จากป่าคอนกรีตถึงภูสูง
ดีจ้า
เขียนมาหาตามสัญญาที่ให้ไว้แล้วนะจ๊ะ
ได้รับโปสการ์ดสวย ๆ พร้อมรูปปึกใหญ่จากพี่แล้ว ยิ่งดูก็ยิ่งอยากไปเที่ยวด้วยความอิจฉา ทำไมเมืองไทยมันสวยอย่างงี้
คราวหน้าถ้าไปอีกห้ามเบี้ยวไม่ชวนกันด้วย จริง ๆ แล้วโกรธมากเลยนะ แต่ยกโทษให้เพราะรูปกะโปสการ์ดนะ (เราเห็นแก่ของฝากมากไปหรือเปล่านี่!!)
ตอนนี้
ที่นี่ฝนตกเกือบทุกวันเลย แล้วมันตกตอนไหนรู้มั้ย? มันตกตอนจะกลับบ้านนะสิ!!! บ้าที่สุดเลย
พอเย็นมา โอ้ว! มาเลยมันมาทันที... ทำเอาเปียกมะลอกมะแลกเป็นลูกหมูตกน้ำทุกวัน (ขอเป็นลูกหมูแทนนะไม่อยากเป็นลูกหมาอ่ะ) หยุด!!!อย่าาาาาเพิ่งว่ากันนะ ว่าทำไมไม่เอาร่มติดตัวไปทำงานด้วย ก็แหม
มันลำบากออก ไหนจะต้องกลับไปใช้สัญชาตญาณเดิมของบรรพบุรุษห้อยโหนรถเมล์แต่เช้า ตอนเย็นก็ยังไม่ได้นั่งอีก โอ้ย
อีกสารพัดอุปสรรค เอาเป็นว่า โมจะดูแลตัวเองดี ดี ถึงบ้านก็จะรีบอาบน้ำ เช็ดหัวให้แห้งโดยไม่ไปนั่งดูละครก่อนนะจ๊ะ ดีมั้ยเอ่ย
เออ
พี่จำพี่ทุ่นได้มั้ย? วันก่อนโมเจอ เขา
ดูเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนโมก็ว่าพี่เขาหน้าตาดีแต่อ้วนมาก ความหล่อเลยโดนบดบัง มาตอนนี้ไม่อยากบรรยาย พี่แก
หุ่นงี้ ดีมาก มาก ผอมยังกะนายแบบเลย (อย่างนี้ฉายาพี่ทุ่นก็ใช้ไม่ได้แล้วสิ แย่จัง หึหึ) ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคนเราจะเปลี่ยนไปได้ แต่อย่างว่าล่ะนะ ขนาดเรายังเปลี่ยน คนอื่นไม่เปลี่ยนก็ไม่รู้ว่าไงแล้วเนอะ?? เขามาซื้อของเลยเจอกันที่ห้างฯ ตอนแรกโมก็จำไม่ได้หรอกนะ พี่แกเข้ามาพูดว่าไงรู้มั้ย
โทษครับ น้องโมรึเปล่า แล้วก็ส่งยิ้มเก๋ ๆ พร้อมลักยิ้มที่แก้มขวามาให้
เหอะ ๆ เสร็จเรา
แต่ในใจเนี้ยะ ใครว้า ใครหว่า อยู่นะ โมเลยส่งยิ้มที่พยายามคิดว่า หวานที่สุดไปให้
อะฮ้า
ยังยิ้มมาดมารร้ายเหมือนเดิมเลย
ทำเอาโมหุบยิ้มแทบไม่ทัน ด้วยคำพูดประโยคนี้ล่ะ เลยทำให้นึกออกว่า ชายหนุ่มที่เข้ามาทักเป็นใคร เราสองคนเลยไปนั่งรำลึกความหลังคุยกันอยู่จนห้างเกือบปิด (ดีนะที่อยู่ใกล้บ้าน) ตอนกลับพี่ชาติก็มาส่งที่บ้าน ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ...กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
พรุ่งนี้โมต้องไปทำงานแต่เช้า (ทำงานอีกแล้ว) เอาไว้โมจะเขียนไปหาใหม่นะจ๊ะ วันนี้ขอให้โมหลับฝันดี...รวมถึงพี่ด้วย...
คิดถึง...
นโม
+++++++++++++++++++
จากป่าคอนกรีตถึงภูสูง
ดีจ้า...
อาทิตย์นี้แย่จัง งานยุ่งไปหมด งบก็ยังปิดไม่เสร็จ อือ...อือ...อยากลาออก แต่พี่ต้องว่าโมว่า ไม่เอาไหนแน่ ๆ เลย (ถ้าอยู่ใกล้ ๆ พี่ก็ต้องเอามือมายีหัวยุ่ง ๆ ของโมเป็นท่าประกอบแน่ ๆ) โมเลยจะสู้และพยายามต่อไป!! (ขอแอบเช็ดน้ำตาหน่อยนะ) โมได้รับจดหมายตอบจากพี่แล้ว อะไรกัน! น่าน้อยใจชะมัด เขียนมาแค่นั้นง่ะ...สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง (ใครห่วงกันย่ะ) จะรีบทำงานและรีบกลับ คิดถึงเหมือนกันจ๊ะ
ถ้าไม่ตอบก็ไม่มีใครว่าอะไรอ่ะนะ
เข้าใจ เข้าใจ
ส่วนฟิลม์ที่ส่งมาก็เอาไปให้พี่จ๋าแล้วนะจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วง พูดถึงพี่จ๋า (พี่ต้องคิดแน่ ๆ เลยว่า อ่านจดหมายโมทีไรต้องมีเรื่องคนอื่นทุกที เหอะ เหอะ อ่านไปเหอะนะ) พี่จ๋าเลิกกับแฟนเขาแล้วนะ อย่างว่าเนอะ ความรักมักไม่ได้จบแบบแฮปปี้เสมอไป เรารู้จุดเริ่มต้นของความรัก แต่บทสุดท้าย
เรากลับไม่รู้จะว่ามันจะจบแบบไหน เสาร์นั้นโมเลยคุยอยู่กับพี่จ๋าจนเย็น
ความรัก
เราจะไปคาดหวังอะไรกับมันไม่ได้ พี่จ๋าทำหน้าระรื่นแต่ตางี้เศร้าจัง
เวลารักใครก็รักนะ แต่เผื่อความรักไว้ให้ตัวเองบ้าง ยามผิดหวังเราจะยืนอยู่ได้เพียงลำพัง พี่จ๋าพูดทิ้งท้ายก่อนโมจะกลับ
พี่จำคนอื่นเขามาพูดไม่ได้คิดเองหรอก รอยยิ้มที่ส่งมาดูไม่สดใสเท่าไหร่แต่มันมีความจริงอยู่ในนั้น
วันนั้นโมเลยนอนหลับไม่สนิท มันเหมือนกับมีความรู้สึกบางอย่างอัดแน่นอยู่ภายใน นอนถามตัวเอง
ว่าตัวเราเอง เป็นคนคาดหวังอะไรอย่างพี่จ๋าพูดหรือเปล่า
โมเจอพี่ทุ่นอีกแล้วนะ แต่คราวนี้เป็นที่สวนจตุจักร ดอกแก้วต้นเล็กริมรั้วหน้าบ้านมันตายแล้วล่ะ เพราะมีเด็กในซอยขับรถมาชนมัน โมงี้เสียดายแทบขาดใจ เพราะต้นนั้นเป็นต้นที่อานะเอามาปลูกไว้ก่อนแกเสีย เจ้าดอกแก้วกลิ่นหอมเลยตายตามคนที่ปลูกมันไปด้วยเลย อือ
โมกับพี่จ๋ากำลังเดินเลือกกิ่งต้นแก้วอยู่ พี่ทุ่นโผล่มาจากไหนไม่รู้ อยู่ ๆ ก็เข้ามาทัก
หวัดดีโม พี่แกทำเสียงหล่อมาก เหมือนพระเอกในหนังที่เราไปดูด้วยกันคราวที่แล้วเลย
โมหันไปเห็นแกยืนยิ้มแฉ่ง พร้อมลักยิ้มบาดใจสาวอยู่ข้าง ๆ ดีค่ะพี่ทุ่น ยังไง๊ ยังไงโมก็ยังติดเรียกพี่ชาติว่าพี่ทุ่นทุกทีเลย มาซื้ออะไรอ่ะ ถุงใหญ่จัง ว่าแล้วโมเลยถือวิสาสะชะเง้อมองของที่อยู่ในถุง มันเป็นต้นอะไรไม่รู้ต้นเล็ก ๆ ก้านยาว มีดอกเล็ก ๆ สีม่วงกระจุ๋มกระจิ๋ม ยาวตามช่อสลับกับใบเล็ก ๆ สีเขียว คล้าย ๆ ต้น FORGET ME NOT
เรด้า เสียงพี่จ๋าตอบ
อารายอ่ะ เรด้า เพิ่งเคยได้ยินชื่อ ทำเอาโมงง
อยากรู้แล้วสิว่าจะเป็นยังไงต่อไป เอาไว้บับหน้า โมจะเขียนไปเล่าให้ฟังต่อแล้วกันนะจ๊ะ ฝนตก
เริ่มเย็น ห่มผ้าหนา ๆ นะจะได้อุ่น
คิดถึง
นโม
+++++++++++++++++++++++
จากป่าคอนกรีตถึงภูสูง
ดีจ้า
บอกพี่จ๋าแล้วนะจ๊ะว่าพี่ฝากความคิดถึงมาให้ พร้อมกำลังใจเล็ก ๆ (ที่พี่เขียนมาบอกให้พูด) ทำเอาพี่จ๋าอึ้งไปพักใหญ่ ตามด้วยคำบ่น
โหย
คิดถึงไอ้โอมมันจัง ถ้ามันอยู่นะ พี่จะเมากะมันยันรุ่งเลย แล้วพี่จ๋าก็หัวเราะ ไม่รู้อารมณ์ดีมาจากไหน
วันนี้วันศุกร์ โมเลยแวะเข้ามาหาพี่จ๋า โต๊ะพี่ก็ยังเหมือนเดิม รกไปด้วยกระดาษ
กระดาษ ซึ่งพี่จ๋ากะพี่เอเอาไปฝากวางไว้ กว่าพี่จะกลับมาโต๊ะตัวนั้นคงกลายเป็นกองกระดาษไปแล้ว ส่วนพี่ ๆ คนอื่น ๆ ก็สบายดีค่ะ บางคนเจอโมที่หน้าออฟฟิศ ถามถึงพี่ใหญ่ ว่าง ๆ ก็ส่งข่าวกลับมาออฟฟิศบ้างนะเจ้าคะ
แต่ที่แปลกไป มันเป็นดอกสีม่วง ๆ ริมหน้าต่าง หลังโต๊ะพี่จ๋าต่างหาก
เรด้า เสียงพี่จ๋าตอบ เมื่อเห็นโมจ้องมองดอกสีม่วง ๆ อยู่
เหมือนกับต้นที่พี่ทุ่นซื้อวันก่อนป่ะ
ไม่เหมือนหรอก ต้นเดียวกันต่างหาก
หา!!! โมคงอุทานดังมากเลยนะในตอนนั้น
ดีนะที่ไม่มีคนอยู่ในออฟฟิศแล้ว
พี่จ๋ายิ้มให้ ไม่เล่าไม่บอกอะไร ทั้ง ๆ ที่โมอยากรู้ใจแทบขาด (ถ้าพี่อยู่ด้วยพี่ก็คงว่า อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านอีกแล้วสิเรา แน่ ๆ เลย) เอ
วันนั้นโมก็แนะนำให้รู้จักกับเฉย ๆ และพี่ทุ่นก็แยกไป ไม่ยักรู้ว่าพี่จ๋าจะไปเจอกะพี่ทุ่นอีกรอบ (โมขอตัวกลับก่อน พี่จ๋าเลยขอเดินต่อ)
ก่อนที่โมจะมานั่งบรรเลงน้ำหมึกถึงพี่ ตู่เพื่อนโมที่ตัวคล้ำ ๆ (ว่าแต่เขา ตัวโมเองก็ดำไม่น้อยไปกว่ากันเท่าไหร่เลยเนอะ เหอะ เหอะ) มันโทรมาหลังจากที่เงียบหายไปพักใหญ่ พร้อมข่าวดีในตอนปลายปีที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือน
ฉันไม่ขออะไรแกมากหรอก แต่ฉันยังไม่มีตู้เย็นเลย
เล่นเอาของใหญ่เลยเหรอแก โมถามมันกลับไปเสียงละห้อย ๆ หน่อย
ล้อเล่นย่ะ เสียงหัวเราะอย่างชอบใจดังกลับมา ฟังแล้วเลยมีความสุขกับเพื่อนไปด้วย
ดีจัง
ในที่สุดโมก็จะได้ไปงานแต่งเพื่อนตัวเองซะที หลังจากไปงานเพื่อนพี่มาหลายงานแล้ว อีกสองอาทิตย์กว่าพี่จะกลับมา
นานจัง อย่างนี้พี่จะกลับมาทันงานวันเกิดโมรึเปล่าน้า
คิดถึง
นโม
+++++++++++++++++++++
จากคุณ :
พิจิกา...ปลายฝนต้นหนาว
- [
11 ก.ย. 46 10:57:55
A:203.170.155.154 X:
]