ผึ้ง ภาคหนึ่ง (๓)

    ร่ำลา

    ฉากแรก(และแค่เพียงฉากเดียว)ที่เราถ่ายทำคือฉากที่สี่

    สถานที่ถ่ายทำคือเนินเขาแถวบ้านปู่ย่าของผม

    ผมในบทของพ่อตอนอายุสิบสี่ ต้องเดินลงจากเขาไปให้พ้นกล้อง แบกกิ่งไม้ที่มีห่อผ้าแขวนอยู่ไว้ที่บ่า ผิวปากทำนองเพลงเศร้า ๆ แล้วย้อนหันกลับมาจ้องมองเลยกล้องออกไปที่บ้าน ผมกำลังออกเดินทางจากไปพร้อมทั้งโบกไม้โบกมือร่ำลา

    ครั้งแรกล้มเหลวเพราะผมไม่ได้โบกมือให้อารมณ์พอ

    พ่อว่ามือผมคล้ายกับปีกไก่ชักตุก

    ครั้งที่สองถูกขัดจังหวะเมื่อพ่อตัดสินใจถ่ายขยายผึ้งตัวหนึ่งร่อนลงมาบนดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ

    คุณป้าคุณอาผมสองคนโผล่มาในครั้งที่สาม

    ทันทีที่พ่อย้ายกล้องถ่ายจากอาการร่ำลาที่กินใจของผมไปที่บ้าน ทั้งสองคนยืน ยิ้มกริ่ม ตัวแข็งทื่อไม่กระดุกกระดิกใกล้เลนซ์ชั่วขณะแล้วโบกไม้โบกมือให้กล้อง

    แต่ละครั้งผมต้องเดินกลับขึ้นภูเขาที่ตำแหน่งเริ่มต้น

    ขาผมปวด ผมทั้งหิวข้าวหิวน้ำ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะนึกถามถึงปัญญาในความเป็นผู้นำของพ่อ

    ทำไมท่าน/ผมไม่ขึ้นรถโดยสาร?

    ท่าน/ผมจำต้องมีข้าวของมากมายเกินบรรจุในห่อหรือ

    ท่าน/ผมไม่ต้องกินข้าวกินปลาระหว่างทางหรือ?

    ระหว่างครั้งที่สี่ กล้องก็ฟิลม์หมด

    ครั้งที่ห้าเกือบสมบูรณ์ ผมเดินจากบ้านไป ไหล่ล้าด้วยความเศร้าโศก ห่อผ้าแกว่งห้อยจากไม้คดงอ ตีหลังอย่างรุนแรง  ผมหันกลับไปมองบ้านหลังที่ผมจะจากไปตลอดกาล บ้านนั้นสีขาวหลังคาแดง มีตะวันตกดินอยู่เบื้องหลัง น้ำตาเอ่อท้นดวงตาผมขณะโบกมือร่ำลาอดีตแสนรัก มือผมราวกับลูกตุ้มเพ็นดูลัมนับจังหวะให้สัตว์ร้ายแห่งจังหวะเพลงเนิบนาบสุดแสนรันทด

    แล้วผมก็ได้ยินเสียงผึ้ง

    มันร้องดังหึ่วอยู่หลังคอผม มือที่คล้ายประหนึ่งดังลูกตุ้มของผมเปลี่ยนจังหวะไปเป็นเพลงเร็วจี๋ขณะปัดป่ายกวัดไกวแถวศีรษะ เพื่อป้องกันตัวเอง

    ผึ้งนั้นไล่ไม่ยอมไป

    ผมทิ้งไม้แล้ววิ่งอย่างเสียสติ

    ครั้งแรกขึ้นเขาตรงไปหากล้อง แล้วลงเขา ล้มก้นกระแทก

    ผึ้งติดตามผมไม่ลดละและผมก็สบดสยองกับความตั้งใจจริงของมัน

    เมื่อนึกถึงเหล็กไนที่ไม่อาจหลบเลี่ยงพ้น

    ผมกู่ร้องเหวี่ยงไม้เหวี่ยงมือไปในอากาศ พุ่งพรวดโจนไปข้างหน้าด้วยอัตราเร็วจนน่ากลัวคอหักตาย

    แต่ผึ้งมันยังไม่ลดละ

    ยิ่งวิ่ง ผมก็ยิ่งไปไกลเกินกว่าที่ใครจะช่วยได้

    ครั้นแล้วผมก็เฉลียวใจว่าผึ้งนั้นแท้จริงมันติดผมผมอยู่

    นั่นหมายความว่าความพยายามของผมนั้นไร้ค่า

    ผมสะดุดและล้มขมำ

    ผมรู้สึกถึงเหล็กไนตอนที่ล้มลงม้วนกลิ้งลงไปที่ตีนเขา ที่มีพงหนาหยุดผมไว้

    ต้องบอกไหมล่ะครับว่าพ่อไม่ได้หยุดถ่ายเลย?

    นั่นแหละผมที่ในนจอกำลังตีไม้ตีมือราวกับพยายามปลด เจ้าอิคารัสไร้เดียงสาร่วงหล่นจากท้องฟ้าแสนไกล ขณะที่ฝูงโคดูอย่างไม่แยแส ประหนึ่งจะบอกว่าพระเจ้ากับสัตว์โลกไร้เดียงสาไม่ให้สนใจคนบินร่วงตกลลงมา

    แล้วผมก็ตีลังกาไปปะทะกับพงหนาม และด้วยจิตใจเย็นชาแบบผู้อำนวยการสร้างพ่อค่อย ๆ ให้ผมเลือนหายไป




    โดย เดือนกันยา-SeptemberMoon  [27 ส.ค. 2546 , 19:15:43 น.]  

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 46 22:33:45

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 46 22:00:59

    แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 46 21:42:54

    จากคุณ : เดือนกันยา-SeptemberMoon - [ 11 ก.ย. 46 21:39:06 ]