฉันถาม

    "เขาหน้าตาเป็นไงคะ?"

    "แล้วลูกจะเห็นเอง" คุณพ่อตอบอย่างมีเลศนัย

    เมื่อพวกเขามาถึง คุณพ่อคุณแม่โผไปกอดต้อนรับพวกเขา

    "เซียแมค" คุณพ่อทัก

    ลาลีทำท่าหมางเมินไม่แยแสฉัน

    "ผมดีใจที่คุณกลับมา . . . ไม่รู้จะพูดไงดี . . ." คุณพ่อพูดทั้งน้ำตานองหน้า

    "ไม่ต้องพูดอะไร ผมเข้าใจ" พ่อของลาลีบอกแล้วหันมาทักคุณแม่ว่า


    "โอ๊ะ ทาร์จิยังสวยเหมือนเดิมเลย"

    "ปากหวานตามเคยนะ" คุณแม่บอก

    "นี่คงเป็นมาร์จีสินะ พระเจ้า! ครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นหนู เธอพึ่งสี่ขวบเองนะ" เขาอุ้มฉันขึ้นมมาพิจารณา

    "เวลาไม่อาจเรียกคืนมาได้ เมื่อตอนที่พวกเขามาจับฉัน ลาลียังพูดอ้อ ๆ แอ้ๆ อยู่เลย ดูสิตอนนี้เธอกลายเป็นสุภาพสตรีตัวน้อย ๆไปเสียแล้ว"

    "เออนะ"

    "ใช่" คุณพ่อเห็นด้วย

    "เธออบากเล่นไหม" ฉันชวนลาลี

    ""ไม่" เธอเชิดหน้าหลับตาตอบ

    ดิ๊ง! ดอง!

    "คงเป็นโมห์เซ็น" คุณแม่ว่าเมื่อได้ยินเสียงดกริ่งที่ประตู

    "โมห์เซ็นเหรอ พระเจ้าช่วย ฉันนึกว่าแกม่องไปเสียแล้วสิ" พ่อของลาลีอุทาน

    "ฉันนี่นะตาย? ตลกน่ะ! ในคุกน่ะเรียกฉันว่าคนเจ็ดชีวิตเชียวนะ"

    "สองคนนี่รู้จักกันหรือ?" คุณพ่อถาม

    "ในคุก ใคร ๆ ก็รู้จัก กัน " คุณโมห์เซ็นอธิบาย "แกจำวันที่เขาดึงเล็บฉันได้ไหม? มันงอกกลับมาแล้วล่ะ แม้จะไม่เหมือนปกติ แต่อย่างน้อยฉันก็มีเล็บ" ว่าแล้วเขาก็ชูมืออวด พ่อของลาลี

    ฉันฟังอย่างตกตะลึง

    "พวกที่ลงโทษเราน่ะได้รับการฝึกมาจากพวดซีไอเอ" คุณโมห์เซ็นกล่าว

    "นักวิทยาศาสตร์จริง ๆ น่ะ! พวกเขารู้ทุกส่วนของร่างกาย รู้ว่าจะต้องตีตรงไหนด้วย" คุณพ่อของลาลีแย้ง


    "ดูนะ! บนฝ่าเท้าของเธอ  มีเส้นประสาทนำไปสู่สมองโดยตรง" คุณโมห์เซ็น อธิบายพลางถอดรองเท้ายกขาขึ้นมาสาธิต "พวกมันเฆี่ยนฉันด้วยแส้ไฟฟ้าจนนี่ดูเหมือนเท้าไปหมด"

    "ไม่ต้องพูดถึงเอาบุหรีจี้ที่หลังและสะโพกนะ" คุณพ่อของลาลีซึ่งสูบบุหรี่อยู่เสริม

    คุณพ่อคุณแม่ตกตะลึงพรึงเพริดไปตามกันจนลืมที่จะกันฉันให้พ้นไปจากประสบการณ์นี้ . . .

    88888888888888888888888888888888888888888888888888

    "มีข่าวคราวของอาห์มาดีบ้างไหม?" คุณพ่อถาม

    ."อาห์มาดี . . . อาห์มาดี ถูกสังหารไปแล้ว เขาทุกข์ทรมานราวตกนรก เขามักมีไซยสไนด์อยู่กับตัวเผื่อไว้  เขาถูกจับและนำตัวไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยมาก่อน แต่โชคร้ายเขาไม่มีโอกาสใช้มัน . . .  ดังนั้น เขาจึงทุกข์ทรมานอย่างสุดแสนสาหัส

    'ชอบอย่างนี้ใช่ไหม'ผู้คุมว่าแล้วมันก็หวดด้วยแส้ 'สารภาพมาซะพวกที่เหลืออยู่ไหน'

    พวกมันนาบหลังเขาด้วยเตารีด"

    ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าใครจะใช้เครื่องใช้อย่างนั้นสำหรับการทรมาน

    สุดท้ายเขาถูกสับเป็นชิ้น ๆ

    "เขาอยู่ชั้นเดียวกับผมทีมหาวิทยาลัย" คุณพ่อบอก

    ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกัน ฉันบอกกับลาลีว่า " ดีนะที่เขาไม่ฆ่าคุณพ่อเธอในคุก แต่เธอยอมรับนะว่ามันไม่เชิงผิดเสียหมดเมื่อฉันบอกว่าเขาไม่ได้ไปเที่ยว""

    "อาจใช่ แต่พ่อของฉันเป็นวีรบุรุษ" ลาลีตอบ ฉันร้สึกตัวเล็กลีบลงทันใด

    "พวกที่ทรมานนักโทษต้องตาย"คุณแม่ตะโกนขึ้น

    คุณพ่อฉันไม่ใช่วีรบุรุษ ซ้ำคุณแม่ยังอยากฆ่าคน . . . ดังนั้นฉันจึงออกไแเล่นที่ถนน

    88888888888888888888888888888888888888888888888888

    เรื่องราวต่าง ๆ เหล่านั้นทำให้ฉันเกิดความคิดใหม่ เกี่ยวกับเกมส์

    "คนแพ้ต้องถูกทรมาน" ฉันบอกเพื่อน ๆ

    "ดี"

    "ทรมานอย่างไรล่ะ"
    ฉันมีจินตนาการเหมือนกัน . . . เผาหนวดลนไฟทรมาน ประกอยด้วยการดึงริมฝีปากบนทั้งสองด้าน

    บิดแขน

    ขยะยัดปาก


    88888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    เมื่อกลับถึงบ้านตอนดึก คืนนั้น  ฉันรู้สึกว่ามีอำนาจชั่วร้าย

    แต่ก็เกิดอยู่ไม่นาน ฉันรู้สึกสับสน

    "อย่าร้องไปเลยลูกจ๋า พวกเขาต้องชดใช้ในสิ่งทำไป" คุณแม่ปลอบ

    "แต่หนูคิดว่าใคร ๆ ควรให้อภัยกัน"

    "คนชั่วมักร้ายกาจ แต่ต้องยกโทษให้พวกเขาด้วยก็  อย่าวิตกเลยในโลกนี้มีความยุติธรรมแล้วกัน

    ฉันไม่รู้ว่าควายุติธรรมคืออะไร บัดนี้การปฎิวัติได้สิ้นสุดลงแล้วตลอดไป ฉันจะทิ้งปรัชญาเชิงวัตถุ  

    ที่ซึ่งฉันรู้สึกปลอดภัยก็คือในอ้อมแขนของเพื่อน ๆ


    8888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 46 20:26:21

    แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 46 20:25:12

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 29 ส.ค. 46 20:14:10 ]