ตอน ธารรัก
คืนนี้เราไปเกาะละวะ กางเต็นท์นอนริมทะเลกันมั้ย
ธีรเอ่ยชวน เมื่อมาหาสามสาวแห่งบ้านทรายงามในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ แดดยามเช้าสาดไปทั่วผืนทรายและแผ่นน้ำ ระยิบระยับราวเกล็ดแก้วล้อแสง ลมทะเลพัดผ่านเป็นระยะพาเอายอดมะพร้าวไหวเอนตามลม แปลญวนที่ผูกระหว่างต้นไม้ใหญ่แกว่งไปมาด้วยแรงของธารตาที่นอนเล่นมองท้องฟ้าสลับผืนน้ำพลางฟังเสียงคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าที่ทยอยซัดเข้าหาฝั่ง บนเสื่อไม่ไกลนักทรายแก้วกับคลื่นขวัญนั่งเล่นหมากขุม รางไม้เนื้ออ่อนที่เกลาให้มีรูปร่างคล้ายเรือขนาดเล็ก ตรงกลางขุดเป็นหลุมสองฟาก ฟากละแปดหลุม แต่ละหลุมใส่ลูกหมากซึ่งนิยมใช้เมล็ดสวาดหรือเมล็ดอย่างอื่นที่ลักษณะใกล้เคียงกัน
ไกลน่ากลัวหรือเปล่าค่ะ ทรายแก้วเงยหน้าขึ้นถามด้วยความสงสัย เพราะเป็นที่ที่หญิงสาวไม่เคยไป
ไม่น่ากลัวหรอกครับ มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้คอยดูแลอยู่ แล้วยิ่งมีทหารเรือไปด้วย รับรองปลอยภัยแน่นอน
พี่นทีไปด้วยเหรอค่ะ ไชโย้ ... ดีใจจัง ไปค่า ... ไป ... หนูอยากนั่งเรือเที่ยว
คลื่นขวัญร้องอย่างดีใจ ร่าเริงเป็นพิเศษที่จะได้เที่ยว เดี๋ยวนี้นทนทีกลายเป็นแขกประจำของบ้านเหมือนธีรเป็นแขกประจำของทรายแก้วอย่างไรอย่างนั้น ทุกครั้งที่เขาไม่ต้องออกทะเล ชายหนุ่มจะเทียวไปเทียวมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ จนธารตาอ่อนใจจะไล่ ฝ่ายนทนทีลองได้ปักใจแล้ว เขาก็เดินหน้า คิดว่าถึงตอนนี้แม้ฝ่ายหญิงจะยังไม่ใจอ่อน แต่สักวันคงแพ้ความจริงใจจนได้
น้อย ๆ หน่อยจ้ะยัยคลื่น ชอบทำตัวเป็นมะพร้าวตื่นดกไปได้ แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ เปลี่ยนบรรยากาศไปนอนชมดาวชมเดือนที่หาดอื่นบ้าง ทรายแก้วปรามน้องสาวแต่ก็ไม่วายสนับสนุน
ไปกันนะคะพี่ธาร น้องสาวทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
ตามใจจ้ะ เห็นแววตาหวานประจบของทรายแก้วและสายตาขี้อ้อนของคลื่นขวัญ พี่สาวก็อดใจอ่อนไม่ได้
อื๋อ
พี่ธารคนจ๋วย ใจดีที่ซู้ดดดดด คลื่นขวัญโผเข้ามาจะหอมแก้มพี่สาวคนดี แต่อีกฝ่ายแกล้งปิดหน้าปิดตาไม่ยอม หยอกกันจนธารตาถึงกับตกแปล
ถ้างั้นเดี๋ยวทรายไปเตรียมเสบียงสำหรับคืนนี้ก่อนนะคะ พี่ธารกับคลื่นเก็บเสื้อผ้ากันเองน้าาาา น้องสาวคนกลางของบ้านควบคุมความประพฤติพี่และน้องสาวที่บัดนี้เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเม็ดทราย เพราะมัวแต่แกล้งกันไปมา
เจ้าค่ะ เสียงตอบรับพร้อมกันของทั้งคู่ ทำเอาทรายแก้วอมยิ้มอย่างขำ ๆ เออหนอ
ราวกับหล่อนเป็นแม่ก็ไม่ปาน
******************************************************************
เรือยนต์ลำเล็กของนทนทีวิ่งตัดคลื่นพาสองหนุ่มและสามสาวมุ่งตรงไปยังเกาะละวะ เกาะขนาดเล็กกลางทะเลอันดามันที่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทิวมะพร้าวเรียงเป็นระเบียบตามแนวชายหาดไหวเอนไปมาราวรอรับทักทายผู้มาเยือน บ้างโน้มลำต้นเรี่ยล้อผืนทรายขาวละเอียดเพื่อยื่นไปเย้าน้ำทะเลเขียวสวยใส ก่อนจะหักยอดขึ้นท้าแผ่นฟ้าที่กว้างกว่ากว้าง
ชายหนุ่มทั้งคู่จัดแจงเกลี่ยบริเวณ ปักหมุด กางเต็นท์ ก่อยจะแยกย้ายกันเตรียมอุปกรณ์ประกอบอาหารมื้อเย็น นทนทีจัดแจงตัดมะพร้าวหลายทะลายลงมาให้คลื่นขวัญที่บ่นอยากกินน้ำมะพร้าวอ่อน ส่วนธีรตรงเข้าดงจากที่ขึ้นอยู่ริมฝั่งน้ำกร่อยเพื่อตัดใบนำมาให้คนรักห่องบปิ้ง พร้อมได้ลูกจากที่กำลังสุกงอมเป็นของแถม ขณะที่ฝ่ายธารตากับทรายแก้วล้วนช่วยกันลำเลียงข้าวของจากเรือมายังที่พักและลงมือตระเตรียมกับข้าวกับปลา พลางแบ่งงานให้คลื่นขวัญช่วยออกหาเศษไม้ฟืนเตรียมก่อกองไฟย่างอาหารทะเล แต่เด็กสาวก็ไม่วายแอบซนหนีไปแซะหอยนางรมริมโขดหินมาได้กอบใหญ่
ดูสิ ... ทำบาปอีกแล้ว ไปแงะหอยมาทำไม ของสดเรามีออกตั้งเยอะตั้งแยะ ธารตาไม่วายดุน้องสาวคนเล็ก
นิดเดียวเองค่ะ เห็นมันตัวหย้ายยย หย่ายยยย น่ากิ๊น น่ากินน้า
แล้วนั่นนิ้วไปโดนอะไรมา ทรายแก้วจับมือน้องสาวขึ้นพิจารณาเมื่อเห็นปลายนิ้วชี้บวมแดงผิดสังเกต
หนูโดนปูหนีบ เผลอเอานิ้วลงไปแหย่มันหน่อยเดียว ดันงับมาด้ายยย ... เจ๊บ เจ็บอ่ะ
ซนจริง ๆ เลยนะเรา ไม่มีเรียบร้อยเหมือนทรายเลยสักนิด พี่เห็นแล้วอ่อนใจ พี่สาวคนโตถึงกับถอนใจ ส่ายหน้าอย่างระอา
อย่าพึ่งเป็นลมน้าพี่ธาร อย่างหนูเนี่ย ดีหนึ่งประเภทหนึ่งแล้วนะเจ้าค่ะ ถ้าพี่เจอเพื่อน ๆ คลื่นนะ รับรองช็อค ... ชักตาตั้งไปเล้ย หน้าชื่นตาบานอวดสรรพคุณตนเอง
จ้า ... ขอบคุณนะจ๊ะ น้องที่นับถือ ธารตาส่ายหัวอย่างอ่อนใจ แต่ก็เป็นความอ่อนใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม
กว่าอาหารมื้อเย็นจะเสร็จสิ้น ความมืดก็เริ่มคืบคลานมาแทนที่แสงตะวันอย่างช้า ๆ คลื่นขวัญออกไปวิ่งเล่นไล่จับปูลมอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียว ปล่อยให้ธีรและทรายแก้วนั่งชมพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีสวยลับฟ้าด้วยกันตามลำพัง ส่วนธารตาไม่อยากขัดคอเพื่อนกับน้องสาวคนกลางจึงออกเดินเล่นย่ำทรายที่เนียมนุ่มเท้าน่าสัมผัส นทนทีเลยถือโอกาสเดินตามมาเป็นเพื่อนหญิงสาว หาดทรายกว้างร้างผู้คนเช่นเดียวกับท้องทะเลที่เวิ้งว้างว่างเปล่าไกลแสนไกลจนจรดเส้นขอบฟ้า ทั้งคู่คงเดินเคียงกันไปเรื่อย ๆ ฟังเสียงคลื่นเสียงลมแทนเสียงคน จนชายหนุ่มเป็นฝ่ายกล่าวชวนขึ้นก่อนเมื่อเห็นเรือไม้ลำเล็กจอดอยู่ริมฝั่งไม่ไกลนัก
ไปลอยเรือเล่นกันมั้ยครับ
หญิงสาวไม่ตอบ ยังคงเดินตามคนตัวโตไปเงียบ ๆ
อืม ... มีหมาด้วย ไม่รู้เรือมีรอยรั่วหรือเปล่า ชายหนุ่มหมายถึงหมาวิดน้ำรูปร่างคล้ายกระบวยอันใหญ่มีด้ามถือสั้น ล้วนสานด้วยใบจากแน่นเสียจนกระทั่งอุ้มน้ำไว้ได้
ไม่เป็นไร ... ถ้ารั่วก็อาสาวิดน้ำให้ ไปหรือเปล่า ธารตาไม่สน เพราะความอยากนั่งเรือเล่นมีมากกว่า แล้วที่ว่าไม่สนของหล่อนนี่คือไม่สนจริง ๆ ทั้งรอยรั่วของเรือ และความน่ากลัวของท้องทะเลยามค่ำ
ไปสิครับ คุณมากับทหารเรือนะ รับรองว่าไม่ต้องกลัวล่ม นทนทียิ้มเอ็นดูคนอาสา ไม่สนใจท่าทางไม่ยินดียินร้ายของธารตา ภายนอกแม้จะดูแข็ง แต่รู้ว่าภายในแล้วหญิงสาวเป็นคนใจดี ...
ไม่กลัวหรอกค่าาาาา ... เสียงตอบกลับมา กลายเป็นเสียงคลื่นขวัญ ที่มายืนแอบหลังเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
นั่นแน่ ... จะหนีหนูไปเที่ยวกันสองคน ไม่ยอมด้วย คลื่นขวัญยื่นหน้ายื่นตามาล้อชายหนุ่ม
พี่นึกว่าคลื่นห่วงคู่นั้น เลยไม่ชวน นทนทียิ้มเป็นนัย ๆ พลางพยักพเยิดไปทางธีรกับทรายแก้วที่นั่งเล่นอยู่ริมหาด
อ๋อ ... คู่นั้นนะหายห่วง หายหวงไปตั้งนานแล้ว คนนี้น่าห่วงกว่าเยอะ ขอบอก ...
กระซิบตอบเบา ๆ พร้อมแอบยักคิ้วหลิ่วตาไปทางคนที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ไม่ไกล พลางรุนหลังชายหนุ่มให้รีบลงเรือก่อนที่พี่สาวตนจะเปลี่ยนใจ
จากคุณ :
ธราธร
- [
16 ก.ย. 46 04:37:32
]