พรเทพมองไปรองเท้า ขณะที่หยดน้ำตาร่วงลงไปกระทบมัน เขาเห็นรอยเปียกที่บนรองเท้าหนัง ไม่นานมันคงจะจาง เหือดแห้ง เหมือนกับร่องรอยที่เราทิ้งไว้บนโลกใบนี้ เมื่อคนเราอยู่ที่จุดสุดขั้วที่ด้านใด ในเวลานั้น ในใจก็มักจะไขว่คว้าหาปลายอีกด้านหนึ่ง บนแผงหนังสือมีนิตยสารหลากหลาย แต่ละเล่มบันทึกความคิด มุมมองต่อเหตุการณ์ ต่อเรื่องราวต่างๆ เรื่องดารา แฟชั่น เรื่องบนเตียง เทคนิค วิธีการ ลูกเล่น ศิลปะลวดลายของสมัยใหม่ วัฒนธรรมวัยรุ่น อยู่ที่ปลายด้านหนึ่ง ในขณะที่ปลายอีกด้านเป็นวารสารวิชาการต่างๆ นิตยสารหลายเล่มนำเสนอแต่เรื่องราวของความตาย ภายใต้ชื่อว่าการอนุรักษ์ ความกลัวตายผลักดันให้คนเราทำอะไรต่างๆ นานา ถ้าจะต้องหยุด ก็คงต้องอยู่ให้สมกับที่ได้อยู่เสียก่อน
หลายคนบอกว่าถ้าเข้าใจความตาย เราก็จะไม่กลัว แต่นี่พรเทพเป็นอะไร เขาไม่เข้าใจ เขากลัว. . . กังวลว่าเมื่อใดที่เราจะกล้าบอกว่า หยุด และพอ เราจะรู้ตัวอยู่หรือไม่ว่านี่ คือจุดที่เราควรจะพอแล้ว ถ้าวันนั้นไม่มาถึง? เขาจะทำอย่างไร?
ทั้งๆ ที่คนเราตายได้ง่ายดายเหลือเกิน
เมื่อเช้า มองจากบนรถประจำทาง เขาเห็น. . . ชายคนหนึ่ง นอนอยู่บนถนน ท่ามกลางการมุงดูห่างๆ จากคนกลุ่มหนึ่ง. . . แค่นั้นแหล่ะ. . . ความผิดพลาดเล็กน้อย ชีวิตก็หลุดลอย แล้วจะมีวันที่อำนาจการตัดสินใจนั้นจะอยู่ในมือเขาหรือไม่? หรือเหตุปัจจัยต่างๆ จะมากระชากชิงเอาอำนาจในชีวิตตัวเองของเขาไปเสีย. . .
ศาสนา วิทยาศาสตร์ ปรัชญา ทุกๆ สาขาการศึกษา พยายามลดความกลัวและกังวลข้อนี้จากมนุษย์ เพราะว่าการมีชีวิตอยู่เป็นภาระหนักหน่วง ที่ทุกคนติด และชินกับมัน. . . จึงเป็นการยากที่จะให้ใครละความยึดติดข้อนี้ได้ หลายศาสนา มีภาพหลังความตาย เหมือนเป็นเครื่องสร้างความมั่นใจ และเป็นเครื่องตักเตือนให้แต่ละคนอยู่ในกรอบ วิทยาศาสตร์ พยายามยืดความตายให้ไกลออกจากวันนี้มากที่สุดโดยไม่อธิบายว่าหลังจากนั้น เราจะเป็นอย่างไร คนเราต่างคิดค้นหนทางให้ตนเองสบายใจ. . . เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ถ้าความตายคือการดับ. . . ถ้ามันเป็นเช่นนั้นก็ดีสิ การเกิดก็เหมือนกับการติดของไฟ การตายก็เหมือนการดับไฟ เมื่อไฟดับ ก็หมด. . . แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ? กิจกรรมหลายหลากที่สร้างอารยะธรรมมนุษย์ ต่างก็วนเวียนอยู่กับเรื่องสองเรื่องนี้ การเกิดและการตาย มันเป็นคู่ตรงข้ามที่ก่อผลให้กับความนึกคิดของคนมากที่สุดอย่างหนึ่ง อาจจะรองจากหิวและอิ่ม ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะหน้ามากกว่า
ช่วงนี้เขาแปลกใจว่าทำไมเขาพบกับเรื่องของความตายบ่อยเหลือเกิน ทำไมจู่ๆ คนก็หันมาพูดกันเรื่องนี้มากขึ้น หรือว่าเป็นเพราะว่าทุกคนได้มีส่วนเข้าไปสัมผัสกับมันมากขึ้น หรือว่าเป็นเพราะว่าเขาเข้าสู่วัยที่จะรับรู้เรื่องพวกนี้ได้ง่ายขึ้น เขาเปิดรับคลื่นอารมณ์ที่เกี่ยวกับการสิ้นสลาย และทรุดโทรมได้ง่ายขึ้น? มันอาจจะเกี่ยวกับเรื่องของการมองโลกในแง่ร้ายก็เป็นได้
เขาปาดน้ำตาที่ยังซึมอยู่ที่ขอบตา. . . บอกเตือนตัวเองว่าภาระด้านหน้ายังรอคอย. . . เขาเดินกลับไปหางานที่รออยู่. . . ความเป็นจริงที่ไม่เชื่อมกับความฝัน
จากคุณ :
ทัศนา
- [
5 ก.ย. 46 02:11:55
A:158.108.2.2 X:158.108.8.87
]