ความคิดเห็นที่ 1
(ต่อ)
ออมเห็นชื่อที่หัวกระดาษว่าสลากกินแบ่งและมุมมอง แล้วไล่สายตาไปตามข้อความต่อไป
ในหนึ่งชีวิตที่คนเราเกิดมา โชคชะตากำหนดให้แต่ละวิถีชีวิตแตกต่างกันไป จุดมุ่งหมาย หนึ่งคน หนึ่งอย่าง ล้านคนก็ล้านความคิด อาจมีความเหมือนในความต่าง นั่นก็คือความหวัง ทุกคนต่างมีความหวัง ต่างกันที่โชติช่วงบ้าง หริบหรี่บ้าง ก็แล้วแต่มุมมอง ในหนึ่งชีวิตใครบ้าง ไม่เคยระทดท้อกับชีวิต ใครบ้างไม่เคยสิ้นหวังกับเหตุการณ์ที่โหมกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับมากล่าวถึงเรื่องความคิด ในความเป็นจริงหนึ่งคนยังมีหลายความคิดและมุมมอง ยกตัวอย่าง เช่นแจกันปักด้วยดอกดาวเรืองวางตั้งอยู่บนโต๊ะ ณ วินาทีแรกที่เห็นเรายังอารมณ์ดีและสดชื่นเรา ก็ว่าสวย ดูดี มีสีสัน หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกิดความเคร่งเครียดกับหน้าที่การงาน เราก็ว่ามันวาง เกะกะ รกหู รกตา เออหนอ มนุษย์นั้นจิตแท้ยากไซร้หยั่งถึง
สลากกินแบ่งรัฐบาล ภาษาชาวบ้านเรียกว่า หวย หรือ ล็อตเตอรี่ คิดว่าทุกคน คงรู้จักกันดีแต่หากมีคำถามว่า คุณรู้จักสลากกินแบ่งรัฐบาลไหม แล้วมีใครสักคนตอบว่า ไม่รู้จัก ผู้ถามคงจะอึ้ง ก็เด็กอายุสามขวบ-สี่ขวบยังรู้จักเลย ยามนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี รายได้ก็มีน้อยดังนั้นเมื่อลูกรบเร้าอยากได้โน่นอยากได้หนักเข้า ก็..รอแม่ถูกล็อตเตอรี่ก่อนนะ ลูกเดี๋ยวซื้อให้ จะเห็นได้ว่าคนไทยปลูกฝังกันขนาดนี้แล้วถ้ามีคนไม่รู้จักสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว มันน่าอึ้งไหมล่ะ
ในแนวความคิดของผู้เขียน สลากกินแบ่งรัฐบาลมีส่วนดีมากกว่าส่วนเสีย แจกแจงกันเป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้
หนึ่งสลากกินแบ่งช่วยชาติ ไม่เคยได้ยินสักครั้งว่ากองสลากฯ ขาดทุนปีละเท่านั้น เท่านี้บาทเหมือนกรม, กอง, และหน่วยราชการของรัฐบาลและวิสาหกิจอื่น เช่น ขสมก. ก็เห็น ๆ ว่าคนใช้บริการเนืองแน่นแต่ขาดทุนได้ทั้งปีทั้งชาติ ในส่วนของกองสลากฯ เคยมีแต่ข่าวการแย่งกัน ซื้อสลากกินแบ่งฯ มาเพื่อขายต่อ จะว่าไปข่าวนี้ค่อนข้างเงียบ เงียบเพราะสื่อมวลชนไปสนใจ ข่าวอื่นๆ แทน เช่นข่าวนักร้องคนนี้ทำลูกสาวคนนั้นท้องแล้วไม่รับผิดชอบบ้าง, ข่าว ท่านเสรี ผูกขาดรายเดือนบ้าง, ข่าวฆ่ากันตาย, ข่าวหุ้นตก ข่าวคนแย่งกันซื้อสลากกินแบ่งฯ นี้จึงตกไป เท่าที่ผู้เขียนทราบมาก็คือจะมีผู้ซื้อที่รับสัมปทานอยู่ไม่กี่รายที่ซื้อได้โดยตรงจากกองสลาก จากนั้นก็นำมาจำหน่ายต่อ หลายยี่ปั๊ว ซาปั๊วนัก สลากฯ ที่ตกถึงมือผู้บริโภคจึงเป็นราคาใบละ สี่สิบห้าบาท ถ้าบริการส่งถึงประตูบ้านสนนราคาก็ประมาณห้าสิบบาท (คล้ายกับ Home deliverry ธุรกิจสมัยใหม่ที่กำลังฮิตในปัจจุบัน ซึ่งบริการส่งถึงประตูบ้านในทีนี้ก็หมายถึงพ่อค้าปลีกที่เร่ ขายสลากฯ ตามบ้านพักอาศัย จนกระทั่งเวลาจวนตัวคือถึงเวลากองสลากฯ จะออกรางวัลแล้ว ถ้าขายได้สามใบร้อยก็ไม่ขาดทุน ท่านทั้งหลายคงมองเห็นแล้วว่านี่เป็นการช่วยชาติจริง ๆ ช่วยให้เพื่อนคนไทยกลุ่มหนึ่งให้มีอาชีพ ซึ่งผลตอบแทนค่อนข้างงาม ถือว่าเป็นที่รัฐบาล กระจายรายได้นี้ไปทั่วถึงทุกภูมิภาคของประเทศ
สองสลากกินแบ่งช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ นั่นก็คือสลากกินแบ่งเป็นศูนย์รวมของความหวัง จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่จะเฮหรือจะหุบ(ยิ้ม) ในทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน ก็เหมือนการแพ้ชนะ ในเกมกีฬา หลายคนดีใจที่ถูกรางวัล แต่หลายคนก็ผิดหวังและเสียดายแต่ไม่เป็นไร ..งวดหน้าซื้อ ใหม่ เห็นไหมยังมีที่ให้หวังต่อไป เมื่อมีความหวังคนเราย่อมไม่คิดฆ่าตัวตายให้เป็นบาป (จะตาย ไปทำไม งวดหน้าลุ้นใหม่ก็ยังได้)
สามสลากกินแบ่งก่อให้เกิดอาชีพหลากหลาย ในการดำรงชีวิตมีอาชีพหลากหลาย สลากกินแบ่งช่วยให้เกิดอาชีพหลาย ๆ อย่าง เช่นบุคลากรในกองสลากฯ , ทำให้คนพิการมีงานทำ, ทำให้โรงพิมพ์มีงานเพิ่มและเป็นงานหลักที่มีรายได้แน่นอน, ชวนให้บรรดานักวิจัยทั้งตัวจริง และตัวปลอมคิดค้นวิธีการเดาเลขรางวัลที่จะออกในงวดหนึ่ง ๆ, ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น เป็นการกระจายรายได้ให้กับประเทศ,
ผลพลอยได้ก็คือสลากกินแบ่งฯ เป็นสื่อกลางในการคบมิตรหน้าใหม่ได้อยากไม่น่ากระดาก ไม่เชื่อคุณลองถามคนข้าง ๆ สิว่า คุณคิดว่างวดนี้เลขอะไรเด็ด แล้วต่อไปคุณจะคุยกันได้อีกยาว เผลอ ๆ มีการตามติดไปถึงบ้าน แล้วชักจูงให้ไปรู้จักสถานที่ ที่คิดว่า ให้เลขเด็ด โน่นเลยทีเดียว
ข้อเสีย สลากกินแบ่งมีข้อเสียแบบไม่น่าจะเสียก็คือการที่ผู้คนนำวัตถุประสงค์ ของรัฐบาลไปใช้ในทางที่ผิด จริง ๆ แล้วถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ ชาวต่างประเทศทั้งหลายต่างยอมรับความเฉลียวฉลาดและความหัวไว, สมองใส ของคนไทย แต่ถ้ามีแล้วนำไปใช้ผิด ๆ จะทำให้เกิดบรรดามิจฉาชีพนำไปสร้างรายได้ให้ตนเอง และพรรคพวกมีรายได้งาม ร่ำรวยกันเป็นล้าน ๆ บาท กล่าวคือการรับแทงหวยเถื่อน เลขบน-เลขล่าง ที่ไม่ต้องสาธยายถึงวิธีการเล่นเพราะส่วนใหญ่คงทราบกันดีอยู่แล้ว (คิดอีกทีก็ คืออย่าชี้โพรงให้กระรอก) ซึ่งตรงนี้เป็นการมองต่างมุม คือถ้ามองให้ดีก็ถือว่าช่วยสร้างรายได้ เพิ่มขึ้นให้ประชากรของประเทศ ในกรณีคนจนมีเงินไม่พอจะซื้อสลากสักเพียงครึ่งใบ (40-45 บาท) ก็เอามาแทงหวยเถื่อนแทนเผื่อจะฟลุคถูกรางวัลก็ได้เงิน ไปเลี้ยงชีพต่อไปถ้าไม่ถูกก็เพิ่มความรวย ให้เจ้ามือไป ถ้ามองให้เสียก็คือเปิดช่องว่างให้คนรวยเหยียบย่ำซ้ำเติมคนจนตรงที่ว่าคนรวย มักจะมีเงินทุนมาก ตั้งโต๊ะรับเป็นเจ้ามือหวยเถื่อน ซึ่งมันก็มีแต่กำไรและกำไรมากยิ่ง ๆ ขึ้น ทุกคราวไป ท่านลองนึกดู เลขไหนดัง-เลขไหนเด็ดเจ้าไม่รับหรือถ้ารับเวลาถูกรางวัลก็ขอ จ่ายแค่ครึ่งเดียว บ้างเจ้าก็เบี้ยวกัน เห็น ๆ ส่วนเลขมั่ว ๆ ที่ตาสีตาสาน่ะแทงมาเถอะ บวกลบ คูณหารแล้วยังไงก็คุ้ม คุ้มยิ่งกว่าชุดสุดคุ้มของไก่ทอดยี่ห้อดังที่ขายชุดละ 199 บาทเสียอีก
อย่างไรก็ตาม หนึ่งชีวิตแม้จะมากมายหลายความคิดและมุมมอง หนึ่งชีวิตนั้นจะ ยืนยงได้กี่สิบปี พระพุทธองค์สอนให้รู้จักเดินสายกลางฉะนั้นคนเราก็ควรยอมรับโชคชะตา ที่เกิดขึ้น ทุกข์บ้างสุขบ้างพยายามประคับประคองชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เมื่อประสบปัญหา แล้วลองหาทางแก้ไขไปทีละประเด็น ความหวังมิได้มีหนทางเดียว ศาสนสุภาษิตอีกบทหนึ่งมี ว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันที่ ทรงเอ่ยถึง เศรษฐกิจพอเพียง อยากให้คุณนำสองสิ่งนี้ไปตรึกตรองแล้วไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน หวังว่าคุณจะเป็นผู้หนึ่งที่รู้ซึ้งถึงรสชาดความเป็นคนและมีความสุขกับชีวิต อย่างแท้จริง
ออมละสายตาจากบรรทัดสุดท้ายของข้อความ เห็นเขานั่งหลับตาอยู่ก็เลยลองเรียกเบา ๆ
คุณพลคะ หลับแล้วหรือ
หลับแล้ว เขาพูดทั้งที่ไม่ลืมตา ออมหัวเราะกิ๊ก
ดึกแล้วนะ เรายังไม่ง่วงหรือไง
ยังค่ะ แต่ถ้าง่วงคุณพลจะอุทิศอกอุ่น ๆ ให้พิงหรือคะ ถามเสียงไม่ดังนัก เพราะเมื่อชะเง้อมองคนรอบข้างส่วนใหญ่จะหลับกันทั้งนั้น เขาไม่ตอบแต่ลืมตามามองดุ ๆ เธอยิ้มใส่ตาเขา
ไม่เป็นไรค่ะ อย่าลำบากขนาดนั้นเลย ออมชอบมองชีวิตที่เคลื่อนไหวไปพร้อม ๆ กับความเร็วของเครื่องจักรมากกว่าจะมานั่งสัปหงกในการเดินทาง มันเหมือนขาดทุนยังไงไม่รู้สิ
แล้วหนาวไหมนั่นน่ะ เห็นนั่งกอดอกมาตั้งนานแล้วนะ เอามาหรือเปล่าล่ะ เสื้อกันหนาวน่ะ หรือลืมอีกแล้วฮึ สิ อากาศเริ่มเย็นแล้ว เอาของพี่ไหม มองหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง เว้นช่องว่างให้เติมคำด้วยสิคะ แหม.. กฤชพลเลยยิ้มขำตัวเอง เอออยู่ กับสาวน้อยตรงหน้าแล้วรู้สึกหนักใจ เหมือนกำลังเลี้ยงน้องคนเล็กอายุห้า-หกขวบก็ไม่ปาน เออมีอะไรดีในเสียงใส ๆ หน้าใส ๆ ถึงได้แล่นอยากจะตามเธอมากับคำชวนที่ว่าไป เที่ยวงานลอยกระทงเชียงใหม่ แล้วใบหน้าเข้ม ๆ ก็ร้อนวูบวาบอย่างช่วยไม่ได้กับความคิด ของตัวเอง ดีแต่ว่าเธอกำลังง่วนหยิบเสื้อแจ็คเก็ตออกจากกระเป๋าเขาก็เลยรอดตัว ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ มาจากตัวเสื้อที่ถูกดึงออกมาจากกระเป๋า
คุณพลคะ บทความที่ให้อ่านเมื่อกี้ใครเขียนหรือคะ
เพื่อนพี่ ทำไมหรือ
ก็ดีค่ะ แยกแยะออกมาเป็นข้อดี-ข้อเสียให้เสร็จสรรพ รู้สึกตัวนี้เป็นบทความ ที่ส่งเข้าประกวดนะคะ เขาได้รางวัลหรือเปล่า
ไม่รู้เหมือนกัน พอดีเขาส่งมาให้อ่านเล่น ๆ ก็เห็นว่าดีเลยเก็บมาให้ออมอ่านด้วย
ขอบคุณค่ะ ที่นึกถึง
แล้วรู้ได้ไงว่าเป็นบทความประกวด
อ้าว..ก็งานนี้ออมก็ส่งเหมือนกันนี่
เหรอ แล้วได้รางวัลไหม
รับแห้วกระป๋องไปเต็ม ๆ ค่ะ เธอกล่าวยิ้ม ๆ
แล้วไม่เสียใจหรือ
ไม่ค่ะ งานประกวดมีตั้งเยอะตั้งแยะ งาน ๆ หนึ่งก็มีคนส่งเยอะอีกเหมือนกัน เราได้ เขาไม่ได้ หรือเขาได้ เราไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดามาก อีกอย่างออมไม่ได้นักล่ารางวัลนี่ ที่จะต้องตั้งความหวังมากขนาดนั้น
อ๋อ..ไม่งก ว่างั้นเถอะ
ค่ะ เอ้าจริงนะ ไม่เชื่ออีก
ยังไม่ได้บอกเลยว่าไม่เชื่อ
นัยน์ตามันฟ้องค่ะ
เก่งขนาดนั้น คราวหน้าพี่ก็ไม่ต้องพูดแล้วสิให้เราอ่านจากลูกกะตาแทน
ลูกตา แม่ของออมหรือคะ
ใช่สิ..เออแล้วกลับมานี่ไม่ไปเยี่ยมบ้านหรือ ไม่เห็นพูดถึงพ่อกับแม่เลย แล้วบ้านอยู่ส่วนไหนของเชียงใหม่ทำไมไม่คิดกลับบ้าน ไปพักที่หอพักอิงฟ้าอะไรนั่นทำไม
อ่ะ..ไม่เว้นช่องให้เติมคำอีกแล้วคุณพลนี่ หัวเราะอีกเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้สึกรื่นเริงเหลือเกินกับการได้คุยกับเขานาน ๆ โดยไม่ต้องผ่านสายโทรศัพท์แบบนี้
แล้วออมบอกคุณเมื่อไหร่ว่าบ้านออมอยู่เชียงใหม่
อ้าว..ก็... ออมหัวเราะจนน้ำตาไหล
นั่นมันในเรื่องที่ออมเขียน ไม่ใช่ตัวออม ถูกหลอกแล้วค่ะ ตายละ..อะไรจะเก่งปานนั้น
เหรอ เขาหน้าเหลอหลาจริง ๆ
พี่ไปจำมาจากไหนว่าเราเด็กเหนือ
ก็อ่านจากเรื่องที่ออมเขียนไปให้อ่านนั่นแหละค่ะ ถูกหลอกสนิท เธอหัวเราะต่อ
หัวเราะเยาะนะ.. เขาเริ่มหมั่นไส้ และออกเขิน ๆ ที่เข้าใจผิดเลย กลบเกลื่อนด้วยอาการโมโห
โอ๋..โอ๋..แค่นี้ทำงอน ยังไม่วายกลั้วเสียงหัวเราะ
แต่เอ..ออมเก่งขนาดนั้นเลยหรือคะ คุณพล เธอหยุดหัวเราะแล้วแต่ นัยน์ตายังส่องประกายล้อเลียน เด็กบ้า!
เออ เก่ง เขากระแทกเสียง
พูดจากะน้องนุ่งไม่เพราะเลยนะจ้ะ เอางี้ดีกว่าคุณพลอ่านนี่ให้หน่อยค่ะ ติดงานนี้มาด้วยจะส่งเข้าประกวดเร็ว ๆ นี้แหละ
ไม่เอ๊า..ขี้เกียจ
โธ่คุณพลน่ะ อ่านหน่อยน่า..
ไหนล่ะ ออมยิ้ม คุณพลก็งี้แหละใจอ่อนเสมอ
เดี๋ยวนะหาก่อน เธอรูดซิบกระเป๋าเป้ รื้อค้นวุ่นวาย
ใจคอจะไม่ให้พี่นอนเลยหรือไง
อีกไม่กี่นาทีก็เช้าแล้วค่ะ อย่านอนเลยอยู่เป็นเพื่อนออมก็แล้วกันเดี๋ยวพาไปเที่ยว
ไหนบอกไม่ใช่คนเชียงใหม่ แล้วเก่งขนาดจะพาไปเที่ยวเชียว
อ๋อ..แน่นอนค่ะเคยมาเรียนมัธยมที่นี่สามปี ก็ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว เธอส่ง เอกสารให้เขารับไปอย่างเสียไม่ได้
เรื่องอะไรเนี่ย นมเปรี้ยว--เหรอ
ค่ะลองอ่านดู เมื่อเห็นส่งแววตาสดใสมาช่วยลุ้นเขาเลยจำใจอ่านต่อไป
!
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
10 ก.ย. 46 16:45:54
]
|
|
|