ถ้า.. ไม่มีฉัน

                   

                   “พ่อกับแม่จะเลิกกัน”

                   เสียงของแม่ที่ดังมากระทบโสตประสาท คล้ายลอยมาจากที่ไกลแสนไกล ... พริมได้ยิน รับรู้        
    หากยังคงนิ่ง ไม่ตอบสนอง
                   
                   ร่างเล็ก บาง ของเด็กหญิงวัยแรกรุ่นนั่งตัวตรง มือทั้งสองกำแน่น
    จนรู้สึกถึงเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อ สายตามองผ่านเลยผู้เป็นบิดามารดาออกไปนอกหน้าต่าง ..
    ดวงจันทร์กลมโต กระจ่างใส ขัดแย้งกับบรรยากาศในห้องอย่างสิ้นเชิง


                   “คุณไปไหนมา!”

                   เสียงของแม่ดังขึ้นมาถึงบนห้องนอน .. พริมสะดุ้งตื่นขึ้นมา
    กลางดึกของคืนหนึ่ง พ่อ .. คงเพิ่งจะกลับมา

                   “ก็ไปกับเพื่อนงาย .. ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เรอะ” พ่อตอบเสียงอ้อแอ้ ...
    พริมนึกรู้ พ่อกำลังเมา ...

                   แล้วแม่ก็อาละวาดอีก .. เสียงดัง กราดเกรี้ยว ด่าทอพ่อไม่หยุดยั้ง ...
    พ่อโต้กลับ ไม่ยอมอ่อนให้เช่นกัน ... พริมขดตัวลงข้างประตู
    น้ำตาไหลอาบสองแก้ม คืนนั้นอากาศร้อนอบอ้าว หากในหัวใจของเด็กหญิง
    วัยสิบขวบกลับเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง เธอซุกตัวร้องไห้เงียบๆคนเดียวตรงนั้น จนผลอยหลับไป

                   เสียงทะเลาะเบาะแว้งของพ่อกับแม่ดังมาให้ได้ยินอยู่เสมอ
    เด็กหญิงมักจะขดตัวซุกอยู่มุมห้อง เมื่อแรกเธอหลับตาแน่น มือสองข้างปิดหู
    พยายามไม่ให้ได้ยินเสียงใด หากในภายหลัง พริมกลับลืมตา นิ่ง ฟัง
    จนกว่าเสียงเหล่านั้นจะเงียบหายไปเอง ... เคยมีคำถามปรากฏขึ้นในใจเธอ

                    ... พ่อกับแม่หมดรักกันแล้วหรือไร? ...


                    บ้านหลังใหญ่ แสนสวย หากไม่มีความสุขอีกต่อไป ... นานแสนนาน
    ที่ไม่มีเสียงหัวเราะของผู้ใดให้ได้ยิน ทุกคนพูด พูด ให้อีกฝ่ายยอมรับและทำตาม
    ความต้องการของตน หากมิเคยมีผู้ใดฟัง .. พริมจึงไม่พูดอีก .. เธอเติบโตขึ้น
    กลายเป็นเด็กหญิงที่เงียบขรึมเกินอายุ ฟัง ยอมรับ ปฏิบัติตาม หากไม่เคยเอ่ยปาก
    เรียกร้องถึงสิ่งที่ตนต้องการ..

                     ยามอารมณ์ดีไม่มีเรื่องขัดแย้งกัน พ่อแม่มักจะชวนเพื่อนมาสังสรรค์กันที่บ้าน ...
    เพื่อนแม่หลายคน บ่นถึงความดื้อ และซนอย่างร้ายกาจของลูก หากแม่ยิ้ม ...
    สวยจับใจ พลางดึงตัวพริมเข้าไปกอด

                     “ยายพริมเรียบร้อย ไม่เคยดื้อ ไม่เคยซนให้หนักใจเสียที”
    ภาพของครอบครัวพริมที่ทุกคนเห็น จึงสดใส งดงาม มีความสุขจนน่าอิจฉาเสมอมา ..

                     
                     “พริมอยากไปอยู่กับพ่อไหม?”

                     เสียงนุ่มๆของพ่อ ดึงให้ความคิดของพริมสะดุดลง .. กับเธอ
    พ่อมักจะพูด และยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเสมอ ..

                     แม้จะทะเลาะ โกรธ เกลียดกันมากมายเพียงใด หากพ่อกับแม่
    ก็ยังแสดงให้รู้เสมอว่ารักพริม ... ครั้งหนึ่ง เด็กหญิงเคยได้ยินเสียงผู้เป็นมารดากรีดร้อง

                     “คุณรู้ไว้เถอะ ที่ฉันทนอยู่กับคุณทุกวันนี้ ก็เพื่อยายพริม!”
                     แล้วเสียงด่าทอก็ยุติลง .. เธอรู้ พ่อก็รักเธอมากเช่นกัน..


                     พริมถูกเรียกตัวมา เพื่อถามความสมัครใจ ...
    พ่อและแม่ ย่อมอยากให้เธอมีความสุขมากที่สุด .. หาก .. พริมตัดสินใจไม่ได้
    เธอทิ้งให้แม่อยู่คนเดียวไม่ได้ เท่าๆกับที่ .. เธอไม่อยากเห็นพ่อเดินจากไปผู้เดียว
                     
                     “พริมไม่ทราบ ..”

                     เธอตอบเสียงเบา นึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรมากไปกว่านั้นหรือไม่ ..
    เด็กหญิงรู้ดี รอยร้าวระหว่างพ่อกับแม่ ลึกจนยากที่จะลบเลือนได้อีก
                     
                     แม่ยิ้มให้พริม อ่อนหวาน งดงาม .. พริมเองก็เห็นรอยยิ้มอบอุ่นของพ่อ
    ถ้าเพียงแต่ทั้งสองจะยิ้มแบบนั้นให้กันและกัน .. ทว่า สิ่งที่เธอหวัง ไม่มีวันเป็นไปได้ ...

                     “พริมยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ลูก ... เอาไว้พริมเลือกได้เมื่อไหร่
    ค่อยมาบอกแม่”

                     เสียงแม่บอกเธอนุ่มนวล .. พริมยิ้มรับ แล้วขอตัวกลับขึ้นมาบนห้อง ..
    เธอไม่อยากอยู่ ไม่อยากเห็น ‘ภาพนั้น’ ... ภาพของพ่อกับแม่ ที่ไม่ แม้แต่จะมองหน้ากัน!

                     เสียงเพลงจากเครื่องเสียงชั้นดีถูกเร่งให้ดังจนเกือบสุด ..
    เธออยากให้เสียงเพลงดังกลบความคิดต่างๆที่แล่นวนอยู่ในสมองให้หมดไป ...
    ในที่สุด เวลาที่เธอหวาดหวั่นมาตลอดก็มาถึงจนได้ วันที่เธอจะไม่มี พ่อ แม่
    อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีก

                     พริมเดินไปหยุดอยู่ริมหน้าต่าง รูดผ้าม่านหนา หนัก ให้เปิดออกกว้าง
    จนแสงจันทร์สาดส่องเข้ามาได้ มือสองข้างยึดขอบหน้าต่างแน่น ...
    เด็กหญิงแหงนหน้ามองพระจันทร์ดวงโต ยิ้มเศร้ากับตัวเอง

                     ‘ฉันทนอยู่กับคุณทุกวันนี้ ก็เพื่อยายพริม!’

                     เสียงของแม่ยังคงดังก้อง .. แม่ทนเพื่อเธอมานานเหลือเกิน ..
    หากไม่มีเธอ แม่อาจจะไม่ต้องเจ็บปวดเนิ่นนานถึงเพียงนี้ และพ่อ .. ก็คงได้ไปตามทางของพ่อเสียนานแล้ว          





             

    มีต่อค่ะ..

    จากคุณ : Moon_Light - [ 10 ก.ย. 46 10:08:32 ]