ไม่ต้อง... เราถือเองได้
เสียงปฏิเสธจากหญิงสาวร่างบาง ทำเอาชายหนุ่มหน้าเสียไปนิด แล้วยอมพยักหน้าอย่างเข้าใจ มือที่ยื้อหนังสือไว้กลับปล่อยลงข้างตัว เขาเดินกลับไปยังม้านั่งหินอ่อนที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำหน้าตึกหอสมุด ซึ่งมีเพื่อนผู้ชายกลุ่มใหญ่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
เสียงโห่ฮาแว่ว ๆ ตามหลังมา
แป้งร่ำเดินหอบหนังสือสามสี่เล่มที่ยืมออกมาจากหอสมุดตรงไปยังนิสา เพื่อนสาวผิวเข้มเนียนที่ยังยืนคอยห่างออกไปอีกมุมหนึ่งของตัวตึก
แป้งใจร้ายจัง เสียงคนคอยพึมพำให้ได้ยิน ทำไมน้า
ปิยะเขาก็ดี๊ ดี ตัวยังไม่รับไมตรีจากเขาอีก นี่เขาตามตัวมาตลอด 3 ปี สาว ๆ ในคณะนะชอบเขากันทุกคน ตาสวย จมูกโด่ง ขาว รวมได้ว่าหน้าตาดี เรียนเก่ง รวย เข้ากับคนง่าย
เมื่อเห็นอีกฝ่ายจะพูดต่อ แป้งร่ำเลยขัดขึ้นก่อน ก็เราไม่ชอบ เมื่ออีกฝ่ายมองอย่างคาดคั้นน้ำเสียงคนตอบเลยอ่อย ๆ ลง เออ ๆ ยอมรับก็ได้ว่าเขาน่าสนใจนิดหน่อย แล้วไอ้ออฟชั่นบ้าบอที่นิสายกขึ้นมาอ้างมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรด้วยขอบอก
โหย
แล้วไอ้สเปกแป้งนี่มันเป็นไง คบกันมาจนอยู่ปี 3 แล้วยังไม่เคยเจอเลย นิสาว่าอย่างประชดนิด ๆ อย่างขำ ๆ
ก็ไม่ไง แค่เราไม่ชอบผู้ชายลักษณะห้าว ๆ ชอบหาเรื่องชาวบ้านเขาไปทั่ว(ซึ่งน่าจะเป็นเธอคนเดียว) ไม่ต้องโทรมารายงานตัวกับเราเหมือนฉันเป็นแม่ของเขาเท่านั้นล่ะ
ทำเอาคนฟังอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ คนที่แป้งร่ำหมายถึงก็คือ นายปิยะ หนุ่มเนื้อหอมในคณะเดียวกันที่ตามติดแป้งร่ำมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ปิยะเป็นลูกคนเล็กของครอบครัว อาจติดนิสัยอ้อน ๆ มาบ้าง แต่หล่อนก็ไม่เคยเห็นเขาทำอาการแบบนั้นกับใครนอกจากหญิงสาวร่างบาง แก้มอิ่ม ผมซอยสั้น ๆ แนบศรีษะรับกับใบหน้าและดวงตาคมโตที่เดินอยู่ข้างๆ
หกโมงเย็นแล้วเมื่อแป้งร่ำเดินออกมาจากตึกหอสมุด แสงสีแดงอมส้มเลือนหายไปมาก ความมืดเริ่มครอบคลุมไปทั่วบริเวณ ลมเอื่อย ๆ พัดมาจากด้านที่มีสระน้ำ นิสาขอตัวกลับไปก่อนเนื่องจากมีธุระ วันนี้แป้งร่ำเลยต้องมาหาข้อมูลเพื่อทำรายงานคนเดียว เสียงฝีเท้าตามมาจากด้านหลังทำให้เธอหันกลับไปมอง หน้าตาตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นไง แต่ในใจเธอนั้นกลับเซ็งสุดขีด
นี่ก็อีกคน อาวุธ ชายหนุ่มรุ่นพี่ปีสี่ แต่อยู่คนละคณะที่เข้ามาข้องเกี่ยวในวงจรชีวิตของเธอเมื่อเดือนที่แล้ว และตอนนี้ก็กำลังยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเธอด้วย
หวัดดีครับน้องแป้ง เสียงทุ้ม ๆ ทักทายอย่างเป็นกันเอง
ค่ะ พี่วุธ
ยังไม่กลับเหรอ
คะ เธอทักอย่างเสียไม่ได้
ยังครับ จะกลับแล้วเหรอ
พี่ไปส่งนะ
ไม่เป็นไรค่ะ กลับเองได้
ไม่เป็นได้ไง นี่ก็เย็นแล้ว เดี๋ยวพี่ไปเอารถก่อน น้องแป้งคอยพี่ตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่มารับ ชายหนุ่มยังยืนยัน
ไม่ต้องค่ะ เสียงใส ๆ เริ่มไม่พอใจ แต่พอเห็นใครอีกคนที่เดินตรงมา เธอเลยเปลี่ยนใจ
ไปก็ได้ค่ะ แป้งว่า เราเดินไปด้วยกันเลยดีกว่า
ว่าแล้วแป้งร่ำก็เดินออกตัวไปก่อน โดยมีชายหนุ่มต่างคณะเดินตามไปอย่างสบาย ๆ โดยไม่สนใจหันไปมองคนอีกคนที่มองตามมาเลย
แป้ง
เมื่อวานกลับกับพี่วุธเหรอ เสียงห้าว ๆ ถามอย่างกระชากนิด ๆ
ทำไมเหรอ คนตอบทำหน้าตาเฉย
ก็
ไม่ทำไม เป็นห่วง แล้วมันก็ไม่ดีด้วย
ทำไมจะต้องห่วง
ไม่ดียังไง
แล้วอีกอย่างพี่วุธเขาก็ไม่ได้เลวร้ายตรงไหนนี่ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเจือแววไม่พอใจเหมือนกัน
ปิยะกำลังจะอธิบายให้หญิงสาวฟังถึงหญิงสาวร่างบางที่เคยเห็นตามอาวุธบ่อย ๆ แต่วีระศักดิ์วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาขัดจังหวะก่อน
ไอ้เล็ก ไปเร็ว ไอ้พีมันโดนคณะ
รุม
เขาตามเพื่อนออกไปโดย ไม่วายหันมาทำไม้ทำมือเป็นสัญลักษณ์ว่าตอนเย็นจะโทรไปหา
แป้งร่ำถอนหายใจ มองตามหลังคนตัวโตไปจนลับมุมตึก เสียงนิสากระแอมขึ้นมาเบา ๆ เมื่อเดินเข้ามานั่งพร้อม ๆ ทีชายหนุ่มสองคนเดินสวนออกไป
ตายแหง ๆ คำแรกที่นิสาเอ่ยขึ้นมา ทำให้แป้งร่ำหันไปมองอย่างแปลกใจ
ทำไมล่ะ
อ้าว
ก็คณะนั้นน่ะ ไม่ค่อยมีใครเขาอยากยุ่งด้วยหรอก ไม่รู้พีมันไปทำอะไรให้ นิศาทำหน้าทำตาประกอบไปด้วย ทำเอาแป้งร่ำอดใจหายไม่ได้
คาบเรียนในตอนเช้าหมดไปแล้ว ไม่เห็นวี่แววของ ปิยะ วีระศักดิ์ และพีรพลที่กลับเข้ามาเรียนเลย นิสาลองสืบ ๆ ดูจากเพื่อนผู้ชายที่นั่งอยู่หลังห้องก็ไม่ได้ใจความอะไรมาก เพราะเรื่องเกิดตอนเช้า ซึ่งบางคนยังมาไม่ถึงมหาวิทยาลัย จนถึงตอนเย็นเป็นเวลาปกติที่ปิยะจะต้องโทรมา เสียงโทรศัพท์กลับเงียบดั่งมีใครไปกระตุกปลั๊กออก แป้งร่ำรอจนเผลอหลับไป
ตื่นมาอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ลากมาไว้ใกล้ ๆ มือ ไม่มีใครรับสายเพราะคนที่บ้านจะรู้ว่า จะมีชายหนุ่มหน้ามน นิสัยเข้ากับคนทั้งบ้านของเธอได้เป็นอย่างดี โทรมาเสมอ ๆ แม้แต่น้องสาวตัวยุ่งซึ่งอยู่อีกห้องก็ยังไม่รับสายก่อน เสียงโทรศัพท์ดังอยู่สามสี่ทีแล้วก่อนเธอจะเอื้อมมือยกหูขึ้นมา
สวัสดีค่ะ
แป้งเหรอ? วีเองนะ
เอ๊ะ!
เอ๋อ
วีเหรอ มีอะไร
ไม่มีอะไร แค่จะโทรมาขอยืมเลคเชอร์วันนี้หน่อย พรุ่งนี้เอามาให้ด้วยนะเราจะยืมลอกหน่อย งั้น...แค่นี้นะ วีระศักดิ์พูดเร็วจบเร็วแต่ได้ใจความ
เดี๋ยว! หญิงสาวทักก่อนอีกฝ่ายจะวางหูไป พีเป็นไงบ้าง...แล้ว...เล็กล่ะ...ทำไมเมื่อเช้าไม่เข้าเรียนกัน ตอนบ่ายก็หายไปกันทั้งสามคนเลย อาจารย์จะปิดคอร์สแล้วนะ นิสาไปถามโต้ง โต้งก็ไม่รู้ เธอพูดไปอย่างรวดเร็วเหมือนกัน เพราะกลัวอีกฝ่ายจะวางหูไปซะก่อน
นึกว่าจะไม่ถามถึงซะแล้ว เสียงห้าว ๆ ที่แป้งร่ำคุ้นเคยดังตอบกลับมา พร้อม ๆ กับเสียงของอีกสายหนึ่งที่วางลงบนแป้น
เอ๊ะ!
ดีใจจัง...ที่ยังห่วงกันอยู่ เสียงกลั้นหัวเราะจากปลายดังมาอีกรอบ
ไม่ได้ห่วงย่ะ เสียงใส ๆ ที่คุยกับวีระศักดิ์เมื่อกี้กลายเป็นเสียงดุห้วน ๆ กลับไปแทน คนอะไรไม่มีมารยาท แย่ที่สุดเลย แอบฟังคนอื่นเขาคุยกัน
คนอื่นที่ไหน มันก็เพื่อนเรา อีกอย่างเราโทรมาหาแป้ง แต่ไอ้วีมันดันทะลึ่งพูดขึ้นมาก่อน เพราะกลัวแป้งคุยกับเราแล้วจะอารมณ์เสียพาลไม่ให้ยืมสมุดต่างหากล่ะ เสียงตะโกนใช่ ๆ ของวีระศักดิ์ดังแว่วเข้ามาในสายเป็นการยืนยัน
เออ ช่างเหอะ แป้งร่ำตัดปัญหาด้วยเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่ม พีเป็นไงบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยสิ
สบายดี ไม่มีอะไรหรอกคุยกันได้ ไอ้พีก็อยู่ แป้งจะคุยด้วยมั้ยล่ะ แต่...อย่าเลยคุยกะเราดีกว่า ปลายสายยังไม่วายกวนอารมณ์
ไม่ล่ะ บอกวีด้วยว่าพรุ่งนี้เราจะเอาสมุดไปให้ แค่นี้นะ
ครับ ชายหนุ่มรับคำ
แป้งร่ำวางหูไปแล้ว ปิยะหันกลับไปมองเพื่อนสองคนที่ยังนอนขวางอยู่บนเตียงขนาดใหญ่กลางห้องใบหน้ายังประดับด้วยรอยยิ้ม
หมั่นไส้ว่ะ เองว่าไงวี พีรพลมองคนที่กลับมานั่งดูบอลอยู่ปลายเตียง
เออว่ะ ข้าก็หมั่นไส้ แต่ปล่อยมันไปเหอะว่ะ จะทำไร่แห้วอยู่แล้วยังทำหน้าระรื่น วีระศักดิ์ต่อให้ ตกลงนี่เองชอบแป้งจริง ๆ เหรอ
คำตอบเหมือนเดิม อย่าถามได้ป่ะ ถามอยู่ได้ ซ้ำซากน่าเบื่อถามมาตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสาม
แล้วถ้าแป้งเขาไปชอบคนอื่นล่ะ เอ็งจะทำไง พีรพลถามไปงั้น ๆ ก่อนยกมือลูบหน้าอย่างเสียดายที่นักแตะในจอตู้ยิงประตูพลาด ส่วนวีระศักดิ์ร้องโวยวายอย่างเสียดาย
คำถามนี้ทำให้ปิยะถึงกับเงียบไป อารมณ์ดูสโมสรสุดโปรดลดหายไปเกือบหมด จู่ ๆ หน้าอาวุธก็โผล่พรวดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งยังใบหน้าใส ๆ ของแป้งร่ำที่ติดตาตรึงใจของเขาอย่างไม่ลบเลือนอีก นั่นสินะ...ถ้าแป้งร่ำชอบคนอื่น เขาจะทำอย่างไร กี่ทีกี่หน เขาก็เป็นได้แค่ตัวกวนประสาทของเธอ ที่เธอพูดดีด้วยใช่เป็นเครื่องหมายว่าเธอมีใจให้เขา
นี่นะ
+++++++++++++++++++
ไหน ขอดูหน่อยสิ ชายหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่ยังดึงกระดาษจากหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ มาดู หัวเราะอย่างกวน ๆ
ก็เราไม่เข้าใจนี่ แล้วคำนวณแบบนี้เราก็ไม่ค่อยชอบ ไม่เหมือนบางคนนิ เรียนเก่งจะตาย ทั้ง ๆ ที่โดดเรียนก็หลายที แป้งร่ำบอกอย่างงอน ๆ แถมเผลอค้อนให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อีกด้วย
โดดที่ไหน เราติดธุระต่างหาก วันไหนหายไปเราก็โทรไปบอกแป้งทุกครั้ง ถึงเราโดด เราก็ยังดูหนังสือ ยืมสมุดแป้งมาลอก ไม่ได้ปล่อยมันไปซะหน่อย ปิยะยิ้มประจบหญิงสาวที่นั่งข้าง ๆ
แล้วนี่ มันต้องคิดอย่างนี้ รู้มั้ย เสียงห้าว ๆ อธิบายอย่างยืดยาว ในมือมีดินสอที่กำลังขีดเขียนบนกระดาษแสดงวิธีทำให้นิสา วีระศักดิ์ และพีรพลดูไปด้วย
อ๋อ ทุกคนที่นั่งรวมกันอยู่พูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน เลยพลอยทำให้การทำข้ออื่นๆ ง่ายตามไปด้วย
ขอบใจนะเล็ก เสียงหวานใส ๆ เอ่ยออกมาทำลายความเงียบ เมื่อนิสา วีระศักดิ์ และพีรพลอาสาไปหาเสบียงมาตุนไว้ในการติวหนังสือสอบปลายภาคกันต่อ โดยมีเธอและปิยะเป็นคนอยู่เฝ้าของ
เขาหันมายิ้มให้เธออย่างรับรู้
ขอเปลี่ยนจากคำขอบใจเป็นอย่างอื่นได้ป่ะ น้ำเสียงรวน ๆ ดังขึ้นมาเมื่อต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่
อะไร หญิงสาวทำหน้าตาตื่น ๆ แก้มนวลเริ่มมีสีฝาด
ขอเป็น...เป็น ดวงตายาวรีล้อมด้วยขนตาดำเป็นแพหนาเปล่งประกายความรู้สึกบางอย่างออกมา
เป็นอะไรกันเหรอ นิสาขัดขึ้นมา ตามมาด้วยพีรพลที่หอบขนมถุงโตพร้อมด้วยวีระศักดิ์ที่ถือแก้วน้ำมาเต็มมือ
ก็...เปลี่ยนจากคำขอบใจเป็นเกรดสวย ๆ แทนไง ขอแค่นี้ทำได้หรือเปล่า
กลุ่มที่เพิ่งมาสบทบเลยหัวเราะกันลั่น แป้งร่ำแอบถอนหายใจ พยายามควบคุมสติและอารมณ์ให้ปกติ ทุกครั้งที่ถึงคราวสอบทีไร ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ จะเข้ามาคอยช่วยคอยสอนเธอ รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่ไม่เข้าใจเสมอ ๆ แววตาวับ ๆ ที่มองสบกันเมื่อกี้ทำเอาจิตใจของเธอหวั่นไหว จากเฉย ๆ กลายเป็นความเคยชินเมื่อเขาเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ถึงไม่ได้แสดงอะไรอย่างชัดแจ้ง แต่เธอก็รับรู้...ทีละนิด ทีละนิด...
จากคุณ :
พิจิกา...หน้าฝน
- [
8 ก.ย. 46 20:54:48
A:169.210.26.128 X:
]