เรื่องไร้สาระ

    ก่อนที่จะรู้ตัวเราก็ถูกโยนลงมายังโลกบ้าๆ นี้ ที่ซึ่งไม่ให้ทางเลือกอะไรแก่เรามากนัก
    ไม่ใช่! มนุษย์เราเกิดมาพร้อมด้วยอิสรภาพ และเสรีภาพ แม้เราไม่อาจกำหนดใคร แต่ใครก็มากำหนดเราไม่ได้เช่นกัน

    แล้วอิสรภาพนั้นเป็นของจริงหรือเปล่า...
    ด้วยสมอง สองแขน และแรงใจ เราสามารถไขว่คว้าอะไร...

    @ @ @

    "อ้าวจะไปแล้วหรือ"
    ชายทัก เมื่อชนลุกขึ้น
    "อือ เดี๋ยวขอตัวกลับหอก่อน"
    ชนยกจานข้าวตัวเองไปวางไว้บนชั้น แล้วเดินจากไป
    ทิ้งเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะไว้เบื้องหลังโดยไม่มีการเหลียวกลับมา

    อาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว แต่ในโรงอาหารก็ยังสว่าง และจอแจไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา
    ชนเกลียดบรรยากาศเช่นนี้ เขาไม่รู้จักที่จะปรับตัว ต่างจากชายเพื่อนของเขา ซึ่งสามารถสนทนากับใครๆ ถึงเรื่องอะไรก็ได้ที่คนๆ นั้นสนใจ
    เช่นถ้าใครสนใจเรื่องรถ แม้ชายไม่รู้มาก่อนก็จะตั้งใจฟัง และคอยซักถาม ซึ่งทำให้อีกฝ่ายรู้สึกพอใจ และพูดคุยกับชายอย่างสนุกสนาน

    ด้วยนิสัยเช่นว่า ทำให้ชายเป็นคนกว้างขวาง และรอบรู้ในหลายๆ เรื่อง ความจริงก็เพราะนิสัยใจคอที่กว้างขวางของชายนี่แหละ ที่ทำให้เขาคบกับชนได้

    ชนเดินไปบนทางที่ทอดยาว สองข้างทางมีแสงสลัวของเสาไฟ แต่ผู้คนก็เดินขวักไขว่อยู่บนฟุตบาท บ้างมาเป็นคู่ บ้างมาเป็นกลุ่ม
    บทสนทนาแว่วผ่านหู ชนได้ยินใครๆ พูดถึงดารา บ้างพูดคุยกันถึงเสื้อผ้า และเพลงฮิตติดหูต่างๆ
    เขาสงสัย พวกคนที่นั่งกินข้าวกับเขาเมื่อกี้นี้ก็เช่นกัน พูดคุยกันสนุกสนานราวกับรู้จักกันมานาน
    เรื่องราวส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือ ดารา หนัง หรือดนตรี คุยกันเหมือนเข้าอกเข้าใจกันดี ถูกคอเข้าใจกัน
    ไม่ว่าคนกลุ่มไหนๆ ก็เป็นเช่นนี้ เหมือนมีแบบแปลนที่สร้างพวกเขาขึ้นมา

    ชนไม่ได้ใส่ใจที่ตนไม่เข้าพวก เพียงแต่เขาสงสัยในความสัมพันธ์นั้นๆ ว่าเอาเข้าจริงคนที่ยังไม่ได้รู้เห็นนิสัยใจคอกัน ไม่เคยผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน
    จะรู้สึกสนิทสนมกันได้ถึงเพียงนี้หรือ
    เขาไม่ได้รู้สึกขัดใจอะไร อันที่จริงเขาเองก็พอรู้เรื่องที่คนเหล่านั้นพูดอยู่เหมือนกัน เพียงแต่เขาเองคงคุยอย่างสนิทสนมขนาดนั้นกับคนเพิ่งรู้จักไม่ได้ และความเป็นตัวเขาซึ่งไม่เหมาะกับบรรยากาศตรงนั้น ทำให้เขารู้สึกอึดอัด

    เขาขึ้นหอ เปิดห้องเข้าไปพบความมืดที่ว่างเปล่า ชายและรูมเมตอีกสองคนยังไม่มีใครกลับมา
    เขานั่งลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ เปิดโคมไฟตั้งโต๊ะ ซึ่งส่องแสงลงมายังจดหมายฉบับหนึ่ง
    มันเป็นจดหมายฉบับล่าสุดของตาล และคงเป็นจดหมายฉบับสุดท้ายด้วย

    ตาลคบกับชนตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ปักษ์ใต้บ้านเกิด ก่อนที่ชนจะเข้ามาแสวงหาความก้าวโดยสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ
    เวลาผ่านไปไม่ถึงปีตาลก็พบรักกับไอ้หนุ่มคนงานสวนยางซึ่งพ่อของตาลเป็นเจ้าของ ตาลเขียนเล่าถึงความรู้สึกของตนอย่างมีความสุข
    เหมือนที่ผ่านมาเขาทั้งสองไม่เคยคบกัน ชนไม่เข้าใจ แล้วที่ผ่านมา คำว่ารัก คำมั่นสัญญาที่ว่าจะรอนี่มันอะไร ทำไมอะไรๆ ถึงเปลี่ยนไปได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้

    ข้างจดหมายที่ตั้งเด่นอยู่กลางโต๊ะ คือกองพะเนินของจดหมายซึ่งตาลส่งมาให้เขาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ฉบับก่อนหน้านั้นตาลยังให้กำลังใจ และบอกว่าจะรออยู่เลย

    ชนไม่ได้นั่งลง เพียงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น นานเท่าไรก็ไม่รู้ เขาไม่ได้แค้นเคืองอะไรตาล ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนดี
    เพียงแต่ความผิดหวังมันทำให้เขาเจ็บและเหนื่อยล้าเกินกว่าจะมีรู้สึกอะไรมากไปกว่านี้

    เวลานี้เขาไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียว กระนั้นเขาก็ขอตัวออกมา เพราะไม่ชอบความอึกทึก
    บัดนี้สภาพแวดล้อมไม่อำนวยให้เขามีทางเลือกมากนัก ในที่สุดเขาจึงเลือกอยู่คนเดียว

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่... ไม่ใช่ของชน เพราะเขาไม่มีมือถือ เขาเดินตามเสียงไปคว้ามือถือนั้นขึ้นดับรำคาญ

    "ฮัลโหล ชายหรือ"
    เสียงหญิงสาวสั่นเครือ
    "เปล่า นี่ชน"
    ชนว่า โดยไม่ต้องคิด เขารู้ว่าเธอคือนกแฟนชายนั่นเอง เขารู้เรื่องของทั้งสองดี
    "ชายอยู่โรงอาหาร จะคุยหรือเปล่า เดี๋ยวไปตามให้"
    ชนถอนหายใจเซ็งๆ นี่ทำไมชายถึงทิ้งมือถือไว้ที่ห้องนะ
    "ไม่ต้อง! นี่ชนออกมาหานกได้ไหม ตอนนี้นกอยู่หน้าร้านเกรียงนะ"
    นกว่า เกรียงคือร้านเหล้าหน้าแคมปัสของมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าขี่จักรยานไปคงใช้เวลาห้านาที
    "ทำไม! มีอะไร!"
    ชนว่า รู้สึกแปลกใจ
    "ยังไม่ถามได้ไหม ออกมาเถอะ นะ นะ"
    นกขอ
    ชนเองไม่ใช่คนใจแข็งผิดกับบุคลิกภายนอก ผนวกกับตอนนี้กำลังสับสนเรื่องตัวเองอยู่
    เขาไม่คิดมาก ยอมออกไปหานกโดยดี

    @ @ @

    เช้าวันต่อหลังจบคาบแรก ชนก็ออกมาจากห้องเรียน วันนี้เขาเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เพราะในหัวกำลังคิดถึงเรื่องนกเมื่อคืน
    นกไม่ได้เล่าปัญหาอะไรให้ฟังเลย เพียงแต่กินเหล้า นั่งชิดเขา โอบไหล่เขา ซุกหน้าลงที่ตักเขา ซึ่งเขาพยายามจะปฏิเสธ แต่ก็ไม่กล้ารุนแรงกับผู้หญิง

    "!!"
    ทันใดก็บางสิ่งผลักเขาอย่างแรงจนแทบล้มคะมำ หากไม่ได้ร่างที่เล็กแต่ล่ำ และท่อนขาอันกำยำค้ำไว้
    เขาหันกลับไปทันที

    "ชาย!"
    ชนว่า

    "เมื่อคืนมึมทำอะไรวะ"
    ชายว่า น้ำเสียงเคียดขึ้ง จนชนสั่นสะท้านทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร

    "อะ..อะไร"
    ถ้อยคำล่วงออกมาจากลำคอชนอย่างยากเย็น

    "ไอ้สัตว์ มึมอย่าคิดนะว่าเมื่อคืนกุไม่รู้ ว่ามึมทำอะไรกับแฟนกุ นี่:-)ไม่เห็นกุเป็นเพื่อนแล้วใช่ไหม"
    ชายกระแทกเสียง ใจชนยิ่งฝ่อลงไปอีก

    "อะ..อะไร กุไปทำอะไร..."
    ชนพยายามจะปราม แต่กลับยิ่งเหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟ

    "อะฮ่า คิดว่ากุไม่รู้ล่ะสิ คิดว่ากุโง่นักใช่ไหม หา!"
    ชายกระชากคอเสื้อชน ทั้งถ้อยคำสบถ ลมปาก และน้ำลายล้วนกระเด็นเข้าหน้าเขา

    ด้วยอารามป้องกันตัว ชนยื่นมือจะผลักชายออก ก็พอดีมือกระแทกเขาสันคางชายกระทบกันเกิดเสียงดัง

    วูบนั้นชายสวนหมัดซัดเข้าเต็มหน้า ชนกระเด็นไปหัวฟาดพื้นทั้งชาและมึนจนจำไม่ได้ว่าตอนที่กระแทกนั้นรู้สึกเจ็บขนาดไหน

    ชนไม่ใช่คนชอบความรุนแรง แต่ก็สู้คน รีบลุกขึ้นทันทีทั้งที่มึนและงง ก็พอดีชายโถมเข้าใส่จนทั้งคู่ล้มคะมำไม่เป็นท่า
    ชายลุกขึ้นก่อนที่จะเหวี่ยงหมัดอัดชนซึ่งนอนอยู่กับพื้น มั่วไปกระแทกศีรษะบ้าง ลำตัวบ้าง พื้นบ้าง กว่าจะหยุดได้ก็นั่นแหละ ได้ยินเสียงชนสะอื้นไห้ นอนกุมขมับอยู่

    ชายชะงัก ลุกขึ้นยืนนิ่ง โทสะจริตดับลงทันใด ในหัวที่ว่างเปล่าของพยายามทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า

    ชนไม่ได้ร้องไห้เพราะเจ็บ แต่จู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ที่เขาไม่เข้าใจเกิดขึ้นพร้อมๆ กันหลายเรื่อง ความผิดหวัง ความชอกช้ำที่อัดอั้นไม่ได้ระบายมาทั้งหมดนั้น ก็ไม่อาจสะกัดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป

    ตอนนี้เขาไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรอีกแล้ว

    ชายยืนนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่ามีคนมุงอยู่มากมาย เขากำหมัดแน่น เกิดนึกอยากชกหน้าทุกๆ คนที่อยู่รอบๆ เขา แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้ทำอะไร วิ่งหนีไปจากฝูงชน

    "นี่ๆ เขามีอะไรกันหรือ"
    นกสะกิด คนข้างๆ ที่ยืนมุงอยู่
    "ไม่รู้สิ จู่ๆ ก็มีคนต่อยกัน รู้สึกว่าจะเรื่องแย่งแฟนกันหรือไงเนี่ย"
    เด็กผู้หญิงอีกคนว่า ขณะนี้ฝูงชนก็เริ่มทะยอยกันแยกย้ายแล้ว
    "หรือน่ากลัวจังเลยนะ"
    นกว่า แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นรอยยิ้มในแววตาของเจ้าหล่อน

    ใครจะนึกเฉลียวใจว่าแท้จริงเธอคือผู้อยู่เบื้องหลัง
    ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ
    เธอสังเกตว่าพักหลังชายเริ่มสนิทกับชน และเธอวิตกจริตว่าชนจะแย่งความสนใจไป

    เธอจึงดำเนินแผนการอันแยบยลโดยไปกินเหล้าคลอเคลียชน ในร้านซึ่งมีเพื่อนของชายอยู่มากมาย
    เช้าวันต่อมาเรื่องทั้งหมดจึงเข้าหูชาย
    ... ... ...

    ชนยังนอนอยู่บนทางเดินอาคารเรียน นานเท่าไรไม่รู้ โดยไม่สนว่าใครจะมองเขาอย่างไร
    ไม่สิ เขารู้ตัวแล้วด้วยซ้ำว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเขาบ้าง
    รู้สึกตัวอีกทีเขากลับนอนอยู่บนเตียง โดยที่ไม่ทันรู้ตัวเลยว่าตัวเองถูกเคลื่อนย้ายไปตั้งแต่เมื่อไร
    เขารู้สึกตัวเบาหวิว โหวงๆ แต่กระนั้นก็ไม่มีกำลังจะขยับเขยื้อนแม้แต่ปลายนิ้ว
    เป็นเวลาพักใหญ่เหมือนกัน กว่าเขาจะเริ่มสังเกตสิ่งรอบข้าง ความแข็งของเตียง อุปกรณ์ทางการแพทย์ และกลิ่นยาในอากาศ ซึ่งทำให้เขารู้ว่าที่นี่คือห้องพยาบาล
    เขางงอยู่นานว่าเกิดอะไรขึ้น การลำดับความในหัวสมองเขาช่างชักช้า และยากเย็น จนเขาฝืนต่อไปไม่ไหว
    เขาไม่ได้คิดอะไรอีก และเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไร เขาถึงเพิ่งรู้สึกว่า ร่างกายเขาสั่น หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ แน่นหน้าอก แต่ก็รู้สึกโล่งโหวงเหวงข้างใน ลำคอตีบตัน

    เขาไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ยิ่งเขาพยายามคิดเท่าไร ใจเขาก็ยิ่งสั่น อาการทั้งหมดนั่นก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

    ภวังค์สุดท้ายของเขา เขาพบเข็มน้ำเกลือที่แขนขวา เขารวบรวมกำลังทั้งหมด กระชากมันออก ก่อนที่จะแทงอันเข้าที่ลำคอ...

    @ @ @

    "นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง พยายามฆ่าตัวตาย คาดผิดหวังในรักเป็นเหตุ
    เข็มแทงไปโดนหลอดลม ทำให้สมองขาดออกซิเจน แพทย์ช่วยไว้ได้ทันจึงไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ยังไม่รู้สึกตัว
    หนุ่ม (นามสมมุติ) รูมเมตแจ้ง พบจดหมายมีเนื้อความสลัดรัก คาดเป็นเหตุให้เพื่อนเสียใจจนคิดฆ่าตัวตาย"
    กฤษฎาอ่านหนังสือพิมพ์ให้เพื่อนฟัง

    "เฮ้ย! มึมอ่านข่าวนี้ยังวะ ไอ้สิทธิ์"
    เขาถาม

    "อ่านแล้ว ไม่เห็นมีอะไรเลย ก็แค่คนฆ่าตัวตาย"
    สิทธิ์ว่า

    "เรอะ แต่กุว่ามันแปลกๆ อยู่นะ เห็นว่าเขาพยายามฆ่าตัวตายครั้งแรกแล้วไม่สำเร็จ จึงทำอีกครั้งที่ห้องพยาบาล
    แต่ในนี้เขียนว่ามีคนเห็นมันเข้าเรียนก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ถ้าหมอนี่คิดจะฆ่าตัวตายจริงๆ มันไม่น่าจะมานั่งเรียนหนังสือนะ"
    กฤษฎาตั้งข้อสงสัย

    "ไร้สาระน่า มันผ่านไปแล้วจะสงสัยไปทำไม หรือถ้าไม่เชื่อ แล้ว:-)จะทำยังไง"
    สิทธิ์ตอบ

    "ก็จริงแฮะ"
    กฤษฎาว่า ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินจากไปโดยทิ้งเรื่องราวนั้นไว้เบื้องหลัง

    -จบ-

    จากคุณ : เฟย์ - [ 13 ก.ย. 46 22:15:14 A:203.170.163.226 X: ]