ตอน 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2447895/W2447895.html
ตอน 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448092/W2448092.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448201/W2448201.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448399/W2448399.html
ตอน 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2448697/W2448697.html
ตอน 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2449087/W2449087.html
ออมสูดลมหายใจเข้าปอดจนเต็มแล้วค่อย ๆ พ่นลมนั้นออกมาทางปากจนหมด เงยหน้าขึ้นยิ้มกับผู้มาใหม่ที่นั่งข้าง ๆ เธอเป็นหญิงสาววัยน่ารัก อายุคงจะประมาณซักสิบห้าสิบหก เธอคงมองออมอยู่นานถึงได้เขินจนหน้าแดงเมื่อออมเงยหน้าขึ้นมาสบตาตรง ๆ ออมชอบผิวสาวที่ขาวใส และเรื่อด้วยเลือดฝาด จนต้องยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะเอ่ย
พี่ชื่อออมค่ะ จะยินดีรู้จักกันหน่อยมั๊ย สาวน้อยยิ้มตอบ ดวงตาเรียวรีนั้นบอกยี่ห้อก็หมวยนี่คะ โดยไม่ต้องถาม
Hi Im misunderstand about talking and I think you ask my name, my name is MIMI
Wow Im sorry misunderstand you are Thai, So just amoment ago Im introduce my self my name is AOM nice to meet you
Nice to meet you สาวน้อยหน้าหมวยของออมไม่รู้ว่าเลือดผสมอะไรบ้าง แต่สำเนียงภาษาอังกฤษไม่ต่างจากเทปฝึกเรียนภาษาอังกฤษที่ออมเคยใช้เลยสักนิด ไหมล่ะ ชอบอยากรู้อยากเห็นดีนัก รับการตอบกลับจากสาวน้อยด้วยกิริยาและถ้อยคำที่รัวเร็วจนลิ้นพันกันแบบนี้เล่นเอาเกือบอึ้ง หล่อนบอกว่าขอโทษนะคะที่ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูดและคิดว่าคุณคงอยากรู้จัก ฉันชื่อมีมี่ค่ะ แต่..อ๊ะ..อ๊ะ..อย่าดูถูกออมนะ เอภาษาอังกฤษอยู่เหมือนกันย่ะ ถึงสำเนียงไม่ให้ก็ใจรักล่ะ เพราะออมรีบตอบไปอย่างไม่กลัวขายหน้า ไวยากงไวยากรณ์จะผิดจะถูกอีกเรื่องนึง เอาสื่อสารเข้าใจไว้ก่อนล่ะ ออมบอกเธอไปว่าเสียใจค่ะที่เข้าใจผิด นึกว่าเธอเป็นคนไทยด้วยกัน เมื่อกี้ฉันแนะนำชื่อตัวเองว่าฉันชื่อออม ยินดีที่รู้จักเธอ แม่สาวน้อยยิ้มตอบแล้วตอบว่าคือกันจ้ะ เอ๊ะไอ้คือกันนี่มันภาษาอีสานบ้านเรานี่หว่า..หล่อนตอบว่าไงนะ..อ้อ..เช่นกันจ้ะ แหม..ลืมตัวไปหน่อย นึกว่าเว้ากับสาวอีสานบ้านเฮา ทั้งที่หล่อนเป็นลูกครึ่ง
ออมยิ้มให้เพื่อนร่วมทางอีกครั้ง แล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง เสียงเครื่องจักรดังกึงกัง ๆ ไม่ขาดสาย ท้องฟ้าเหนือท้องทุ่งกว้างยามนี้งดงามนัก อยากให้เขา คนในหัวใจของเธอมาเห็นด้วย เขาเป็นคนชอบต้นไม้ เขารักสีเขียวเหลือเกิน เคยโทรไปชวนเขาเรื่องเที่ยวงานลอยกระทงที่ออมกำลังเดินทางหนนี้แล้ว เขาปฏิเสธนุ่ม ๆ ถนอมน้ำใจตามสไตล์เขาล่ะ
ไม่อยากบอกเลยว่าไปไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้าว่างจะไปด้วยดีไหม
ดีค่ะ เพราะตอนนี้ออมจัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเดินทางไปหัวลำโพง ไปรถไฟเที่ยวบ่ายสามโมงเย็นของพรุ่งนี้ ตอนนี้พึ่งจะแปดโมงเช้าคิดว่าคุณคงตัดสินใจทันนะคะ สวัสดีค่ะ กระแทกหางเสียงเข้าให้
ห๊า..เดี๋ยวอะไร จะไปไหน เขาร้องเสียงหลง
สุดขอบฟ้าอีกฝั่งหนึ่ง เฉไฉล่ะเก่งนัก
ฝั่งนั้นอยู่ไหนล่ะครับ เขาคงระอาเต็มทีแต่ก็ยังคงไม่เปลี่ยนระดับเสียง
เชียงใหม่ค่ะ
ไกลนะ จะไปยังไง จะอยู่อย่างไร เสียงเขาดุขึ้น
วาว..อย่าบอกนะคะว่านั่นกำลังเป็นห่วงเป็นใยออมอยู่ ดีใจจังค่ะ
อย่างเกเรได้ไหม
ค่ะ ออมว่าง่ายเสมอสำหรับคุณ
ออมไปพักที่ ที่ออมเคยไปพักประจำ เป็นหอพักแบบห้องแถวสองชั้น ตรงช่วงทางแยกอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ชื่อหอพักว่าอิงฟ้า เจ้าของเป็นคุณลุงกับคุณป้าใจดีมาก มีลูกห้าคน คนสุดท้องเป็นชายยังโสด พอมั๊ยคะข้อมูล
เพราะลูกชายคนสุดท้องยังโสดนี่หรือเปล่าสาเหตุที่ไปพักประจำ เสียงเขารื่นเริงขึ้น ก็รู้นะว่าถูกเย้าแต่ไม่วาย
ใช่ค่ะ ออมหัวเราะก่อน เขาหัวเราะตาม
แล้วอย่าให้ออมช็อคไปมากกว่าที่จะรับรู้ว่านอกจากคุณเป็นห่วงแล้วยังหวงออมอีกด้วยนา..พอเถอะค่ะแค่คุณใจดียอมเป็นเพื่อนในวันที่ออมไม่มีใครนี่ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ
ตกลงไปแน่..ไม่เปลี่ยนใจ เขาหยั่งเสียง
ค่ะ
งั้นโชคดี บ๊าย..บาย..
ค่ะ..ออมไปรถไฟชั้นสามนะ เที่ยวบ่ายสามโมงพรุ่งนี้
จ้ะ.. หางเสียงทอดนุ่มนวล จับใจ ออมเผลอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดอีกครั้ง ก็เหมือนเจ้าของเสียงกระซิบอยู่ข้างหูนี่นะ..หันกลับมามองสาวน้อยข้างกายอีกที เธอฟุบหลับไปกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่วางอยู่บนตักเสียแล้ว เด็กเจ้าเอย กินอิ่มก็ง่วง ก็หลับ ไม่มีทุกข์กังวลใด ๆ น่าอิจฉาจริง
เธอเปิดสมุดบันทึกในมือหาหน้าที่อ่านค้างไว้เมื่อครู่ อ่านอย่างไรก็ไม่เบื่อ อ้าว..ก็เขียนเองนี่นาจะให้น่าเบื่อได้อย่างไรล่ะ เสียงคนขายอาหารและเครื่องดื่มดังมาโหวกเหวก ออมเงยหน้าขึ้นมองอย่างสนใจเมื่อเสียงเอะอะของใครคนหนึ่งดังลั่นโบกี้
เฮ้ย! ตะโกนห่า..อะไรนักหนาวะ คนจะหลับจะนอน เธอมองเขม็งไปหาต้นเสียงมีชายอายุราวสามสิบกว่า หน้าตาดี เกลี้ยงเกลาคนหนึ่ง และคนที่นั่งข้าง ๆ เขาเป็นหญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันแต่งกายออกจะสุภาพ ทำไมพูดไม่สุภาพนะ
ขอโทษครับพี่ คนต้องทำมาหากินว่ะ คนขายของตอบด้วยมาดกวน ๆ
ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่าให้หนวกหูนักสิวะ คนหน้าหล่อพูด
จำเป็นครับ แต่ถ้าผ่านตรงนี้จะพยายามไม่ให้เสียงดังนักครับ
เออดี..งั้นอุดหนุนหน่อย ฐานะที่นอบน้อมใช้ได้
ขอบคุณครับพี่ รับอะไรดีครับนม น้ำ โค้ก เป๊ปซี่ สไปรซ์ แม่โขง กระทิงแดง ชายหน้าหล่อถามผู้หญิงคนที่อยู่ข้าง ๆ เบา ๆ ออมเลยเลิกสนใจเหตุการณ์นั้น ก็ดีไปที่ไม่มีเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นชกต่อยกัน
เธอเปิดสมุดบันทึกเพื่อจะอ่านต่อแต่ก็ไม่มีสมาธิเท่าไหร่เมื่อกลิ่นควันไฟจากไม้อะไรสักอย่างที่เคยคุ้น ลอยมาแตะจมูกจนต้องสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็ม ๆ อีกหน นานหลายปีแล้วที่เธอไม่ได้กลิ่นแบบนี้ จะว่าออมหลงระเริงกรุงก็ไม่ถูกนักเพราะเธอเป็นคนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดหากมีเหตุให้ต้องไปอยู่ทางภาคเหนือก็แค่ไม่กี่ปีก็กลับเข้ากรุงเทพฯอีก แล้วไหนจะหน้าที่การงานที่รัดตัว ไหนจะเรียนภาคค่ำเพื่อนำวุฒิการศึกษามาปรับระดับเงินเดือนให้เพียงพอต่อค่าครองชีพปัจจุบัน เหนื่อยและท้อนักยามอยู่คนเดียวแต่ก็ได้แค่ปาดน้ำตาทิ้งเงียบ ๆ
ฟ้านอกหน้าต่างกำลังวิ่งตามความเร็วของรถไฟอย่างเนือย ๆ สีของฟ้ายามนี้เป็นสีฟ้าอมเทาและเริ่มทึมทึบ เวลารัตติกาลกำลังจะเริ่มอีกครา รัตติกาลของแรมสิบสามค่ำ คืนนี้มิใช่คืนที่มืดบอดเพราะพระจันทร์กำลังจะเต็มดวงในอีกแค่ข้ามคืนถัดไปนี่เอง คนขายของบนรถไฟยังคงทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพราะได้ยินเสียงแว่วมาอีกแล้ว ไอ้เจ้าเสียงเรียกชวนเชิญให้ซื้อที่เขาหิ้วกระเตงมาในกระติกใบใหญ่ หรือบ้างก็ใส่ตระกร้าสานใบเขื่อง ออมกวาดสายตามองเพื่อนร่วมเดินทางในโบกี้เดียวกันนี้ ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายการเดินทางและเริ่มสัปหงกกันบ้างแล้วทั้งที่เวลาการเดินทางผ่านไปแค่สามชั่วโมงเศษ สองข้างทางตอนนี้มีแต่ฟ้ากับป่านาน ๆ จะมีบ้านคนสักกลุ่มหนึ่ง คงจะเป็นหมู่บ้านของชาวบ้าน ในเขตจังหวัดลพบุรีอยู่มั๊ง เพราะออมยังทันเห็นฝูงลิงกับเจดีย์เก่าแก่อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอยู่แว๊บ ๆ
การเดินทางหนนี้ออมไม่ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติข้างทางเหมือนที่ตั้งใจไว้แต่แรก เพราะความสนใจทั้งหมดพุ่งไปอยู่กับสมุดบันทึกในมือ นึกขอบคุณคนที่นำมาวางไว้ให้ ไม่น่าเชื่อว่าออมจะจำเขาไม่ได้นั่นน่ะคนของหัวใจเชียวนา เออบอกกับใครเขาจะเชื่อไหมนี่ว่าจำคนที่ตัวเองหลงรักไม่ได้ รอยยิ้มผุดที่มุมปากนิด ๆ ขยับตัวไล่ความเมื่อยขบ ดวงจันทร์คืนนี้เด่นดวงกระจ่างตากลบแสงดวงดาวไปเกือบหมด เห็นได้แต่เพียงแสงราง ๆ ของดาวบางดวงเท่านั้น เธอลุกขึ้นดึงกระจกหน้าต่างปิดเพื่อให้โบกี้เล็ก ๆ นี้อุ่นขึ้นตามเพื่อนร่วมทาง เสียดายที่ไม่มีโอกาสมองฟ้ากลางคืนได้เต็มตาอีก เพราะในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เคลื่อนที่ได้นี้เปิดไฟสว่างส่วนนอกหน้าต่างมืดกว่า แถมยังไม่มีโคมไฟส่องสว่างตามสองข้างทางเหมือนถนนในเมืองหลวง ดังนั้นกระจกใสจึงกลายเป็นกระจกเงาโดยปริยาย โลกยามนี้ของออมจึงเป็นโลกใบเล็กที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยเครื่องจักรที่ดังกึงกัง ๆ แหวกเสียงเงียบสงบของราวป่า และรอบข้างด้วยเพื่อนร่วมทางที่ไม่รู้จักสักคน อ้อ..มีคนหนึ่งที่ทักทายกันแล้วสาวน้อยมีมี่ที่หายไปจากที่นั่งตอนไหนไม่ทันได้สังเกต ที่นั่งข้าง ๆ เธอจึงว่างลง เห็นคนอื่น ๆ นั่งคุยกันบ้าง หลับบ้าง แต่เทศกาลลอยกระทงปีนี้เป็นวันจันทร์มั๊งผู้คนถึงได้บางตาเช่นนี้ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าขบวนรถไฟเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงใหม่หนนี้ผู้โดยสารไม่ล้นหลามเหมือนที่เคยเห็นในข่าว เออหรือว่าเธอขึ้นรถผิดขบวน ออมเริ่มวิตก พับสมุดในมือปิด ชั้นประหยัดนี้มีมีม้านั่งที่หันหน้าเข้าหากัน นั่งได้ม้านั่งละสองคน ที่ข้าง ๆ เธอว่าง ฝั่งตรงข้ามกันก็ว่างมองไปฝั่งตรงข้ามที่ขั้นด้วยทางเดิน ก็เห็นนั่งกันสี่คนครบ ชะเง้อมองข้างหน้าทีข้างหลังที ก็วางใจเพราะที่ว่างก็ยังมีอยู่หลายที่เหมือน ๆ กับเธอ เห็นสาวน้อยมีมี่นอนหลับคุดคู้อยู่กับเบาะแถบด้านหน้าก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ เบาะตรงข้ามเธอเป็นหญิงวัยกลางคนสองคนกำลังนั่งรับประทานข้าวเหนียวหมูย่างอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนหน้าห้องน้ำมีผู้ชายร่างใหญ่สามคนคุยกันโขมงโฉงเฉงด้วยภาษาใต้รัวและเร็วจนยากที่คนเหนือที่เติบโตมากับสำเนียงนุ่ม ๆ หวาน ๆ จะเข้าใจได้
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 46 15:08:45
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
10 ก.ย. 46 15:05:51
]