ป่าถาวร
หลังจากเซริกพาการอฟไปพักแล้วเขาก็กลับมานั่งพูดคุยกับเชก้าและกาซุที่ห้องๆเดิม พวกเขาต่างเคร่งเครียด
ท่านปู่บอกให้เราเดินทางทันทีที่ดวงอาทิตย์ตกดิน เซริกเอ่ย
เร็วขนาดนั้นเลยหรอ เชก้าว่า
ใช่ เราต้องรีบไปให้ถึงป่าถาวรตอนรุ่งเช้า เซริกตอบ
เชก้าเห็นกาซุนั่งเครียดที่มุมหนึ่งของห้อง
เป็นอะไรไปกาซุ เชก้าถาม
ข้าแค่กังวลใจ
เรื่องอะไร เซริกถาม
ป่าถาวร พวกพี่คงจะไม่รู้สินะว่าที่นั่นอันตรายแค่ไหน มันเป็นป่าต้องคำสาป ไม่มีใครที่เข้าไปแล้วกลับออกมาได้อีก แม้กระทั่งชาวแฟรี่อย่างพวกเรา กาซุเดินกลับไปกลับมา
แล้วทำไมยังมีคนต้องการเข้าไปในป่านั่นอีก เชก้าถาม
เหตุผลเดียวกับเรา เพื่อฟิโนเอร่า มันเป็นความเชื่อที่สืบต่อกันมาแต่โบราณ หากผู้ใดได้ครอบครองฟิโนเอร่า ผู้นั้นจะมีความสุขและสมหวังในทุกสิ่ง หลายๆคนถึงได้ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไป กาซุชี้ให้เห็นสาเหตุ
ฟิโนเอร่าคืออะไร เซริกถาม
ไม่มีใครรู้ กาซุส่ายหน้า
----------------------------------------------------
ทันทีที่ดวงสุริยันลาลับขอบฟ้าพวกเขาทั้งสามก็ออกเดินทาง การเดินทางครั้งนี้ผู้ที่รู้เส้นทางมีคนเดียวคือกาซุ พวกเขาควบม้าด้วยความเร่งรีบตลอดทั้งคืนจนมองเห็นชายป่าพวกเขาจึงหยุดพัก เชก้าดูนาฬิกา-ขณะนี้เป็นเวลาตีสาม
เราหยุดพักกันตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเข้าป่าถาวรกัน กาซุว่าพลางจัดเตรียมที่พัก
พวกเขาก่อไฟเพื่อให้ไออุ่นและตกลงที่จะผัดกันเป็นเวรยาม เชก้าอาสาอยู่ยามเป็นคนแรก เซริกกับกาซุพอเลือกที่นอนได้ก็หลับอย่างง่ายดาย
เสียงลมหวีดหวิวตลอดเวลา ใบไม้ที่ร่วงหล่นก็ส่งเสียงแกรบกราบคล้ายถูกเหยียบย่ำ เชก้าชักหวาดระแวงเขาลุกเดินสำรวจรอบๆ ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ พลันหูของเขาแว่วเสียงหัวเราะอันเย็นยะเยือก เชก้าพยายามเงี่ยหูฟังแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงหัวเราะนั้นอีก
สงสัยหูแว่วไปเองมั้ง เชก้ารำพันกับตัวเอง เขาหันหลังกลับ
เฮือกกก
เชก้าสะดุ้งสุดตัว เซริกยืนอยู่ข้างหลังเขาในระยะประชิด
ตกใจแทบแย่ เชก้าบ่น
ขอโทษที ฉันไม่คิดว่านายจะขวัญอ่อนขนาดนี้ เซริกแซวพร้อมทั้งทำท่าล้อเลียน
ขอเตะก้นคนสักทีเถอะ เชก้าว่าแล้ววิ่งไล่เซริกไปรอบๆ
เฮ้ย หยุดสักทีเถอะ นายไปนอนซะฉันจะเฝ้าต่อนายเอง เซริกตะโกนทั้งๆที่ยังวิ่งอยู่
นายนั่นแหละหยุดแล้วมานี่ เชก้าหยุดวิ่งและนั่งลงข้างกองไฟ
เซริกนั่งลงข้างๆเชก้าอย่างว่าง่ายโดยไม่เฉลียวใจสักนิด-เชก้าเขกหัวเซริกเต็มแรง
นายนี่มันน่านัก คนเค้าอุตส่าห์ไว้ใจ เซริกโวยวาย เชก้าทำหน้าตาเฉย
แล้วเชก้าก็ระเบิดเสียงหัวเระออกมา เซริกหัวเราะตาม - มิตรภาพเกิดขึ้นอีกครั้ง
นายนอนเถอะเดี๋ยวฉันเฝ้าเอง เชก้าเอ่ย
ไม่เอาน่า ฉันนอนแล้วนายนอนเถอะ เซริกค้าน
ถ้างั้นก็เฝ้าด้วยกันทั้งสองคนนี่แหละ พวกเขาพูดขึ้นพร้อมกัน
**************************************************
เสียงเอะอะโวยวายอะไรกันเนี่ย
ทำไมพื้นถึงสั่นอย่างนี้ หรือว่าแผ่นดินไหว
ใครมาดึงแขนดึงขาเรานี่ เชก้าปัดป้องเป็นพัลวัน ทั้งเตะ ต่อย ถีบ
นี่ ตื่นได้แล้ว เซริกตะโกนใส่หูเชก้า
เชก้าลุกพรวดขึ้น ตาสว่างทันที
ฉันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เชก้าถาม(น่าอายจริงๆ-เขาคิด)
คนอะไรหลับเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว ปลุกก็ยากอีก รู้งี้เอาน้ำราดก็ดีหรอก กาซุบ่นพลางลูบคลำเนื้อตัว
นายเป็นอะไร ไปโดนอะไรมาฟกช้ำดำเขียวไปทั่ว เชก้าถามด้วยความห่วงใย
ยังจะมาพูดอีก คนเค้าหวังดีไปปลุกดันทั้งต่อยทั้งเตะ กาซุโวยวาย
เอาน่า อย่าทะเลาะกันเลยนี่ก็สายมากแล้วเข้าป่าถาวรกันเถอะ เซริกเอ่ย
พวกเขาเก็บสัมภาระที่มีแล้วมุ่งหน้าสู่ป่าถาวร พวกเขาปล่อยม้ากลับไปเนื่องจากไม่แน่ใจว่าสถานการณ์ภายหน้าจะเป็นอย่างไรจะต้องเสี่ยงอันตรายใดบ้าง พวกเขาไม่อยากให้เกิดการเสียชีวิต แม้ว่าจะเป็นชีวิตของสัตว์ก็ตาม
ป่าถาวรเป็นป่าโปร่ง ต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายเป็นทิวแถว ต้นไม้ทุกต้นมีใบสีเหลืองอร่ามซึ่งเป็นสีเฉพาะของต้นไม้ในป่าแห่งนี้
สวยจัง เชก้ายิ้มร่า
ความงามอาบยาพิษ กาซุขัดขึ้น เดินตามดวงตะวันไปก็แล้วกันจะได้ไม่หลงทาง กาซุนำทางทันทีที่พูดจบ
เดินไปได้สักพักก็เหนื่อยแทบจะขาดใจ อากาศร้อนอบอ้าวราวตู้อบ
ทำไมถึงได้ร้อนขนาดนี้ เดินยังไงก็ไม่พ้นป่านี้สักที เชก้าเหม่อมองท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้า
พี่คิดว่าเราควรทำสัญลักษณ์ไว้นะกาซุ ต้นไม้ที่นี่ทุกต้นเหมือนกันจนแยกไม่ออก เราอาจหลงทางได้ เซริกแนะนำ
เราคงไม่หลงหรอกเพราะเราเดินตามดวงตะวันอยู่ กาซุหยุดคิดเล็กน้อยแต่ทำไว้ก็ดีเหมือนกัน กาซุจึงทำสัญลักษณ์ไว้บนต้นไม้ทุกต้นที่เดินผ่าน
ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำ ทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ยังคงเร่งฝีเท้าต่อไป
นี่ เราจะไม่หยุดพักกันหน่อยหรอ เชก้าทักท้วง
ไม่ เราต้องมุ่งหน้าต่อไป ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าเมื่อไหร่อันตรายก็จะใกล้เข้ามามากขึ้น กาซุยืนยันที่จะเดินหน้าต่อไป
พี่ว่าเราพักกันหน่อยก็ดีนะ เรายังไม่ได้หยุดพักกันเลย เซริกว่าและกาซุก็ปฏิบัติตามอย่างง่ายดาย ไปพักใต้ต้นไม้ต้นนั้นก็แล้วกัน เซริกชี้
ด้วยความเหน็ดเหนื่อยเซริกกับเชก้านั่งลงใต้ต้นไม้นั้นโดยไม่ทันสังเกตเห็นบางสิ่งที่กาซุสังเกตเห็น
นั่งลงสิกาซุ เซริกเรียก กาซุยังคงนิ่งเฉย มีอะไรหรือเปล่า
เรา เอ่อ เราหลงทางแล้ว กาซุตอบไม่เต็มเสียง สายตาจับจ้องบางสิ่งบนต้นไม้ มันเป็นสัญลักษณ์ที่เขาทำไว้ จบกัน เราออกจากที่นี่ไม่ได้
ทำใจดีๆไว้กาซุ มันต้องมีทางสิ เชก้าปลอบ
ไม่มีใครออกจากที่นี่ได้ ที่นี่จึงถูกขนานนามว่าป่าถาวรเพราะไม่ว่าจะไปทางไหนก็มีแต่ป่า ไม่มีทางออก กาซุเริ่มเสียขวัญ
อาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ ป่านี้ต้นไม้สวยคนเลยชอบอยากให้มีอยู่ต่อไปเลยเรียกป่าถาวรไง จริงไม๊เซริก จริงไม๊ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า เชก้าพยายามทำให้เป็นเรื่องตลก แต่ไม่ยักจะมีคนขำ ทุกอย่างเงียบกริบ
*****************************************************
จากคุณ :
kaze (kaze_kaze)
- [
4 ก.ย. 46 10:30:25
]