ll~*~หนุ่มหน้าใสกับใจดวงไหวเอน~*~ll(ตอนเดียวจบ)

                   ไม้จันทน์ไม่คิดไม่ฝันว่า….หนุ่มหน้าใสที่ไม้จันทน์เคยแอบถ่ายรูปเขาเอาไว้เมื่องานกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยในจังหวัดเมื่อปีที่แล้ว  วันหนึ่งเขาจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกับเปรมิกาเพื่อนซี้ปึกส์ของเธอ โอ ว..ไม่น่าเชื่อ  

                   เปรมิกาก็ไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนอยู่มหาวิทยาลัยฝั่งตกกันข้ามนี่เอง  แถมหนุ่มคนนั้น  ยังหล่อใสๆโดนใจไม้จันทน์จังเบ่อเร่ออีกต่างหาก  พอเห็นเขา  ใจของไม้จันทน์เลยทำท่าจะอ่อนแอไปดื้อๆเลยเชียวนะ  

                   เมื่อปีที่แล้ว…หนุ่มหน้าใสคนนั้น  คนที่ไม้จันทน์แอบปลื้ม  เขาเป็นดรัมเมเยอร์ไม้สองของมหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้าม  ด้วยความใสๆแบบผู้ชายไร้สารตะกั่ว  ไร้สารแอลกอฮอลล์ในกระแสเลือดของเด็กหนุ่มวัยเฟรชชี่ ( ไม่เหมือนสี่หนุ่มกลุ่มนารีหน่ายแห่งถนนนักเขียนแน่ๆ ) เขาสามารถเรียกร้องความสนใจจากเธอได้เป็นอย่างดี  ก็หน้าเขาออกจะใสปิ้งส์ซะขนาดนั้น  จะไม่ให้ไม้จันทน์แอบถ่ายรูปเอาไว้ได้ยังไงไหว  

                   ถ้าวันนั้นไม้จันทน์ไม่ถ่ายรูปเขาเอาไว้ไม้ต้องเสียดายแน่ๆ แล้วมันเรื่องอะไรเธอจะต้องมานั่งเสียใจ เสียดาย ทีหลังด้วยล่ะ  นั่นล่ะ  ทำให้ไม้จันทน์เล็งกล้องไปที่ชายหนุ่มหน้าใสคนที่โดนใจของเธอนั้นไปหลายต่อหลายภาพ และหลายอิริยาบทจนเป็นที่พอใจ  นั่นล่ะเธอจึงหันไปถ่ายรูปขบวนอื่นๆที่ทยอยเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัย  ซึ่งในปีนี้มหาวิทยาลัยของเธอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธไมตรีที่จัดขึ้นทุกปีในตัวจังหวัด  

                   ไม้จันทน์เธอก็เป็นแบบนี้ล่ะ  พอเจอะเจอหนุ่มหล่อหน้าใสสไตล์ F4เป็นไม่ได้เลยเชียว  เธอเป็นต้องอ่อนไหวไปชื่นชอบเขาไปเสียหมด  เฮ้อ..ไม่ไหวๆ  หัวใจพลอยจะอ่อนแออยู่เรื่อยๆเชียว  แต่เธอก็ยังไม่มีแฟนเป็นเรื่องเป็นราว  แค่แอบกรี๊ดบ้างแก้เหงามันก็เท่านั้นเอง  ไม่ได้ชอบจริงจังอะไรมากมายหรอก

                   พอวันต่อมา  ไม้จันทน์ก็แทบช็อคเมื่อเปรมิกาเพื่อนสนิทสาว  พาหนุ่มหน้าใส รูปหล่อคนที่โดนใจไม้จันทน์คนนั้นมาแนะนำให้ไม่จันทน์รู้จักที่คณะ  และวันนี้นี่เองที่เธอรู้สึกว่า “เธอรักยายเปรมิกามากที่สุดในโลก “  ก็เพื่อนนะช่างรู้ใจเพื่อนรักมากที่สุดตั้งแต่เป้นเพื่อนกันมาก็ครั้งนี้ล่ะ  

                   " ไม้จ๋า เราพาเพื่อนเก่ามาให้ไม้รู้จัก  นี่อิทธิพลธนิลหรือนายอิ้ม  อิ้มเค้าเรียนคณะวิศวะมหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้าม  ส่วนคนนี้ยายไม้  ชื่อจริงๆเธอชื่อไม้จันทน์  ยายไม้เค้าเรียนเอกฟิสิกส์แต่หลงใหลการถ่ายรูป  อนาคตเธอตั้งใจจะเป็นคอลัมน์นิสให้ได้อ่ะนะ  รู้จักกันไว้ซะ  เจอกันจะได้ทักทายกันถูก  “

                   พอเปรมิกาแนะนำเสร็จ หนุ่มหน้าใสคนนั้น ก็ยิงรอยยิ้ม หวานๆ ก็หวานทั้งดวงตาและรอยยิ้มมาละลายดวงใจของไม้จันทน์เสียอ่อนย้วบเยี้ยบแทบจะทันทีที่เปรมิกาแนะนำเสร็จ   จนไม้จันทน์นึกถอดใจ  

                   เฮ้อ…ยิ้มหวานๆๆตาหวานๆแบบนี้  เห็นทีจะอยู่ใกล้ๆรัศมีพ่อหนุ่มหน้าใสคนนี้ไม่ได้แล้วกระมังยายไม้จันทน์เอ้ย  ถ้าเขาเข้ามาใกล้อีกนิดเดียวเธอต้องเป็นลมล้มพับไปตรงหน้าเขาแน่ๆ  ก็เธออ่ะนะ  ออกจะแพ้ความหล่อใสๆของเขาออกปานนี้  พบเจอทีไร  แข้งขา  มันคอยแต่จะอ่อนแอ  และยืนไม่ค่อยจะทรงตัวอยู่เอาซะเลย  เฮ้อ..เป็นเอามากนะ  ไม้จันทน์

                   เมื่อเห็นว่าตัวเองคงจะทนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว  ไม้จันทน์ก็รีบหยิบยกแม่น้ำทั้งห้าสายของประเทศอินเดีย  มากล่าวอ้าง เพื่อจะได้หลุดออกมาจากวงสนทนานั้น  เพื่อหลบออกมาตั้งสติสตัง  และหายใจหายคอให้มันโล่งปอดหน่อย
             
                   เฮ้อ….ผ่านมาตั้งสิบแปดฝนสิบแปดหนาวก็ไม่เห็นจะรู้สึกรู้สมอะไร ทำไม๊ทำไม  พอหนาวที่สิบเก้าในครั้งนี้ เธอถึงรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจอย่างนี้นะยายไม้จันทน์เอ้ย...

                   นั่น…ครั้งแรกตอนที่เธอรู้จักเขาครั้งแรกหรอกนะ  ตอนนั้นผมของนายอิ้มหรืออิทธิพลธนิลยังสั้นเกรียนอยู่เลย  พอมาปีนี้ผมของเขายาวระต้นคอมากแล้ว  ส่วนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย  ยังคงติดตา ต้องใจ จากวันนั้นจนถึงวันนี้คือ ความสดใสบนใบหน้าใสๆ  ดวงตาและรอยยิ้มหวานๆของเขา  ที่ไม่เคยจืดจาง  และจางหายไปจากใจดวงน้อยของไม้จันทน์เลยสักครั้ง  เฮ้อ..ก็เธอติดใจดวงหน้า  ดวงตาและรอยยิ้มเขาจนถอนตัวไม่ได้แล้วนี่นะ…

                   ปีนี้…ไม้จันทน์เรียนฟิสิกส์ชั้นปีที่สองแล้ว  และในครั้งนี้มหาวิทยาลัยของเขาเป็นเจ้าภาพ   และปีนี้เขาไม่ได้เป็นดรัมเมเยอร์ของมหาวิทยาลัย  แต่ร่วมงานกีฬาปีนี้ในฐานะนักกีฬาวอลเล่ย์บอลของมหาวิทยาลัย  

                   ในครั้งนี้  ทันทีที่อิทธิพลธนิลเห็นไม้จันทน์ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างๆสแตนเชียร์ของมหาวิทยาลัยของตัวเอง เขาก็ปลีกตัวจากเพื่อนชายที่เดินมาด้วยกันในชุดวอร์มของสถาบันมาทักทายเธอก่อน  จนทำให้ไม้จันทน์แอบเป็นปลื้มและดีใจที่เขายังจำเธอได้

                   เพราะหลังจากที่เจอกันในวันนั้นเธอก็ไม่กล้าพบหน้าเขา  ได้แต่หลบหน้าเขาอยู่เรื่อยๆ  แต่ก็แอบให้ความสนใจ  เวลาที่เปรมิกาเล่าเรื่องอิทธิพลธนิลสมัยเรียนมัธยมให้ฟัง  รวมถึงเรื่องราวของเขาที่มหาวิทยาลัย  แต่แปลกนะ… เปรมิกาไม่เคยพูดถึงหญิงสาวคนไหนที่เกี่ยวข้องกับเขาให้เธอฟังเลย  อาจจะะปิดบังเอาไว้หรือบางทีก็เขามีหญิงสาวผ่านเข้ามาในชีวิตเยอะจนไม่รู้จะเลือกลงเอยกับใครมากกว่า  ก็รูปหล่อ  นิสัยดี  น่าคบหาออกปานนั้น  ไม่มีหญิงสาวสวยๆมาข้องแวะเลยมันออกจะแปลกสักหน่อย  แต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยถามเพื่อน  เกรงว่าเปรมิกาจะแซว  และจะเขินไปกว่านี้

                   “  เจอกันอีกปีแล้วนะครับ  “  

                   ไม้จันทน์ละโฟกัสจากภาพเชียร์ลีดเดอร์สาวที่เธอกำลังจับภาพให้เข้ามาใกล้ๆ  หันมาตามเสียงทักทายที่ดังอยู่ข้างๆนี่เอง

                   “  อ้าวอิ้มนะเอง   ถึงว่าซิ… .เราว่าเสียงคุ้นๆนึกไม่ออกว่าเป็นใครที่ไหนตกใจหมดเลย  รอเดี๋ยวนะขอถ่ายภาพอีกสองสามภาพเดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ  เดี๋ยวจะแดดมากไปกว่านี้  หน้าเชียร์ลีดเดอร์จะเลอะเหงื่อแล้วจะได้ภาพออกมาไม่สวย  “

                   หันไปบอกชายหนุ่มแล้วถือกล้องออกไปตั้งโฟกัสถ่ายภาพจนได้ภาพที่ต้องการครบ เธอจึงเดินกลับมาหาชายหนุ่มที่ยืนรอข้างๆสแตนเชียร์

                   “  เจอเปรมิกาหรือยัง  เห็นว่ารายนั้นกำลังเดินตามหานายอยู่  “

                   “  ยังเลย ออกจากโรงยิมมาก็เจอไม้ก่อนใคร คนตัวสูงๆนี่ดีนะหาตัวง่ายดี ว่าแต่ถ่ายภาพเสร็จแล้วหาที่นั่งคุยก่อนดีมั้ย หลบๆยายเปรหน่อยก็ดีเพราะเราไม่อยากเจอยายเปรเท่าไหร่ เค้าชอบคิดว่าเราเป็นผู้ร้ายชอบซักไซร้ไล่เลียงและต้อนให้เราจนมุมอยู่เรื่อย ถ้ารู้นะว่าเค้าเรียนนิติศาสตร์แล้วจะเป็นแบบนี้  เราจะชี้แนะให้เค้าเรียนอักษรจะได้เอาแต่อ่านและเขียนทั้งวัน  “

                   “  ดูพูดเข้า  แน่จริงก็พูดให้เปรได้ยินซิ  มีหวังหูยานแน่ๆ  “  

                   “  โธ่….. ไม้ก็อย่าพูดไปให้เธอได้ยินซี้  เสียวสันหลังจัง  เอางี้ เรารีบออกจากที่ตรงนี้กันก่อน  ขืนชักช้าเดี๋ยวก็เจอยายเปรจอมซักฟอกกัน  เลยไม่ต้องไปไหนกันพอดี  “  

                  อิทธิพลธนิลพาเธอหลบออกไปนั่งคุยกันที่ร้านคอฟฟี่ช้อบที่หน้ามหาวิทยาลัย พอกลับเข้ามาที่สแตนเชียร์ก็พบเปรมิกานั่งหน้าหงิกรอ และยิ่งทวีความสงสัยมากขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อทราบว่าเพื่อนรักทั้งสองคนออกไปข้างนอกด้วยกันมา ไม่รอช้าว่าที่อัยการสาวในอนาคตต้องรีบเค้นหาความจริงออกมาให้ได้ทันที  ดูๆไปแล้วมันๆไม่ใคร่จะโปร่งใสเท่าไรนักนะเนี่ย  

                   “ ฉันว่าแล้ว…คิดเอาไว้แล้วเชียวว่า  เธอสองคนต้องหลบฉันไปไหนสักแห่งมาแน่ๆ  ว่าไงพ่อตัวดี  แอบพาเพื่อนฉันไปไหนมาย่ะ  “

                   เปรมิกาเอ่ยถามเพื่อนหนุ่มด้วยน้ำเสียงและสายตาแอบสอดส่ายหาความไม่โปร่งใสจากตัวชายหนุ่มทันที  ไม่วายเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนสาวด้วยอีกคน  

                   “แอบที่ไหน…ไม่ได้แอบซะหน่อยก็แค่พาไม้เขาออกไปหาที่คุยที่ร้านคอฟฟี่ช้อบหน้ามหาวิทยาลัยนี่เอง  “

                   “ ไปกันแค่สองคน โดยไม่รอฉันนี่นะนายอิ้ม  เอ…เราว่านายชักมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจซะแล้วนะเพื่อนรัก  มานี่….  “  

                   พูดจบก็ลากชายหนุ่มมาคุยกันห่างๆจากไม้จันทน์พอสมควร

                   “  นายอย่าบอกฉันนะว่า  ตาฤาษีอย่างนายกำลังสนใจไม้จันทน์  อย่ามาปฏิเสธเราหน่อยเลย  ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้ซักที  ทำเล่นๆไม่ได้นะเว้ย..เพื่อนฉันไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่นายนึกจะคว้าก็คว้า  นึกจะควงก็ควงนะ  แล้วพวกสาวๆที่กรี๊ดนายอยู่ล่ะจะทำยังไง  คิดดีๆนะอิ้ม  นายแน่ใจในการกระทำของนายแล้วอย่างนั้นหรือ “
     
    (มีต่ออีกนิดก็จบค่ะ  รอแป้บ  เน็ตป่วงนิดหน่อย)

    จากคุณ : พยาบาลเกเร - [ 1 ก.ย. 46 22:58:53 ]