หัวใจสั่งให้มา ++ ตอนที่ 3 ++ (เรื่องสั้น 9 ตอน จบ)

    ตอน 1  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2452707/W2452707.html#4

    ตอน 2  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2453204/W2453204.html

             แม้จะถึงเดือนมีนาคมแล้วก็ตาม ยามเช้าของวันนี้สายหมอกก็โรยตัวปกคลุมทั่วพื้นที่ของภาคเหนือ หนาตาจนทำให้มองเห็นสิ่งที่อยู่ไกลออกไปไม่กี่เมตรกลายเป็นเงาตะคุ่ม ๆ  ในเขตอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับตัวเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ มีหมู่บ้านเล็ก ๆ ลึกเข้าไปในซอยตรงข้ามที่ว่าการอำเภอนั่นเอง มีบ้านเดี่ยวสองชั้นที่ฝังตัวอยู่ท่ามกลางสวนครัวนานาชนิดรอบบ้าน มีบางคนกำลังวุ่นวายกับตัวเองแถมพาคนอื่น ๆ ในบ้านวุ่นวายตามไปด้วย คุณแม่มองลูกสาวตัวเองวิ่งหยิบโน่นหยิบนี่เองอย่างระอา หนักเข้าก็ทนไม่ได้

    “ให้คุณแม่ช่วยอะไรได้บ้างคะ คุณลูก”

    “ไม่ค่ะแม่..หนูเสร็จแล้ว”       ปากพูดโดยตาไม่มองตอบเพราะกำลังรีบสวมถุงเท้าอยู่

    “แล้วนั่นแตงจะไปเลยหรือ ยังไม่ได้ทานข้าวเลยลูก”  

    “ไม่ทันแล้วค่ะ..แม่ขา..”        พูดพลางก้าวโหย่งๆ ไปหยิบรองเท้าที่ชั้นวาง

    “อะไรกันนักหนา...ฮึเรา”        นพพรบิดาของเธอเดินเข้ามาหา ขยี้ศรีษะบุตรสาวเบา ๆ

    “พ่อมาก็ดีแล้วค่ะ ไปส่งแตงด้วยนะคะ”       เธอกอดแขนอย่างประจบ และหยุดมองหน้าบิดาทำตาละห้อย

    “อ๊าว..ทำไมต้องเดือดร้อนพ่อด้วยวะ”

    “พ่อขา.. อย่าแกล้งแตงสิคะ ไปเถอะ”       เธอฉุดกระชากลากแขนบิดาไปทางโรงรถ

    “แตงไปไม่ทันจริง ๆ นะ..พ่อนะ“       ทำเสียงหวานอ้อยสร้อย

    “ตื่นสายอีกล่ะสิ”      ผู้เป็นพ่อบ่นพึมพำเบาๆ  แต่ก็เดินตามลูกสาวสุดที่รักอย่างเลี่ยงไม่ได้ อีกอย่างเขามักถูกหางเลขประจำจนชินแล้วกระมัง นี่ดีว่าเขาทำงานในสวนของตัวเองเข้าไปดูงานในสวนช้าหน่อยก็ไม่เป็นปัญญหา หัวหน้าคนงานก็คุมงานแทนไป ไม่งั้นคงทำที่ไหนได้ไม่นานเพราะถูกไล่ออก สาเหตุเพราะไปทำงานสาย พอเขาสตาร์ทเครื่อง ลูกสาวก็รีบขึ้นซ้อนท้ายเร่งให้เขาบึ่งมอเตอร์ไซด์ให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด แตงก็ยังไม่โชคร้ายเกินไปนักเพราะบ้านกับโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอห่างกันไม่ถึงครึ่งกิโลเมตรเท่านั้นเอง รถราก็ไม่ได้ติดอะไรมากมาย

    “ถ้าไปสายนะ แตงจะบอกอาจารย์ว่าพ่อมาส่งช้า”


    “ไหงเป็นงั้นฮึ เจ้าแตงกวาเล็ก”

    “กลิ้งไว้ก่อนพ่อสอนไว้”

    “สอนเมื่อไหร่”

    “ก็เมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาไงคะ”

    “เออ..กระล่อนนักคอยดูเถอะตายไปแล้วจะตกนรก เป็นเด็กเป็นเล็กชอบพูดโกหก”

    “แตงไม่ได้โกหกซะหน่อย เพียงแต่พูดไม่หมดเท่านั้นเอง”       ด้วยความขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืดเขาจึงนิ่งเงียบเสียเจ้าตัวก่อกวนสะกิดยิก ๆ

    “พ่อจ๋า โกรธแตงเหรอจ้ะ”

    “เปล่านี่”        ถึงเขาจะตอบสั้น ๆ  แต่น้ำเสียงก็ไม่ห้วน

    “แตงขอโทษค่ะ เดี๋ยวเย็นแตงจะกลับไปช่วยพ่อถอนหญ้าแปลงดอกไม้นะ ..นะพ่อนะ”

    “อือ”      เขารับคำสั้นๆ อีกครั้ง  ‘แตงน่ะรู้ว่าพ่อใจอ่อน อ้อนนิดอ้อนหน่อยมีอะไรก็ถวายให้หมด’   เขาคิดถึงประโยคเหน็บแนมของศรีภรรยาแล้วหัวเราะหึๆ ชะลอรถก่อนจะจอดสนิทเมื่อถึงหน้าโรงเรียน

    “ขอบคุณค่ะ”      แตงกวายกมือไหว้ผู้เป็นพ่อแล้ว แต่ก็ยังยืนรี ๆ รอ ๆ

    “อ้ะ..เป็นอะไร”  

    “แหะ..แหะ..ลืมขอตังค์แม่”

    “วะ..มาส่งแล้วต้องเสียเงินอีกหรือนี่”

    “โธ่พ่อ ยี่ฉิบอ่ะ..ตัดใจแล้วนะคะ จะประหยัดให้สุด ๆ เลย”       พ่อหยิบธนบัตรใบละร้อยส่งให้หนึ่งใบอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะในกระเป๋าไม่ได้มีแบงค์ที่เจ้าตัวดีขอมา

    “ขอบคุณค่ะ..”      แตงยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วเปิดกระเป๋านักเรียนด้านหน้าควานหาอะไรกุกกักอยู่พักหนึ่งแล้วจับมือผู้เป็นพ่อขึ้นมาวางเหรียญบาทอันเล็ก ๆ ลงไปบนมือหนา ใหญ่ นพพรมอง งง ๆ

    “อะไรอีกล่ะ”

    “ค่าโดยสารค่ะ”      พูดจบเจ้าตัวก็หันหลังวิ่งตื๋อเข้าโรงเรียน

    “แม่เจ้าโว้ยเดี๋ยวนี้ลูกสาวคนเล็กมันร้ายขนาดนี้เชียว มันเห็นพ่อเป็นมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปแล้วหรือเนี่ย”       เขาหัวเราะมองตามร่างเล็กที่หันมาโบกมือหยอย ๆ ไม่ยอมมองทางน่ากลัวจะไปสะดุดอะไรเข้า   จะตะโกนบอกก็เกรงใจอาจารย์ที่ยืนตรวจการอยู่ประตูอยู่หน้าโรงเรียน เห็นรอยยิ้มที่มีให้เริ่มหุบลงทุกที เพราะเขามาจอดนานพอสมควรแล้วมีรถรอเลี้ยวอยู่หลายคันเขาเลยค้อมศรีษะให้ก่อนจะรีบบึ่งไปจากตรงนั้นทันที

    จากคุณ : สีน้ำฟ้า - [ 13 ก.ย. 46 16:19:01 ]