+:+:องค์เอ็ดเวิร์ดที่แปด กษัตริย์ผู้บูชารักเหนือบัลลังก์+:+:

             “สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้อเท็จจริงหนึ่งซึ่งทำให้การตัดสินใจครั้งนี้ง่ายขึ้น ก็คือความจริงที่ว่าองค์อนุชาของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งได้รับการอบรมสำหรับกิจการงานสาธารณะทั้งปวงแห่งประเทศนี้มาโดยตลอด กอปรกับคุณสมบัติอันเพียบพร้อมของพระองค์เอง ทำให้พระองค์สามารถสืบทอดบัลลังก์แทนข้าพเจ้าได้โดยทันที โดยมิก่อให้เกิดความเสียหายหรือเป็นการขัดขวางความก้าวหน้าของจักรวรรดิแต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้น พระองค์ยังทรงได้รับพรอันประเสริฐยิ่ง พรเดียวกับที่ท่านทั้งหลายได้รับ หากแต่ฟ้ามิได้ประทานให้แก่ข้าพเจ้า - - นั่นคือ ครอบครัวที่มีความสุข พร้อมพรั่งด้วยบุตรและภรรยา”

    นี่เป็นส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่แปด หนึ่งวันหลังจากพระองค์ประกาศสละพระราชสมบัติเพื่อที่จะได้อภิเษกสมรสกับสตรีที่ทรงรัก - - สตรีที่ประชาชนของพระองค์มิอาจทำใจยอมรับในฐานะองค์ราชินีแห่งจักรวรรดิอังกฤษ สตรีหนึ่งเดียวที่ได้รับความรักและการเชิดชูจากชายคนรักให้มีค่าเหนือกว่าบัลลังก์

    เมื่อพระเจ้าจอร์จที่ห้าสิ้นพระชนม์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1936 เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดในฐานะเจ้าชายแห่งเวลส์ในขณะนั้น ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบทอดราชบัลลังก์ต่อมา แต่เพียงไม่ถึงปีก็ทรงสละราชสมบัติโดยไม่สนใจเกียรติยศและลาภสักการะใดๆ ท่ามกลางความตกตะลึงและเศร้าโศกเสียใจของประชาชน เพราะพระองค์ทรงเป็นขวัญใจของประชาชนมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่นิด แล้วก็ทรงโปรดการกีฬา งานสังสรรค์  ถึงอย่างนั้นก็ทรงสนใจในกิจการงานเมือง ในรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ห้าซึ่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี พระองค์ก็เข้าร่วมรบในสงครามนี้ด้วย และทรงเป็นที่ชื่นชมของผู้ได้พบเห็นถ้วนทั่วทุกตัวคน

    แต่ก่อนที่จะทรงขึ้นครองราชย์ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ 1931 เมื่อพระองค์มีพระชนมพรรษาได้ 37 ปี ในฐานะเจ้าชายหนุ่มรูปงามของมหาอำนาจของโลกอย่างจักรวรรดิอังกฤษ พระองค์ก็บังเอิญพบหญิงม่ายที่มัดใจพระองค์จนยอมเสียสละได้แม้แต่บัลลังก์ สตรีที่ชื่อว่า วอร์ลิส ซิมป์สัน - - สตรีม่ายชาวอเมริกา

    ชีวิตรักของพระองค์กลายเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ เมื่อพระองค์แจ้งเจตจำนงแน่วแน่ที่จะอภิเษกสมรสกับนางให้ได้แม้จะถูกคัดค้านจากผู้คนมากมาย พวกเขาคิดว่านางไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอจะเป็นราชินี  เพราะนอกจากนางซิมป์สันจะเป็นชาวต่างชาติแล้ว นางยังเป็นม่ายจากการหย่าขาดกับสามีคนแรกซึ่งเป็นทหารอากาศรูปหล่อชาวอเมริกัน ซึ่งในสมัยนั้น การหย่าขาดยังเป็นเรื่องล้ำสมัยอยู่มากโดยเฉพาะในประเทศอังกฤษที่ถือว่าการหย่าเป็นสิ่งชั่วร้ายขัดกับหลักศาสนา ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่นางคบหากับพระองค์ นางก็ยังมิได้หย่าขาดกับสามีคนที่สองเลยด้วยซ้ำ

    ประชาชนล้วนคิดว่านางไม่ควรค่ากับการเสียสละอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้เลย นางมาจากตระกูลดีแต่ก็เป็นแค่สามัญชน ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ติดตัว ตอนเป็นสาวก็นับว่ามีเสน่ห์พอควรแต่ไม่ถึงกับสวยเลิศเลอ หรือมีการศึกษาสูงส่ง

    ถึงอย่างนั้นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็ทรงรักและปฏิพัทธิ์นางมากจนทำได้แม้กระทั่งการยอมรับข้อแม้ที่ว่า ภายหลังพระองค์สละราชบัลลังก์แล้วต้องออกไปจากอังกฤษและห้ามกลับเข้ามาในประเทศอีก รวมถึงต้องยอมสละสิทธิ์ใดๆ ของทายาทอันจะเกิดจากการสมรสครั้งนี้ที่มีในราชบัลลังก์อังกฤษ

    ในวันที่ 10 ธันวาคม 1936 ก็ทรงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะสละราชสมบัติ โดยชี้แจงเหตุผลกับประชาชนว่า ไม่อาจทรงรับภาระพระราชกรณียกิจของกษัตริย์ได้โดยปราศจากสตรีผู้เป็นที่รักคอยอยู่เคียงข้าง … ยืนยันให้ทุกคนได้เห็นว่า สำหรับพระองค์แล้วนางสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

        “ข้าพเจ้าปรารถนาให้ทุกท่านเข้าใจว่าการตัดสินใจของข้าพเจ้าครั้งนี้มิได้เป็นไปโดยปราศจากการคำนึงถึงประเทศชาติและจักรวรรดิที่ซึ่งข้าพเจ้าได้รับใช้อย่างเต็มความสามารถตลอด 25 ปีในฐานะเจ้าชายแห่งเวลส์ และล่าสุดนี้ในฐานะพระมหากษัตริย์ แต่ทุกท่านโปรดเข้าใจข้าพเจ้าด้วยว่า ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง และภาระหน้าที่แห่งองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งข้าพเจ้าเต็มใจยิ่งที่จะปฏิบัตินั้น ข้าพเจ้าเห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะกระทำและรับผิดชอบกิจการงานทั้งปวงโดยปราศจากความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากสตรีที่ข้าพเจ้ารัก”

    ภายหลังทรงสละราชสมบัติแล้ว อนุชาของพระองค์ซึ่งขึ้นเป็นกษัตริย์นามว่า พระเจ้าจอร์จที่หก ก็ทรงประทานยศให้พระองค์เป็นดยุกแห่งวินด์เซอร์ และได้รับเงินปีจำนวนหนึ่ง ท่านดยุกแต่งงานกับนางซิมป์สันในปีถัดมาที่ปารีส และก็ทรงอาศัยอยู่ที่นั้นจวบจนความตายพรากทั้งคู่จากกัน…

    จากคุณ : นารูมิ - [ 8 ก.ย. 46 10:17:57 ]