"อาจยังไม่เห็นว่ารักมากมาย
อาจยังสงสัยผู้ชายคนนี้
อาจยังไม่เห็นสายตาแห่งความหวังดี
แต่เธอก็คงเข้าใจมันสักวัน .."
เสียงเพลงเบาๆดังขึ้นเมื่อรถเก๋งคันเล็กถูกสตาร์ท
หญิงสาวร่างบอบบางที่นั่งอยู่ในตำแหน่งของคนขับเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคันเร่งมิดจนรถกระชาก
แล้วขับเคลื่อนจากตำแหน่งนั้นไป ด้วยความเร็วขนาดนั้น บอกให้รู้ว่าคนขับคงมีอารมณ์ที่ไม่ปกติสักเท่าใด
ผมหันไปมองเธอ แม้ไม่เห็นน้ำตาแต่ผมก็รู้ว่าเธอกำลังร้องไห้
รถทั้งคันเงียบ มีแต่เสียงเพลงที่ยังดังอยู่อย่างนั้น
..เพื่อเธอตลอดไป..เพลงที่ทำให้ผมต้องนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องราวระหว่างเรา
+ + +
ทิวเขาทอดตัวเป็นแนวยาว คล้ายอ้อมกอดที่โอบล้อมทะเลสาบกว้างแห่งนั้นเอาไว้
หมอกยาวเช้าลอยตัวอ้อยอิ่งอยู่เหนือผืนน้ำที่มีระลอกคลื่นกระเพื่อมไหว
อากาศในยามเช้าของบริเวณอ่างเก็บน้ำเย็นจนหายใจออกมาเป็นไอ
ผมถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกคลุมร่างบางที่นั่งถอนหายใจอยู่ข้างๆกัน
"ขอบใจมากนนท์"
เธอหันมาบอกเบาๆ แต่แล้วก็กลับไปเหม่อมอง ปุยเมฆบนยอดเขาอีกครั้ง
ท่าทางนั่งกอดเข่าเอาคางเกยนั้น ดูอมทุกข์จนไม่คล้ายน้ำหนึ่ง หญิงสาวแสนร่าเริงที่ผมเคยรู้จัก
แต่ผมก็ไม่เคยทำอะไรได้มากไปกว่าการนั่งเงียบๆอยู่ข้างๆเธอเท่านั้น
"อย่าร้องไห้เลยนะหนึ่ง"
กี่ครั้งแล้วหนอที่ประโยคนั้นดังก้องอยู่ในหัวใจดวงหนักอึ้ง เวลาต้องนั่งมองเธอร้องไห้
"บางทีนะนนท์ หนึ่งก็ไม่เข้าใจ ในเมื่อเอ็มบอกว่ารักหนึ่ง ทำไมเขามีหนึ่งคนเดียวไม่ได้"
เธอบอกเล่าความรู้สึกลึกๆให้ฟังอย่างเพื่อนที่สนิทและไว้ใจ
ซึ่งนั่นก็มากที่สุดแล้วเท่าที่เธอจะให้ผมได้
"แต่หนึ่งก็รู้เหมือนกับที่นนท์รู้ใช่ไหม ว่าถึงเอ็มจะคบกับใคร
แต่เขาก็มีหนึ่งเป็นหนึ่งเดียวในหัวใจ เป็น 'น้ำหนึ่ง' อย่างที่หนึ่งเป็นอยู่เสมอ"
ผมพยายามจะปลอบเธอ เพราะรู้ว่าที่เธอต้องการในขณะนี้คือกำลังใจ
เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไป ..เหมือนทุกครั้ง
"หนึ่งจำเป็นต้องยอมรับมันใช่ไหมนนท์ ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหม
ในเมื่อหนึ่งเลือกที่จะรักเขา"
..อาจมีใครใครที่เขาดีกว่า อาจจะมีคนที่เธอใฝ่ฝัน
แต่จะมีใครให้เธอหมดใจอย่างฉัน และมันจะมีให้เธอเพียงคนเดียว ..
"ทำไมหนึ่งไม่เลือกที่จะรักนนท์นะ"
คำถามของผมทำให้เธอชะงัก แล้วก็เกิดความเงียบที่ชวนให้อึดอัด
ผิดจากความเงียบตอนที่เรานั่งอยู่ด้วยกันในครั้งแรก
น้ำหนึ่งถอนใจยาว ขยับจากท่านั่งกอดเข่าเป็นหย่อนขาลงไปเหนือน้ำ
แพที่เพื่อนๆมาพักเที่ยวนี้ ยื่นเข้าไปในทะเลสาบเหนืออ่างเก็บน้ำ
ธรรมชาติรอบตัวงดงาม สงบ และสะอาด
ขัดกับความหมองหม่นในใจใครหลายคนในตอนนี้
"นั่งดีๆสิ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก"
ผมหันไปดุคนที่นั่งขยุกขยิก ทำเหมือนไม่ได้พูดอะไรออกไปก่อนหน้านี้
ให้เราต้องอึดอัดและเงียบกันไป
"ไม่ตกหรอกน่า จะตกได้ไง"
เธอเถียงพลางหัวเราะเสียงใส ผมรู้ว่าเธอก็กำลังพยายามทำให้ผมสบายใจ
พอๆกับที่พยายามทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน
นี่ล่ะน้ำหนึ่ง ผู้หญิงที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนหวาน
เธอพร้อมจะเข้มแข็งขึ้นมาได้ทุกขณะ แต่ไม่ใช่เพื่อตัวเองสักครั้ง
และครั้งนี้ผมรู้ว่าเธอทำเพื่อผม ทั้งๆที่ผมต่างหากที่ควรจะอยู่เคียงข้างเธออย่างเข้มแข็ง
ไม่ว่าเธอจะรักผมได้หรือไม่ มันคงไม่สำคัญเท่ากับที่ผมได้อยู่ตรงนั้นเพื่อเธอตลอดไป
..อยู่มาจนวันนี้เพื่อเจอเธอ จะอยู่เพื่อเธอตลอดไป
จะเอาความรักที่มีเก็บไว้ เพื่อรอคอยวันที่เธอมองกลับมา
อาจจะมีเวลาที่เธอต้องการ ..
"เมื่อไหร่จะเลิกเถียงนะ ตั้งแต่เด็กจนโตมานี่ ไม่เถียงนนท์สักครั้งได้ไหม
ว่ายน้ำก็ไม่เป็นทั้งคู่เนี่ย ถ้าหนึ่งตกลงไปจะทำไง "
ผมยื่นมือไปขยี้หัวยุ่งๆนั้นเบาๆอย่างหมั่นไส้
เธอยกมือขึ้นปัด และจับมือผมเอาไว้
"ขอบใจมากนะนนท์ ขอโทษและขอบใจ หนึ่งคงพูดได้แค่นี้"
แล้วน้ำหนึ่งเอียงหัวลงมาซบไหล่ผมไว้ ไหล่บางๆที่ไหวอยู่นั้นทำให้ผมรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้
"นนท์ขอได้ไหมหนึ่ง ขอให้มันเป็นครั้งสุดท้าย
นนท์อยากเห็นหนึ่งยิ้มและหัวเราะมากกว่าที่ร้องไห้
อย่าทำให้นนท์เป็นห่วง"
"ถึงหนึ่งไม่ร้องไห้ นนท์ก็ต้องมีอะไรให้ห่วงหนึ่งอยู่ดี"
เธอยังคงเถียงเสียงอู้อี้ แล้วก็เงียบไป เรานั่งในท่านั้นอยู่นาน จนแดดอ่อนตอนเช้าเริ่มแรงขึ้น
ผมขยับไหล่ และเธอก็งัวเงียลืมตาตื่น
"หลับไปได้ไงนะหนึ่ง มิน่าล่ะเงียบเชียว"
ผมล้อเธอเล่น และหยัดตัวยืนขึ้น น้ำหนึ่งขยับลุกตาม
แต่เพราะเธอลุกขึ้นเร็วเกินไป ร่างบางจึงโอนเอียงและเสียหลักตกน้ำลงไป
"น้ำหนึ่ง"
จากคุณ :
เจ้าหญิงน้อย
- [
14 ก.ย. 46 15:34:07
A:202.57.179.78 X:
]