บทที่ 9
ปราสาทแห่งความลับส่องแสงระยิบระยับสะท้อนมาจากแสงคบไฟที่สว่างไสวไปทั่ว ผนังของปราสาทแห่งนั้นส่องแสงวูบวาบสีเงินยวงสะท้อนพุ่งขึ้นไปรับแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา พื้นในห้องโถงตรงกลางปราสาทราบเรียบเป็นมันเงาเหมือนหินอ่อนที่ตรงกลางห้องโถงแห่งนั้นมีรูปวงกลมเล็กๆวงหนึ่งที่มีผู้คาถาอาคมแก่กล้าสมัยโบราณปลุกเสกมันเอาไว้ บริอาน่ายืนอยู่ตรงนั้นในชุดเสื้อคลุมขาวทั้งชุด ผมของเธอปรกลงมาสีแดงเพลิงเหมือนไฟ ดวงตาของเธอเป็นสีนํ้าทะเลที่แข็งกล้าร้อนแรงเหมือนเหล็กที่กําลังถูกเผาไหม้
ณ ที่แห่งนี้เธอจะยืนหยัดเพื่อต่อสู้
ฮึ เป็นท่านใช่ใหมที่เรียกสายฟ้าฟาดและพายุที่โหมกระหนํ่าพัดแรงอยู่ขณะนี้ อลัวแดร์์?ท่านยังคงโอ้อวดในฝีมือของตัวเองไม่เปลี่ยนแปลงเลย
ทันใดนั้นก็ปรากฎหมอกควันสีเทาดําหม่นเริ่มจะก่อตัวหมุนวนไปมา กลิ่นกํามะถันโชยไปทั่วบริเวณทําให้แสบตา อลัวแดร์ปรากฎตัวขึ้นไม่ใช่หมอกควันหรือภาพหลอนอีกต่อไป อลัวแดร์มีตัวตนจริงๆมีเลือดเนื้อเหมือนเช่นเดียวกันกับเธอ เขาสวมใส่เสื้อคลุมสีแดงแห่งเลือดและอํานาจดํา ทั้งยังมีรูปร่างหน้าตาที่สง่างามเหมือนกับเทวดานางฟ้าก็ไม่
ปานแต่ดวงตาของเขามืดสนิทเชือดเฉือนสาปแช่งผู้ที่ได้สบดวงตาดํามืดคู่นั้นเข้า
และแน่นอนเวทมนตร์ของท่านก็ยังคงมีอํานาจแข็งแกร่ง มันเป็นการเปิดตัวการกลับมาของท่านที่น่าประทับใจไม่น้อยทีเดียว เธอบอกเขาเสียงนุ่มนวลเหมือนกับคนที่เคยพบปะพูดคุยกันบ่อยๆ แต่ตรงกันข้ามกับเสียงที่เธอพูดก็คือชีพจรของเธอเต้นเร็วสั่นสะท้าน
รู้ไหมบริอาน่า ปัญหาของเจ้าก็คือเจ้าไม่รู้จักหรือเห็นคุณค่าของพลังอํานาจที่เจ้าได้รับอย่างจริงจัง พอใจก็แค่เวทมนตร์คาถาทําเครื่องรางของขลังที่ใช้ประโยชน์อะไรจริงๆไม่ได้รวมทั้งยาที่เจ้าปรุงทั้งหลายแหล่นั้นก็อีก ทั้งๆที่เจ้าสามารถเป็นอะไรได้มากกว่านั้นถ้าเจ้ารู้จักใช้มันเจ้าจะเป็นหนึ่งในโลกนี้เช่นกัน
ข้ารักษาสัญญาคําสัตย์ที่ข้าให้ไว้เสมอจดจํามันไว้ในใจข้าเสมอ อลัวแดร์ ข้าไม่เหมือนกับท่านหรอก
คําสัตย์ของข้าไม่เคยให้ใครนอกจากตัวข้าเองเท่านั้น เจ้าเป็นของข้า บริอาน่า ร่างกายและวิญญาณ และเจ้าก็จะให้ในสิ่งที่ข้่าต้องการมากที่สุดเช่นกัน
พูดจบเขาก็สะบัดมือขึ้นจากนั้นผนังปราสาทก็เร่ิมสั่นสะเทือนกึกก้อง
ลูกแก้วคริสตัลมันอยู่ที่ไหน บอกข้ามาซะ
มันอยู่ในที่ที่ท่านไม่มีวันเอ้ือมถึงหรอก อลัวแดร์ และมันจะดํารงอยู่ที่นั่นตลอดไป เหมือนกับที่ท่านไม่มีวันเอื้อมถึงข้าเช่นกัน
หล่อนยกมือชี้ขึ้นไปบนฟ้าร่่ายเวทมนตร์คาถาของเธอจากนั้นสายฟ้าสีขาวก็ฟาดลงมาผ่านอากาศแล้วตกลงมาเป็นลูกไฟตรงที่พื้นข้างหน้าเท้าของเขา หล่อนรู้พลังอํานาจของเธอมันอ่อนแอนักแต่เธอจะต้องทําให้อลัวแดร์คิดว่าเธอยังคงมีมันอยู่
เขาขยับศีรษะของเขาเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย
อืม เป็นการเล่นกลมายาที่ใช้ได้ทีเดียว รู้ไหมว่าพระจันทร์กําลังลอยตัวสูงขึ้นเรื่อยๆเกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว บริอาน่า การรอคอยกําลังจะสิ้นสุดลง...นักรบที่เป็นยอดดวงใจของเจ้ากําลังจะทอดทิ้งเจ้าไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว
เขาก้าวเข้ามาใกล้เธออีกนิดหนึ่ง ระมัดระวังไม่เหยียบเข้าไปใกล้ในรัศมีวงกลมที่เธอยืนอยู่นํ้าเสียงของเขาอ่อนโยนนุ่มนวลขึ้นเชิญชวน
ทําไมเจ้าไม่เต็มใจยอมรับหรืออ้าแขนรับในสิ่งที่ข้าสามารถให้กับเจ้าได้เล่า...พลังอํานาจและความสะดวกสบายที่เจ้าจะได้รับไปชั่วกาลนาน รํ่ารวยมหาศาลเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ ถ้าเพียงแต่เจ้าจะยอมรับมัน จับมือร่วมกับข้าแล้วเราจะครองทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน
ข้าไม่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของเจ้า ข้ายินดีจะหลับนอนกับอสรพิษร้ายดีกว่าให้เจ้ามาจับต้องตัวข้า
เมื่อสิ้นคําพูดของเธอไฟสีนํ้าเงินมืดมัวก็ปรากฎขึ้นที่ปลายนิ้วของอลัวแดร์ เขากําลังโกรธและไม่ชอบใจ
เจ้าเคยรู้สึกถึงมือข้าในความฝันของเจ้ามาแล้ว จําได้ไหมบริอาน่า และครั้งนี้เจ้าก็จะได้รู้สึกถึงมันอีกครั้งไม่ใช่ในความฝันอีกต่อไปมันอาจจะนุ่มนวลหรือรุนแรงเพื่อเป็นการ
ลงโทษเจ้าก็ได้แต่จําคําข้าไว้มันจะมีก็แต่มือข้าเท่านั้นจากนี้ไปที่จะได้สัมผัสเจ้าไม่มีใครหน้าไหนอีกแล้ว มันไอ้นักรบของเจ้าไม่มีหวังที่จะกลับมาหาเจ้าได้อีกแล้ว บริอาน่า และเจ้าก็กําลังจะพ่ายแพ้แก่ข้า
แต่เคลินจะปลอดภัยจากเจ้า หล่อนเชิดหน้าขึ้นมาจ้องมองอลัวแดร์
และนั้นก็หมายความว่าข้าได้ชนะเจ้าเรียบร้อยแล้วต่างหาก เธอยกแขนขึ้นสูงไปในอากาศส่งกระแสพลังอํานาจกระแทกอลัวแดร์ให้ปลิวห่างออกไปจากเธอ
ออกไปซะจากที่แห่งนี้ เสียงของเธอก้องกังวานไปทั่วเหมือนกับเสียงตีระฆัง
หรือไม่เช่นนั้นเจ้าก็ต้องเผชิญหน้ากับความตายเหมือนกับมนุษย์โลกทุกๆคนซะ
เขาใช้หลังมือปาดเช็ดเลือดที่มุมปาก ในใจเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่เธอสามารถทําให้เขาเลือดออกมาก่อนได้
ถ้ายังงั้นก็เปิดศึกกันได้เลย
จากคุณ :
โรส สลาลินน์
- [
7 ก.ย. 46 08:19:43
A:12.108.141.229 X:
]