+++ ว่างไว้......ให้เธอ +++ตอนที่ 2

                    ชายหนุ่มเจ้าของรถ ชายหนุ่มบนรถยื่นหน้าออกมาทักทายเมนาพร้อมกับรอยยิ้มแก้มแทบปริ เผยให้เห็นรอยบุ๋มที่แก้มด้านซ้าย เมนานึกค่อนขอดเจ้าของลักยิ้มนั้นว่า ......

                    “ คนอะไรหน้าตาออกคมเข้ม   แต่…ใบหน้านั้น  ดันมีลักยิ้มบุ๋มบิ๋มได้”

                    เมนาแอบคิดเงียบๆๆในใจอย่างขำๆๆ  ก็ไม่ได้มีให้พบเห็นบ่อยๆๆหรอกนะ  ที่ผู้ชายจะมีลักยิ้มแบบนี้น่ะ  

                    “ จะไปไหนหรือครับน้องสาว  ให้พี่ไปส่งมั้ย”

                    เมนาหันขวับไปมองชายหนุ่มที่มาตีขลุมเรียกเมนาว่า “ น้องสาว “ ทั้งที่เมนามีพี่ชายเพียงคนเดียวคือพี่เมธา ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะนุ่มน่าฟังดีอยู่หรอกนะ แต่ประเภทที่มาตีขลุมเรียกน้องนุ่งมั่วนิ่มแบบนี้  เธอไม่ชอบ และไม่อยากจะเสวนาด้วยแล้ว และเธอก็ไม่ใช่ “ สาวน้อย “ จะได้หลงเคลิบเคลิ้มไปกับความหวานไหวพวกนี้สักกะหน่อย  

                    ที่สำคัญชายหนุ่มคนนี้เธอก็ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยรู้จักแน่นอน เรื่องอะไรต้องไปเสวนาพูดด้วยล่ะ  เมนาเลยยังเงียบเฉย  จนกระทั่ง..ชายหนุ่มคนที่นั่งอยู่บนรถยื่นหน้าออกมาถามคำถามเดิมซ้ำอีกครั้ง

                    “ ว่าไงครับ  จะไปไหนหรือครับน้องสาว  พี่ไปส่งได้นะครับ”

                    ชายหนุ่มเสนอตัว เมนาก้มหน้ามองตะกร้าที่คล้องแขนอยู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา ในใจครุ่นคิดว่า

                    “ ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน  เกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ อวัยวะส่วนไหนๆ ก็ไม่ได้ติดกันซะหน่อยโดยเฉพาะส่วนบน….และ……. ”

                    ทำท่าจะต่อว่าเขาไปอย่างที่ใจกำลังคิดอยู่ แต่แล้วก็เปลี่ยนใจทำนิ่งเงียบเช่นเดิม ทำใบ้ไปแบบนี้ล่ะ ทนไม่ได้เดี๋ยวก็เลิกตอแยไปเอง เมื่อชายหนุ่มเห็นท่าทีไม่ยอมพูดยอมจาของสาวเจ้า เขาก็ลงทุนจอดรถแอบข้างทาง แล้วเดินอ้อมมาอีกทางซึ่งเป็นทางที่เมนายืนอยู่ เธอมองการกระทำของชายหนุ่มอย่างงงๆ

                    “ งั้น…ผมเดินเป็นเพื่อนคุณก็ได้”

                    เขาบอกแล้วก็เดินตามหลังเมนาไปจริงๆ ระหว่างทางเขายังชวนเมนาคุยตลอดเวลา แต่เธอก็ยังคงเงียบเฉยเช่นเดิม

                    “ ไปตลาดหรือครับ เอ…..ท่าทางมื้อเย็นนี่จะมีอาหารอร่อยหลายอย่างนะครับ”

                    เขาถามคำถามอย่างที่ๆ ไม่น่าจะถามอีกแล้ว เพราะถามไปเท่าไรเธอก็ไม่ยอมตอบอยู่ดี ก็เห็นๆ  อยู่ว่าถือตะกร้าก็ต้องไปตลาดอยู่แล้วจะให้ไปวัดตอนเย็นๆ อย่างนี้ได้ยังไง จริงมั้ย

                    “ ไม่ตอบแสดงว่า…งั้นก็คงไม่ได้ไปตลาด  งั้นก็..ต้องไปวัดแน่ๆ   เออ…ทำไมไปวัดเสียเย็นอย่างนี้ล่ะครับ  อ้อ….เมื่อเช้าคงตื่นสาย  เพราะมัวแต่นอนน้ำลายยืดๆๆ  เลยตื่นสายไปหน่อย  แต่เพราะตังใจว่าจะไปวัดก็เลยมาชดเชยโดยไปวัดตอนค่ำเผื่อว่าพระจะฉันมื้อเย็นนะหรือครับ”

                    ชายหนุ่มถามเอง แล้วก็ตอบเอาเอง  ทำเอา  เธอกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่  เลยเผลอตัวหลุดรอยยิ้มออกมาต่อหน้าต่อตาเขา  และไม่วายถูกเขาล้ออีกตามเคย

                    “ ว้าว….ววว  คุณยิ้มสวยจัง นอกจากว่าเป็นใบ้แล้ว คุณก็มีรอยยิ้มเนี่ยที่จะพอเชิดหน้าชูตาได้ “

                    “ อ้อ...อีกอย่างก็คือหู   คือหูคุณไม่ตึงครับเพราะคุณรับรู้ได้ทุกอย่างที่ผมพูด “

                    เมนามองเขาขวางๆ ก็เขาพูดล้อให้เธอยิ้มนี่นา

                    “ บ้าสิ..ใครเขาเป็นอย่างที่นายว่ากัน”

                    เขาจ้องมองเมนาท่าทางแปลก ประกายตาแลดูวิบวับ  จนเมนาอยากจะเดินหนีห่างให้ไกลๆ  นึกโกรธตัวเองที่หลุด และเผลอไปพูดจาโต้ตอบเขาได้ ทั้งที่อดกลั้นมาได้ตั้งนานแท้ๆ....

                    “ เห็นมั้ย พูดได้แต่ไม่ยอมพูด ว่าแต่ให้ผมขับรถไปส่งมั้ย  รถผมนั่งแล้วนิ่มดีนะ”

                    “ ไม่ดีกว่าค่ะ แฟนฉันคงไม่ชอบให้ฉันไปไหนมาไหนกับชายหนุ่มแปลกหน้า เอ่อ..แฟนฉันดุมากๆนะคะ ถ้าคุณไม่กลัวหมัดซ้ายทะลวงไส้ หมัดขวาตะลุยกำแพงก็ไปถอยรถมาเลยค่ะ ”

                    เมนาโมเมเข้าไปนั่น ช่วยไม่ได้อ่ะนะ  ใครอยากให้มาบริหารเสน่ห์กับเธอนักนี่ ขู่เข้าให้ซะเลย   คำขู่มีผลให้ชายหนุ่มทำหน้าเหรอหรามองหน้าเมนาอีกครั้งอย่างไม่อย่างจะเชื่อในสิ่งที่เธอกล่าวอ้าง  ชายหนุ่มแสร้งทำหน้าและเสียงเศร้าๆ

                    “ อ้าว..วว  มีแฟนแล้วเหรอ   ว้า…ว้า   แต่…ไม่เป็นไรผมชอบปีนต้นไม้ ผมปีนเก่งที่หนึ่งเลยนะสมัยเด็กๆนะ  และต้นงิ้วอะไรเนี่ยผมก็ยังไม่เคยลองปีนดูสักที อยากจะลองปีนดูสักครั้ง  ไม่อย่างนั้นหนุ่มๆหล่อๆอย่างผมคงเสียชาติเกิดแน่ๆ “

                    พูดจบชายหนุ่มวิ่งไปถอยรถยนต์คันหรูของเขาในทันที เมนามองตามอย่างไม่รู้ว่าจะขุดหาเรื่องอะไรมากล่าวอ้างอีกแล้ว ขนาดนี้แล้วเขาก็ยังไม่เลิกตอแยเธอเลย

                    เมนาจำต้องก้าวขึ้นนั่งบนรถเคียงคู่เขา ไม่เช่นนั้นเขาก็คงขับรถตามเธอไปเรื่อยๆ นะล่ะ ยิ่งเข้าไปใกล้ตลาดมากเท่าไร คนจะยิ่งพลุกพล่าน เธอยิ่งจะกลายเป็นเป้าสายตาคนมากขึ้นเท่านั้น เธอไม่อยากเป็นจุดสนใจของใครๆ

                    “ ไอ้เมธมันกลับมาจากกระทรวงเย็นนี้ใช่มั้ย”

                    เขาถามถึงพี่ชายของเธอด้วย นั่นยิ่งทำให้เธอแปลกใจที่เขารู้จักพี่ชายของเธอ และเรียกกันอย่างสนิทสนมเชียว พี่ชายเธอไปรู้จักกับเขาตั้งแต่เมื่อไรกัน...

    (มีต่อ  รอแป้บนะคะ)

    แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 46 01:53:43

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 46 09:57:34

    แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 46 09:41:20

    จากคุณ : พยาบาลเกเร - [ 7 ก.ย. 46 09:12:14 ]