ตอน 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2452707/W2452707.html#4
ตอน 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2453204/W2453204.html
ตอน 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2453293/W2453293.html
ตอน 4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2453331/W2453331.html
เย็นวันหนึ่งของปลายเดือนมีนาคมแตงกวาเดินกอดเอวบิดามาจากหน้าบ้าน ยิ้มแย้มเชิงประจบ ออกจะอารมณ์ดีเพราะพ่อไปรับมาจากโรงเรียน มองรองเท้าผ้าใบสองคู่ที่วางอยู่ชั้นวางรองเท้าหน้าบ้านอย่างครุ่นคิด หันไปถามบิดาที่เดินตามหลังมา
รองเท้าใครคะพ่อ
บ๊ะ..แล้วพ่อจะรู้ไหมเล่าเจ้าแตงกวา ก็เราน่ะมาพร้อมกันนา
อืม..ม์ ถ้าแตงจำไม่ผิดคู่นี้ คือรองเท้าที่พี่ฟางบ่นว่าไม่ชอบใส่ ๆ เพราะแตงซื้อให้ แต่อีกคู่ล่ะ เอ้อ..ช่างมันเถอะ พี่ฟาง ๆ ส่งเสียงพลางออกแรงวิ่งขึ้นบันไดตึง ๆ
พลั่ก แรงส่งตัวของเธอชนกับอกนุ่ม ๆ ของใครบางคนที่กำลังจะโผล่พ้นขอบประตูมาอย่างเบรคไม่ทัน ด้วยสัญชาติญาณเธอรีบคว้าเขาไปเป็นหลักทันที ข้างฝ่ายที่ถูกชนก็ยึดตัวเธอไว้จนตัวลอย ก็เขาสูงกว่าเธอเกือบฟุต หนุ่มสาวกันกอดกันกลมดิกในสายตาของผู้อื่นโดยปริยาย คุณนพพรบิดาของแตงกวาที่ตามมาติด ๆ ยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงเชิงบันได ฟางที่เดินตามมาติด ๆ ยังโดนลูกหลงจากแรงปะทะของทั้งคู่เซถอยหลังไปสองสามก้าว หลังจากตะลึงชั่ววินาที มนตรีขยับตัวถอยหลังแล้วเขาก็ปล่อยสาวน้อยวัยสิบเจ็ดปีถึงพื้นโดยสวัสดิภาพ พยายามไม่ยิ้มกับภาพเด็กสาวที่สองแก้มเรื่อด้วยเลือดฝาด ด้วยกลัวเธอจะเขินกว่าเดิม แตงเองออกจะขาสั่นมองผู้มาใหม่แวบเดียวก่อนจะโถมตัวไปข้างหลังเขา ฟางซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวเซแซ่ด ๆ อีกหน แต่ก็กอดน้องสาวด้วยความเต็มใจ ตรีหันไปมองตาปรอย ออกจะเสียดายหน่อย ๆ ที่ปล่อยร่างนั้นเร็วไป คุณนพพรรีบสาวเท้าขึ้นมา เห็นพี่น้องกอดกันกลมก็ถอนหายใจโล่งอก แลไปสบตาผู้ชายแปลกหน้าแบบมึนตึง ความเงียบชั่วขณะนั้นถูกทำลายด้วยเสียงประท้วงอู้อี้ของเจ้าตัวดี
พี่ฟางปล่อยแตงได้แล้ว
เรื่องอะไร ชอบนักไม่ใช่หรือเรา กิริยานั่นค่อนข้างขัดกับคำพูด เพราะเขาปล่อยตัวน้องสาวทันทีที่ถูกประท้วง แตงตาขวาง
ชอบอะไรฮึ แตงกวาถามงง ๆ
พูดจาก็ไม่เพราะ เป็นสาวเป็นนาง ก็ชอบแกล้งพี่เชื้อน่ะสิ ดูซิโถมเข้ามาเกิดหงายท้องไปว่าไง เราจะผิดหรือ ไม่มีทาง ก็แหกปากตะโกนฟ้องพ่ออีกสิว่าพี่แกล้งล้ม
เอาน่า..ฟาง บิดาเป็นผู้หย่าศึก
พ่อครับ ฟางผละจากน้องมาทางพ่อ
ผมพาเพื่อนมาด้วย พึ่งชวนกันตอนจะมานี่เองเลยไม่ได้บอกล่วงหน้า
มนตรี นี่พ่อเรา เขายกมือไหว้ทำความเคารพ คุณนพพรรับไหว้แต่ก็ยังหน้าตึงอยู่หน่อย ๆ ด้วยความที่หวงลูกสาวเอาการอยู่
ผมว่าเราย้ายคณะไปตรงโน้นกันเถอะ ไปตรี พยักไปทางห้องโถงส่วนที่ใช้รับแขกของบ้านแล้วพยักหน้าให้เพื่อน
ผมกำลังชวนตรีเขาไปข้างนอก ก็กะจะไปเซอร์ไพร้ส์แตงกวาน้อยของพ่อซะหน่อย เห็นว่าหกโมงแล้วยังไม่ถึงบ้าน
โธ่..ไปเซอร์ไพร้ส์หรือไปจับผิดแตงล่ะไม่ว่า รู้ทันหรอก แหม..ทำเป็นรักน้อง เจ้าตัวดีค่อนขอด แกล้งลงส้นหนัก ๆ ตามไป
ตกลงไม่ดีใจเลยใช่มั้ย ที่พี่กลับมา
ก็.. แตงยักท่า
นิดหน่อย
เออ..จำไว้คราวหลังจะได้หายไปนาน ๆ แล้วอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปหาเขาถึงที่โน่นละกัน พี่ชายงอน ๆ แตงก็ไม่ง้อให้เสียฟอร์มหรอก
ไม่มีทาง
ไม่มีทางที่จะเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
พี่น้องคู่นี้ รักกันยังไงฮึ พอเจอหน้าก็จ้องทะเลาะกันพอไม่เจอกันก็บ่นคิดถึงจนหูชาไปหมด
คุณนพพรบ่นไม่จริงจังนัก ความที่เขาเป็นคนก้าวขายาว ๆ จึงกลายเป็นเดินนำไปห้องรับแขกของบ้าน ถึงห้องรับแขก ต่างแยกย้ายกันไปนั่งตามเก้าอี้โซฟาสีแดงเลือดหมู ที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง ด้านหลังโซฟาแถบหนึ่งเป็นตู้โชว์มีพวกเครื่องเงินเก่า ๆ พวกขันสลุงหรือผอบต่าง ๆ ที่พ่อสะสมไว้บ้าง พวกไม้แกะสลักบ้าง เครื่องเขินสวย ๆ บ้างโดยจะแบ่งกันเป็นหมวดหมู่ดูงามตา พออวดแขกกรุงเทพฯ กะเขาได้บ้างหรอก ส่วนด้านหน้าโซฟาก็จะเป็นตู้เครื่องเล่นแผ่นเสียงของพี่ฟาง โทรทัศน์ของแม่ เครื่องเล่นวีดีโอของพ่อ ส่วนของแตงกวามีสิทธิ์เป็นเจ้าของได้แต่พวกตลับเทปเท่านั้นเอง ที่แยกว่าของชิ้นนั้นเป็นของใคร ๆ นี้ เพราะได้ซื้อในวาระต่างกันและคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของก็ออกเงินกันเอง ไม่ใช่เงินกองกลางของครอบครัว พ่อเป็นฝ่ายตอบคำถามของตรีสั้น ๆ ส่วนใหญ่เป็นการถามพื้น ๆ อย่างภูมิอากาศเสียเป็นส่วนใหญ่ แตงกวาเลยหันไปกระซิบกระซาบกับพี่ชายที่นั่งเก้าอี้ติด ๆ กัน
พี่ฟาง ไม่แนะนำแตงเหรอว่าหนุ่มหล่อคนนี้คือใคร ฟางสบตาน้องสาวแววอยากรู้อยากเห็นเต้นระริก !
ดี
ให้อยากรู้ให้ตายเป็นเลย กระซิบตอบ
โธ่..แตงตายซะคนพี่ฟางก็เหงาแย่สิ เสียงออดเป็นมอดกันไม้ ที่ได้ยินกันสองคน
ใสเจีย..เสียใจ พี่มีแฟนแล้วย่ะ ต่อไปไม่ต้องง้อเราอีกแล้ว แตงเบิกตากว้าง อุทานดังจนทุกคนเห็นมามอง
อะไรกัน สองคนนั่น ซุบซิบ ๆ กันอยู่ดี ๆ แล้วก็ร้องออกมาให้ลั่น แกล้งพ่อให้ตกใจเล่นเรอะเจ้าแตง แตงกวายิ้มแหย ๆ
ขอโทษค่ะ หันมาขอโทษพ่อแผล็บนึงก็หันไปซุบซิบกับพี่ชายอีก
พี่ฟางเป็นแฟนกับคุณนี่เหรอ เจ้าตัวดีมันมอง คุณนี่ ด้วยหางตา
บ้า..คิดบ้า ๆ
อ้าวก็บอกมีแฟนแล้วย่ะ หยั่งเงี้ยะจะให้เข้าใจว่าไง ฟางจับหัวน้องโขกโซฟาเบา ๆ
โอ๊ย!.. พี่ฟ๊าง.. ร้องซะยังกะถูกจับทุ่มลงพื้น อีกสองคนเลยหยุดคุยหันมามองอีก พ่อซึ่งออกจะตึง ๆ กับเรื่องเมื่อครู่ชักหมั่นไส้ลูกสาวคนโปรด
พ่อช่วยไหม เจ้าฟาง
ไม่เกินความสามารถครับพ่อ ฟางตอบกลั้วเสียงหัวเราะ แตงก็หน้างอไปเท่านั้นเอง แว่วเสียงแม่เรียกมา เลยฉวยโอกาสเดินหนีไป
ไปทานข้าวกัน พ่อชวน ฟางหันไปมองเพื่อนชวนซ้ำอีกหนพลางลุกขึ้นไปเดินนำไปยังห้องอาหาร
aaaaaaaaaa
รุ่งขึ้นแตงตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปโรงเรียนได้อย่างไม่อายแขก จะอายได้ไงล่ะนาฬิกาปลุกตั้งสามเรือน แต่ละเรือนตั้งเวลาไว้ห่างกันเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น นาฬิกาปลุกดังพร้อมกันตั้งสามเรือนไม่ตื่นก็ให้มันรู้ไปสิ แต่ถึงตื่นเช้าอย่างไรก็ไม่ทันพ่ออยู่ดี พ่อกับฟางชวนกันไปไร่ดอกไม้แต่เช้าแต่บอกว่าจะกลับมารับประทานอาหารกันประมาณเก้าโมง เหลือมนตรีที่นัยว่าขอตัวช่วยแม่ทำกับข้าว เขาคงเกรงใจมั้งให้พ่อลูกคุยกันตามลำพังบ้าง อืม..ก็ใช้ได้นะเพื่อนพี่ฟางคนนี้แตงคิดในใจ
อ้าวแตง แม่ทักเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้าครัวมา
ทานของเช้าก่อนค่อยไปได้แล้วสิวันนี้
ค่ะแม่ พยายามประหยัดถ้อยคำ กลัวจะถูกประจานสิถามได้ ดูเหมือนแม่จะพอใจมากเวลาได้นินทาลูกสาวคนเดียวเวลามีแขกมาอย่างนี้ พอใจว่าอย่างน้อยก็ได้ดัดนิสัยลูกสาวไปในตัวว่ามีแขกนะ ห้ามตื่นสายอีกนะ อายเขา ทำนองนั้น แต่แม่ก็ไม่พูดอะไรอีก แตงจึงหย่อนตัวลงนั่งรับประทานอาหารเงียบ ๆ เหลือบมองแม่กับเพื่อนพี่ชายเห็นกำลังเตรียมทำอาหารหรือไม่แน่ว่าขนมอะไรซักอย่างแล้วรับประทานต่อ
แม่คะ แตงไปล่ะค่ะ เธอเอ่ยหลังจากที่อิ่มอาหารแล้ว
จ้ะ
น้องแตงขับมอเตอร์ไซด์ไปเองหรือครับ ตรีถามอย่างสงสัย แตงหันมามองชายหนุ่มอย่างแปลกใจที่จู่เขาก็ถาม นิ่งอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะตอบเรียบ ๆ
เปล่าค่ะ แตงเดินไป บ้านกับโรงเรียนห่างกันไม่เท่าไหร่
และแตงก็มีทางลัด เขาพูดสอดขึ้นมาทำให้แตงแปลกใจเพิ่มขึ้น แต่ก็นึกว่าพี่ฟางของบอกล่ะสิ เลยไม่สนใจต่อไป
ค่ะ แตงไปก่อนนะคะ เดี๋ยวจะสายอีก
พี่ไปด้วยคนได้ไหม
คะ
ดีเหมือนกันนะลูก พี่เขาคงอยากเดินเล่นบ้าง ฟางหนีไปไร่แต่เช้าเชียว
ก็ได้ค่ะ แต่ขากลับต้องเดินกลับมาเองนะคะ ไม่งั้นส่งกันไปส่งกันมาแตงก็แย่เท่านั้นเอง
ไม่มีปัญหาครับ ตรีรีบไปล้างมือแล้วเดินตามสาวน้อยไปทันที เธอหยุดรออยู่ที่หน้าประตูบ้านนี่เอง ชายหนุ่มกระชับเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลเข้ม มองอีกฝ่ายหนึ่งยิ้ม ๆ
แล้วนั่นไม่หนาวเลยหรือครับ
ค่ะ แตงชินกับอากาศอุณหภูมินี้แล้วค่ะ อยู่กันมานานนี่คะ
แหม..พูดเหมือนกับแก่จัง แตงหัวเราะ
แก่จริง ๆ ค่ะ
อืม..งั้นพี่ก็คงชราเต็มทีแล้ว เขาแกล้งทำท่าเดินหลังโกง ทำทีเป็นถือไม้เท้ายันเวลาเดิน แตงหัวเราะอย่างสดใส ถนนเส้นนี้มีเพียงเขาและเธอที่เดินกัน มนตรีมองทางที่ทอดยาวไปข้างหน้ามันเป็นถนนลูกรังสีแดงที่คงผ่านมาหลายฝน เพราะดินแน่นขนัด ไม่มีฝุ่นคลุ้ง เพราะไอหมอกที่โรยตัวลงมาคงจะทำให้ละอองเล็ก ๆ พวกนั้นซึมซับกันจนเกาะเป็นกลุ่มก้อนไม่มาวิ่งเล่นเหมือนที่เคยเป็นกระมัง ความเงียบที่ครอบคลุมบรรยากาศ ทำให้ได้ยินเสียงรถแว่วมาแต่ไกล
อีกไม่นานก็จบแล้ว คิดจะไปเรียนต่อที่ไหนครับ
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
14 ก.ย. 46 13:14:38
]