กระทงไม่หลงทาง - ตอนที่ 3 (เรื่องสั้น 10 ตอนจบ)

    ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2447895/W2447895.html

    ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448092/W2448092.html

             เช้าวันใหม่ แดดใสระบำระยิบระยับอยู่นอกหน้าต่างออฟฟิศ  ออมมองกระถางต้นออมเพชรที่ตั้งอยู่มุมโต๊ะ หลายวันแล้วสินะที่ไม่ได้เอาเจ้าไปรับแสงแดด..ไปซะหน่อยไหม  ออมยกมันขึ้นมาถามแล้วก็เป็นฝ่ายตัดสินใจให้มันเองเสร็จสรรพโดยการเดินเอากระถางออกไปวางไว้ตรงแปลงดอกไม้ข้างลานจอดรถหน้าบริษัทฯ เมื่อเดินกลับเข้ามาเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจึงเอื้อมมือไปรับ

    “สวัสดีค่ะ..บริษัท...”

    “สวัสดีครับ ผมจะสอบถามราคาสินค้าไม่ทราบว่าต้องติดต่อกับใครครับ”

    “คุณพิพัฒน์ค่ะ สักครู่จะโอนสายให้นะคะ เอ่อ..ขอโทษค่ะจากไหนคะ”

    “แปดสิบเก้าวิศวกรรมครับ ..เดี๋ยว ๆ คุยกับคุณก่อนได้ไหมครับ”  ปลายสายหยั่งเสียง

    “คะ”

    “อยากรู้จักครับ”  ออมหัวเราะเบา ๆ อีกคนหนึ่งแล้วพวกหลงเสียงนางพอได้เจอตัวจริงก็ขวัญกระเจิงกันหมด  รายไหนรายนั้นสิน่า

    “ผมชื่อติ๊กครับ แต่บอกฝ่ายขายของคุณนา ว่าผมชื่อวิศรุต”

    “ยินดีที่รู้จักค่ะ”  ออมเสียมารยาทอีกแล้ว

    “เอ่อ..สักครู่โอนสายให้ค่ะ”

    “ลืมหรือแกล้งลืมครับ ยังไม่ได้บอกชื่อผมเลย”

    “ออมค่ะ”

    “ยินดีที่รู้จักเช่นกันครับ นาน ๆ จะได้เจอคนอารมณ์ดีอย่างนี้สักคน เจอแต่แบบสวัสดีค่ะ  รอสักครู่ค่ะ”       เขาดัดเสียงให้ฟัง จนอดหัวเราะอีกครั้งไม่ได้แล้วก็ล้อเลียนเขาด้วยประโยคเดียวกัน

    “รอสักครู่ค่ะ”  แล้วก็โอนสายเขาไปให้ฝ่ายขายตามความประสงค์แรกของเขานั่งทำงานต่อไปอีกพักใหญ่ก็มีคนเรียกให้รับโทรศัพท์

    “ค่ะ”

    “ฝากเบอร์มือถือไว้ให้โทรกลับครับ”

    “จากไหนคะ”

    “ติ๊กครับ”

    “อ๋อค่ะ..เบอร์อะไรคะ”

    “01-621----”  

    “ค่ะ  สวัสดีค่ะ”  โรคใจง่ายเริ่มกำเริบอีกแล้วสิอัญชนา

    วันหนึ่งเธอลงทุนไปเดินหาซื้อครอสติสมานั่งปักให้เขาเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ที่ใกล้เข้ามา  ถือว่าตอบแทนน้ำใจที่ช่วยเป็นเพื่อนคุยให้ในวันเหงา ๆ  และกับคนนี้รู้สึกแปลกกว่าทุกคนที่คุยมาเหมือนเขาเป็นน้องชายที่น่ารัก ขี้อ้อน ขี้งอนอีกต่างหาก จากที่นานนับเดือนที่โทรคุยกันไปคุยกันมาโดยไม่ได้พบเจอ ออมหามรุ่งหามค่ำปักอยู่สามวันสามคืนก็เสร็จและคิดว่าจะส่งไปให้เขาทางไปรษณีย์ตามความถนัดมากกว่าจะนัดเจอเขาแล้วนำไปให้ด้วยตัวเองเลยเริ่มต้นร่ายจดหมายยาวเหยียดหนึ่งฉบับ

    30. 10. 42

    MY TICKET

    ขอเรียกคุณว่าตั๋วเดินทางของฉันนะคะ ขี้ตู่หน่อยนึงละกัน..เพราะตั้งแต่รู้จักคุณมาได้เดินทางอยู่เรื่อย ไม่ต้องเงียบเหงาอยู่คนเดียวเหมือนเคย ถือว่าคุณเป็นคนนำโชคค่ะ  

    พักนี้งานไม่เยอะเท่าไหร่ ช่วงเย็น ๆ ก็เลยว่าง คุณล่ะถ้าว่างหรือขณะขับรถกลับบ้านก็ลองหมุนวิทยุไปฟังคลื่นเก้าสิบเก้าจุดเก้านะคะ คลื่นเพลงหวานเผื่อจะมีใครโทรไปขอเพลงให้ฟังบ้าง  

    สงสัยหรือคะว่าออมว่างปานนั้น ก็..ค่ะว่าง ว่างเกินไปสำหรับชีวิตบางช่วงจะเพราะเหตุใดก็บอกไม่ถูก แต่พึ่งทำครั้งแรกในกรุงเทพฯ เพราะบังเอิญรู้จักดีเจที่คลื่นนี้  ก่อนหน้านี้สมัยอยู่เชียงใหม่น่ะค่ะจะทำเป็นประจำอยากฟัง (อ่าน) วีรกรรมไหมคะเมื่อก่อน จะใช้นามปากกาว่า “ชมเดือน” แล้วเขียนจดหมายรวมถึงพวกบทกวีส่งเข้าไปในรายการของสถานีไหนก็จำไม่ได้เสียแล้ว ช่วงหลังข่าวทุ่มครึ่ง จะมีรายการสุดฮอตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งสมัยนู้น.. ดีเจจะชวนให้เขียนจดหมายเข้าไปขอเพลง หรือบทกวีเข้าไปเพื่อที่จะเปิดเพลงให้เข้ากับบทกวีนั้น ๆ ออมก็เล่นด้วยสิคะชอบเขียนอยู่แล้ว น่าปลื้มนะคะจะมีคนขอเพลงให้ “ชมเดือน” ทุกวันและแทบทุกฉบับที่เขียนเข้าไปในรายการ

    ชอบเล่าอะไรที่ดูดีและออกจะ OVER ก็หัดยิ้มและเก็บไว้เถอะค่ะ เป็นความทรงจำที่ดีที่ออมอยากให้คุณร่วมรับรู้ และนึกขอบคุณเสมอที่เป็นเพื่อนให้ในวันที่ออมไม่มีใครอย่างนี้

      -- วันนี้ไม่ได้ไปไหน                  นั่งหายใจอยู่ในห้องกว้าง
      ขีดเขียนเรื่องราวคนอ้างว้าง อยู่ท่ามกลางความเดียวดาย
      คุณล่ะ เป็นอย่างไร                       แอบโล่งใจสุขสบาย
      ที่ฉันเงียบห่างหาย             หรือเดียวดาย--คล้าย--คล้าย--กัน

    ไม่ได้คุยกับคุณหลายวันแล้ว เหมือนนานเลยค่ะ นานจนคิดว่าตัวเองลืมเสียงคุณได้แล้ว ทั้งที่ทุกทีที่ได้ยินเสียงเพลงหัวใจกระดาษที่คุณเคยร้องให้ฟังก่อนที่ออมจะได้ฟังจากนักร้องดังคนนั้นก็ยังอดนึกถึงไม่ได้   “เธอ--หัวใจกระดาษ เบา ๆ ก็ขาด เบา ๆ ก็ปลิว เธอหัวใจกระดาษ เบา ๆ ก็ขาดแค่ลมบางเบาก็ปลิว ล่องลอยตามสายลมรักของคนเรื่อยไป ที่เธอพอใจ หัวใจไม่มีพักเลย หัวใจไม่มีรักเลย”      ก็จะทำไมเล่าคะ ถ้าหัวใจออมแค่กระดาษว่าวลอยลม เอาน่ะ..รับรองไม่ลอยไปติดแถวที่คุณอยู่ก็แล้วกัน ไม่ให้เพื่อนเดือดร้อนหรอกค่ะ เชื่อเถอะว่าขืนมาหว่านเสน่ห์เอากับออมคุณเดือดร้อนเปล่า ๆ ค่ะ ออมเป็นคนนิสัยไม่ดีนะ

    คิดถึงคุณค่ะวันนี้ คิดถึงจนต้องเขียนมาหา แม้ว่ามันจะเป็นการคุยกับตัวเอง คุยกับตัวหนังสือโดยเอาชื่อคุณมาอ้างก็เถอะ ไม่รู้ว่าคุณจะคิดถึงออมบ้างไหม หวังว่าตอนนี้คุณคงไม่ไปขอสาว ๆ ที่ไหนมาเป็นหุ้นส่วนแบบที่คุยกับออมอีกนะ อย่าบ่อยนักนะคะ   หวงน่ะรู้มั๊ย   อ้าว..เอ๊ย! ขอโทษเขียนผิด   จะบอกว่าเป็นห่วงน่ะค่ะ คนเรามีอยู่สองด้าน เหมือนภาพปักครอสติสที่ออมส่งมาให้คุณนี่ไงคะ ด้านหนึ่งจะมองเห็นเป็นรูปร่างสวยงาม แต่อีกด้านหนึ่ง (ถ้าไม่ติดกรอบนอก) คุณจะได้เห็นอีกภาพหนึ่งที่ยุ่งเหยิงเต็มไปด้วยเส้นด้าย หลากเงื่อนหลายสี ไม่สวยสดงดงาม ถ้าจะเปรียบภาพปักครอสติสกับคนเราก็เหมือนภาพปักครอสติสที่ใส่กรอบนอกเรียบร้อยแล้ว สูงต่ำ ดำขาว สวยไม่สวยดูได้ด้วยตาเปล่า แต่เราไม่สามารถพลิกไปดูด้านหลังภาพได้ทันทีว่ามีลักษณะไม่สวยอย่างที่ ออมเอ่ยถึงไหม ถ้าจะดูจริง ๆ ก็คงต้องใช้เวลากว่าจะมานั่งแกะงัดแงะออกมาดูถึงจะรู้

    ก็เพียงอยากจะบอกคุณว่ารักษาตัวกับหัวใจเอาไว้ให้ดีนะคะ อย่ามาให้ใครไปง่าย ๆ ไม่ได้สอนค่ะ แต่พร่ำย้ำเตือน เพราะชอบที่คุณเป็นคนดี จะตกลงปลงใจกับสาวไหนก็ดูให้ดี ๆ ก็แล้วกัน เหมือนที่คุณเซ็นต์รับเอกสารที่คุณตรวจรับซะ..ละเอียดยิบนั่นแหละค่ะ ตรงนั้นคุณยังละเอียด
    รอบคอบแล้วกับหนึ่งชีวิตของคุณเองก็ ‘ดูให้ดี’ ก่อนตัดสินใจไปชวนใครเขาร่วมหุ้นด้วยอีกนะคะ

    เขียนเยอะเลย คุณจะหลับก่อนอ่านจบไหมนี่ คงต้องยุติแค่นี้ทั้งที่มีเรื่องราวมากมายในใจที่อยากให้คุณร่วมรับรู้

    เวลาเดินทางไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์ต่างหากที่คิดเองเออเองว่าหมดเวลาแล้ว สำหรับวันนั้นวันนี้ ไม่รู้เค้าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ความเหมาะ ไม่เหมาะสำหรับหนึ่งเหตุการณ์นะคะ..แต่ครั้งนี้ออมใช้ความยาวของกระดาษที่จวนหมดบรรทัดให้เขียนแล้วเป็นเกณฑ์ตัดสินค่ะ

    บ๊าย..บายค่ะ  ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
          ถึงคิด..ก็..คิดถึง
                 
                   ออม

    ไหน ๆ ก็เขียนแล้วขอต่ออีกฉบับหนึ่งเถอะ เธอหยิบกระดาษขึ้นมาอีก
    ปึกหนึ่งยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่เขียนถึงป่านนี้คงหลับไปแล้วมั๊ง  อนามัยจัดขนาดนั้น ต้องนอน ให้ครบแปดชั่วโมงเป๊ะถึงจะสดชื่นยังกะเด็กแน่ะ ถ้าวันไหนนอนไม่ครบชั่วโมงเห็นงอแงทุกที เวลาคุยกันง่วงจนจะหลับแล้วคร๊าบ เขาว่างั้น

    30. 10. 42
    คุณกฤชพล
    เคยมีแต่หนังสือพิมพ์รายวัน  นิตยสารรายสัปดาห์ใช่ไหม ที่ออมเขียนนี่เป็นจดหมายรายวันแล้วนะขอบคุณที่ใจดีค่ะ เป็นคนอ่านให้โดยไม่บ่น ทำให้เป็นสิ่งคุ้นเคยในชีวิตประจำวันของคุณไว้เถอะค่ะ ออมคงเขียนถึงคุณอย่างนี้ไปอีกนาน

    ฟ้าฝั่งนี้ฝนตกที่นี่จริง ๆ แหละค่ะ วันนี้ฝนตกปรอย ๆ มาตั้งแต่บ่ายพอเย็นเลิกงานช่วงเดินกลับบ้านเดินได้ครึ่งทางฝนก็ตกลงมายังกะท่อประปาของกรุงเทพมหานครแตกเลยเปียกทั้งตัวอีกตามเคย หนาวค่ะ ปวดหัวด้วย  เพราะตากฝนกลับบ้านบ่อยมากพักนี้ ฮาดชิ้ว! แบ่งไปบ้างไหมคะเชื้อไวรัส เพ่นพ่านอยู่แถวนี้เยอะเหลือเกิน

    ชอบนะคะ เดินตากฝนได้ยินหลายคนพึมพำตามหลังบ้างเหมือนกันว่าบ้าหรือเปล่า สงสัยจังค่ะว่าคนชอบตากฝน ผิดตรงไหน ไม่เดือดร้อนใครด้วย ทำไมคนเค้าถึงมองว่าคนเดินตากฝน โดยไม่มีร่มกางว่า ‘บ้า’ แปล๊ก..แปลกเนอะ ออมนะเดินตากฝนมาตั้งเด็กจนโต (แต่ปอดไม่โตนะ) จนทุกวันนี้ก็ยังชอบอยู่เลย คุณพลอย่าลองบ้างก็แล้วกันค่ะ ถ้าคุณไม่ชินเหมือนออม ยังไม่อยากไปเยี่ยมคุณที่โรงพยาบาลเพราะโรคปอดบวม

    พักนี้เขียนแต่กลอนเด็ก ๆ ทน ๆ อ่านหน่อยนะคะ บทนี้ให้ค่ะ

      --แค่เคยผ่านพบสบตา   ได้พูดจาเก็บมาฝัน
      เฝ้ารอนับคืนวัน   จะพบกันอีกเมื่อไร
      แม้คืนวันล่วงผ่าน           กี่ความหวานก็เก็บให้
      ขอบคุณที่ห่วงใย   ฉันก็ดีใจ..ทีมีคุณให้คิดถึง

    เอกลักษณ์ประจำตัวออมค่ะ ชอบจบไม่ลงตัว ประจำ คุณลองช่วย ๆ คิดหน่อยละกันว่าเราควรตัดคำไหนทิ้งดี แล้วจะรอฟังคำตอบค่ะ

          ดีใจ..ที่มีคุณให้คิดถึง

                   ออม

    พับจดหมายใส่ซองแล้วจ่าหน้าซองถึงคนสองคน แล้วจัดการเคลียร์โต๊ะหนังสือให้เป็นระเบียบอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ฮัมเพลงที่ขึ้นชาร์จอันดับ หนึ่งของสัปดาห์นี้ ใจสั่งมาของวงโลโซ   “หากว่าเธอผ่านมาได้ยินเพลงนี้ คาดว่าเธอคงรู้ดีว่าเป็นฉัน มอบให้เธอคนเดียว อาจไม่เกี่ยวแต่สำคัญ เพราะฉันนั้นอยากให้เธอได้ฟัง---”


    แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 46 23:32:06

    แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 46 23:28:28

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 9 ก.ย. 46 21:38:06 ]