การตายอย่างสงบ (หมายเลข 6)

    เนื้อหาออกจะดำมืดสักหน่อยนะครับ. . . ขอเตือนก่อนจะอ่านต่อไปนะครับ  ---ทัศนา

    ============================================
    เอมวลีกดเครื่องบันทึกเสียง แล้วปล่อยให้มันค่อยๆ อัดเก็บเสียงที่เกิดขึ้นในห้อง  พัดลมกำลังหมุนไป ส่งเสียงหึ่งๆ  เสียงแมลงร้องรำไรจากข้างนอก  ไอละลองฝนค้างที่ปลิวเข้ามาในห้องคงไม่มีเสียง  แต่เธออยากให้เธอสามารถบันทึกการมาของมันไว้ได้เช่นเดียวกัน

    เสียงหายใจของเธอเบาๆ ก็อาจจะถูกบันทึกอยู่ในตลับเทปนั้น  เธอไม่ควรอยู่ที่นี่  ถ้าวันนั้นพ่อไม่ได้เข้ามาพบเสียก่อน เธอคงได้ไปถึงจุดหมายที่ต้องการแล้ว  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นส่วนเกินของชีวิตของเธอ มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคาดไว้ แล้วมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าสิ่งที่เธอเลือกจะทำแน่นอน เธอมั่นใจ

    "กินยาหรือยังลูก"

    จากเหตุการณ์วันนั้น ในห้องนี้ก็เลยไม่มีของมีคมใดๆ อีก  ที่บ้านเลือกห้องที่ไม่มีขื่อคา หน้าต่างติดเหล็กดัด ป้องกันการกระโดดหนี  นอกห้องมีคนเดินไปมาตลอด  พ่อลาออกจากงานประจำ มาทำงานที่บ้านเพื่อจะได้มาคอยสอดส่องระวังพฤติกรรม  แต่เธอไม่เคยบอกกับพ่อของเธอว่าเธอต้องการอะไร หรือว่าสาเหตุใดที่ทำให้เธอทำอย่างนั้น

    "ลูกคงไม่ได้คิดแค่เพียงอยากลอง"

    ชีวิตคืออะไร?  เธอเองก็ยังตอบคำถามนี้ไม่ได้  พ่อก็คงจะตอบไม่ได้เช่นเดียวกัน แล้วพ่อจะรั้งมันไว้ทำไม?  เธอไม่ใช่ตุ๊กตาที่มีตัวตนอยู่เพียงเพื่อให้ทุกคนสบายใจ  สิ่งของต่างมีเป้าหมายของมัน มีจุดประสงค์ที่มันคงอยู่  แต่ความสงสัยนี้ไม่ใช่เหตุผลหรอก

    "ลูกไม่คิดถึงหัวอกของแม่หรือของพ่อเลยหรือ?"

    เธอเองก็ยังคิดไม่ออกว่าสาเหตุคืออะไร เธอรู้แค่ว่าเธอทำมันไปแล้ว  ชีวิตมันก็เบาๆ คล้ายกับฟองสบู่ ปลิวไป ปลิวมา  เปราะบาง และสวยงามเหมือนลวดลายไหลเลื่อนสีรุ้งที่เรามองเห็นบนผิวใสของมัน  แต่มันก็ไม่อยู่กับเราตลอดไป เพียงชั่วอึดใจ ฟองสบู่สวยนั้นก็แตกออก ทิ้งไว้แค่ละอองน้ำสบู่ที่ฟุ้งกระจายออกมา  ที่ไม่มีใครเห็นอีก   อาจเพราะว่าคนอื่นเห็นว่าชีวิตเป็นเหมือนต้นไทร  พวกเขาถึงคิดว่ามันต้องยั่งยืน ฝังรากลึก และแผ่กิ่งก้านใบให้ความร่มเย็น เป็นเสาหลักให้กับต้นไม้อื่นๆ ที่ค่อยๆ งอกเงยขึ้นมา  เธอมองความเชื่อนี้ด้วยความอึดอัด  ชีวิตที่เกินพอดีคือความอึดอัด และกดดัน  กว่าต้นไม้จะเติบโตจนแกร่งกล้า ก็ต้องใช้ความพยายามมากมาย  ผ่านร้อนผ่านหนาว  ตากแดดฝน และลมพายุ  ชีวิตที่เป็นเหมือนกับฟองสบู่อย่างเธอคงจะไม่ทนทานขนาดนั้น

    "ชีวิตของลูก เป็นหัวใจของชีวิตอีกหลายชีวิตนะ"

    วันก่อนหน้าวันนั้น เธอกินปลาดุกที่อยู่ในแกง  ได้ยินแม่ของเธอพูดว่า เดี๋ยวนี้ปลาดุกเป็นปลาดุกเลี้ยงทั้งนั้น  เธอนึกถึงอาหารที่ปลาดุกกิน พวกมันกินอาหารสำเร็จ และมันก็เป็นเพียงเครื่องจักร ที่เปลี่ยนอาหารสำเร็จในถุงให้กลายเป็นอาหารของคน  แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันต้องเสียสละตัวเอง ทุ่มเทแรงกาย กินอาหาร ว่ายน้ำ หนีศัตรู สู้กับโรคภัยมากมาย  สุดท้ายก็ต้องอุทิศตัวมาเป็นอาหารที่เรากำลังเคี้ยวอยู่ในปาก  แต่มันก็เป็นได้แค่ปลาดุกเลี้ยง

    เสียงฝนเริ่มซาลง  เธอกดปิดเครื่องบันทึกเสียง  สิ่งที่เธออยากให้คนอื่นได้ยินได้ถูกบันทึกไว้ในนั้นเกือบหมดแล้ว  เธอกดกรอเทปกลับไปที่จุดเริ่มต้นและพูดประโยคที่เธอจำได้จากเพลงที่เธอรักมากลงไป  "อย่ามัวแต่ฟังสิ่งที่ฉันพูด ให้ฟังสิ่งที่ฉันสามารถเก็บเงียบไว้ได้จะดีกว่า"

    เธอวางเทปลงบนโต๊ะเบาๆ และเหลือบไปดูประตูที่กั้นเธอจากด้านนอก. . . มันไม่ได้ใส่กลอนไว้. . . เธอรู้ว่าเธอสามารถจะเดินออกไปพบและร้องไห้กับพ่อของเธอที่นั่งกังวลอยู่ที่ข้างนอกห้องส่วนตัวของเธอได้

    จากคุณ : ทัศนา - [ 14 ก.ย. 46 19:02:07 A:203.170.157.86 X: ]