ความเดิมตอนที่แล้ว :
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2447895/W2447895.html
(ตอนที่ 1 ต่ออีกนิดนึงจ้ะ)
เช้า สาย บ่าย เย็น ทุกทีที่ว่างดูเหมือนโลกจะมีเพียงออมกับเขาสองคน จนใน
วันหนึ่งก็เป็นไปตามสเต็บของการจีบสาว เขานัดเจอกันกับออม เธอไม่แน่ใจนักก็ปรึกษา
กับเพื่อนที่ออฟฟิศก็หนุ่มวิศวเกิน เอ๊ย ! วิศวกรผู้มากประสบการณ์เหลือเกินนั่นแหละ
หลายคนจารไนให้เธอฟังชนิดถึงกึ๋นเลยก็ว่าได้ แถมด่ามาอีกชุดใหญ่ เรื่องนี้มันก็เหมือน
เล่นกับไฟดี ๆ นี่เอง ผู้ชายนะ ถือว่านัดได้ ก็ถือว่าได้ชัยชนะก็ได้ใจไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้ว
อย่าทำตัวเป็นผู้หญิงไม่มีค่าสิยายออม เพื่อนมีเยอะแยะมากมายเธอไปแคร์อะไรกับหนุ่ม
ที่รู้จักกันทางโทรศัพท์อย่างนั้นเล้า..โธ่..จะเป็นไรไปเล่าคนเราสมัยนี้การศึกษาก็ออกสูง
แล้วคุณพรพจน์ก็เป็นถึงผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อคงไม่บุ่มบ่าม คงไม่มีอะไรที่เสียหาย เขาต้อง
อยู่ในสังคม เขาจะยอมเสียชื่อเสียงตัวเองเพียงเพราะ
ตัณหาหน้ามืดหรือ.. ออมนั่ง
ถกเถียงกับตัวเองในใจอยู่ครึ่งค่อนวัน แล้วในที่สุดความอยากรู้อยากเห็นก็ชนะ
เธอนั่งรถปรับอากาศประจำทางไปยังที่จุดนัดพบ กว่าจะถึงเธอก็ช้าไปเกือบชั่วโมง
เหมือนฟ้าฝนไม่เป็นใจ ฝนตกและรถก็ติดมากจนเธอเองก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ ก็ถือว่าเขา
ใช้ได้เพราะรถกระบะสีบอร์อนยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียนที่เธอไม่ต้องท่องก็จำได้
ขี้นใจยังจอดรออยู่ที่นั่น สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปเคาะกระจก ชายหนุ่ม
ผิวสีแทน จัดว่าหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถหันมามองแล้วยิ้มรับ เขาเอื้อมมือมาเปิดประตู
สวัสดีค่ะ รอนานมั๊ยคะ เธอเอ่ยทักก่อน ส่งแววตาที่บ่งบอกว่าเสียใจที่มาช้า
ดูเหมือนเขาจะเข้าใจ
รถติดใช่มั๊ยครับ ไม่เป็นไรผมก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน
ขอบคุณค่ะ หิวหรือยังคะไปไหนกันดี
ว่าจะชวนไปดูหนังสักรอบ
ค่ะ รับคำแล้วไม่กล้ามองเขาตรง ๆ อีก และไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่แอบใช้
สายตาสำรวจขณะฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนรถออกจากที่เพื่อจะมุ่งไปที่จอดรถในอาคารของ
ห้างสรรพสินค้าใหญ่
เขาจัดว่าเป็นหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง คือใบหน้านั้นไม่มีสิวเขรอะ ไม่มีแผลเป็น
แม้ว่ารอยด่างดำประปรายจะปรากฏบาง ๆ ก็ดูไม่น่าเกลียด กางเกงยีนส์สีซีดจนเกือบ
ขาวเข้ากันได้กับเสื้อเชิ้ตสีเดียวกัน แขนยาวถูกพับขึ้นมาครึ่งศอก เหลือบตาดูเบาะหลัง
รกระเกะระกะไปด้วยเครื่องมือของช่างไฟ ไม่เหมือนรถคนมีภรรยาแล้วอย่างที่เขาเคยบอก
ออมว่า
อ้าวก็บอกกันไว้ก่อนว่า..เออ..มีแล้วนะ เผื่อรู้ทีหลังจะได้ไม่เสียความรู้สึก
จำได้ออมก็ตอบเขาว่าออมเองก็มีคนของหัวใจเหมือนกัน กลัวน้อยหน้านี่นะ ยังบอกเขา
อีกว่าที่คบกับเขาเพียงต้องการเพื่อนใหม่สักคน เพื่อนในวันที่ไม่มีใครมันสำคัญมากสำหรับ
คนขี้เหงา..หวังว่าเขาคงเข้าใจ
เขาจอดรถแล้วหันมายิ้ม เธอยิ้มตอบ เขาลงจากรถเธอก็รีบลงตามไม่รอให้เขา
มาเปิดประตูให้ ต่างก็เดินตามกันไปจุดมุ่งหมายคือโรงภาพยนตร์ซึ่งอยู่ชั้น 3 ของ
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้
เรื่องอะไรดี เขาหันมาและเลิกคิ้วถามเมื่อถึงช่องตีตั๋ว เธอส่ายหน้าเมื่อ
เขาเอ่ยชื่อเรื่องแรก และพยักหน้าเมื่อเขาเอ่ยถึงเรื่องต่อไป ตีตั๋วเสร็จก็ต้องเดินเข้าโรง
ภาพยนตร์เลยเพราะว่าเกินเวลาฉายมาสิบนาทีแล้ว เดินตามเขาเงียบ ๆ เมื่อเขาเลือกนั่ง
ตัวถัดไปเธอจึงต้องนั่งเก้าอี้ตัวริมสุดโดยปริยาย บนจอกำลังฉายภาพยนตร์ตัวอย่าง
ตั้งใจดูอย่างจรดจ่อ ก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่ ชวนมาดูหนังไม่ได้ชวนมาคุยซักหน่อย จริงหรือ
เปล่าล่ะ
ตั้งใจดูจังนะ เขากระซิบ
ค่ะ..ก็ชวนมาดูหนังไม่ได้ชวนมาคุยนี่นา
เขายิ้มดูกันไปเรื่อย ๆ โรงนี้คนไม่เยอะนัก อาจจะเป็นเพราะหนังเรื่องนี้ฉายมาหลายวัน
แล้วก็ได้ เธอหันไปมองข้างหลังก็พบว่าเธอและเขาเป็นเพียงคู่เดียวที่นั่งแถวนี้และ
แถวหลังก็ว่างไปอีกสามสี่แถว ถึงจะคุยกันก็คงไม่รบกวนใคร จึงเริ่มชวนเขาคุยบ้าง
เนี่ยะค่ะ..อยากดูเรื่องนี้จัง
ฮื่อ..ก็น่ารักดี เขาถูมือตัวเองไปมา บ่นเบา ๆ ว่ามือชื้นเหงื่อไปหมด เอ้อ..
แล้วจะให้หาผ้ามาเช็ดให้หรืออย่างไรล่ะ..
ไหนดูมือหน่อยสิ แสงสว่างจากจอภาพข้างหน้าทำให้มองเห็นเพียงรูปร่าง
ของมือ ออมมองมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า
ทำไมคะ..มือออมมีอะไรผิดปกติหรือ พูดพลางยกมือเล็ก ๆ พลิกไปพลิกมา
อย่างงง ๆ เขายังยื่นมือมาตรงหน้า สายตาจ้องมาที่หน้าเธอไม่เปลี่ยน เธอหลบตา เสมองไป
บนจอภาพยนตร์เบื้องหน้าเริ่มจะไม่รู้เรื่องแล้วสิ เมื่อเขายังจ้องไม่เลิกก็เลยถอนหายใจ สบตา
เขาแว่บนึงก่อนจะวางมือลงไปบนมือเขา วาว..มือเขานุ่มกว่าที่คิดอีกแน่ะ แต่หัวใจสิเต้นไม่เป็น
จังหวะแล้ว จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่องนั้นจบเธอยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเล้ย..เฮ้อ..ยายออม
พยายามที่จะดึงมือกลับมาอย่างสุภาพที่สุด แล้วลุกขึ้นเดินนำออกจากโรงภาพยนตร์
เดี๋ยวติดรถไปลงข้างหน้านะคะ
อ้าวแล้วจะกลับเลยหรือเปล่า พี่ไปส่งก็ได้
ไม่ค่ะ ยังไม่อยากกลับบ้านเลย ว่าจะไปหาซื้อหนังสือสักเล่มสองเล่มไว้อ่าน
เล่นน่ะค่ะ
ตามใจ พี่ก็ว่าจะเข้าออฟฟิศสั่งงานลูกน้องสักหน่อย ออมยื่นธนบัตรแบงก์ละ
ร้อยให้เขาสองใบ
ค่าตั๋วค่ะ เขายิ้มส่ายศรีษะเบา ๆ
เลี้ยง
ขอบคุณค่ะ แล้วจะใช้หนี้ให้ละกัน
โอเค..ถ้าจะสบายใจขึ้น เขาชลอรถและจอดตรงป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้า
แห่งนั้นออมลงจากรถแล้วมองเขาจนลับตา แปลกที่ความรู้สึกคิดถึงมากมายที่มี คิดถึงแทบทุก
ลมหายใจเข้าออก คิดจนเก็บไปฝันจางหายไปกับควันรถกระบะสีบรอนซ์ ยี่ห้อโตโยต้าคันนั้น
จนหมดสิ้น เออ..เลิกคิดถึงเขาแล้วเธอจะคิดถึงใครดี ตัวเองเหรอ ความดี วีรกรรมชั้นยอด
อันแปลกมนุษย์ของตัวเองเริ่มหลั่งไหลมาสู่ความคิดจนต้องหัวเราะเบา ๆ เออ..หัวเราะให้ตัวเอง
ใครจะว่าบ้ามั๊ยเนี่ย..
**********
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
9 ก.ย. 46 20:14:05
]