แกะ
ช่วงที่ลุงอานุชมาพักกับเรา ฉันได้ยินเถียงกันแต่เรื่องการเมืองของชนชั้นสูง
"เหลือเชื่อเลย การปฏิวัติเป็นการปฏิวัติของฝ่ายซ้ายแต่พวกสาธารณรัฐต้องการให้เรียกว่าเป็นพวกอิสลาม" คุณลุงอานุชบ่นให้ฉันกับพ่อฟังในวันหนึ่ง
"ไม่สำคัญหรอก ยังไงทุกอย่างก็ต้องออกมาดี ประเทศที่ประชากรกว่าค่อนกว่าครึ่งไม้รู้หนังสือ ก็ยากที่จะรวบรวมผู้คนให้เข้ากับมาร์กได้ สิ่งที่จะรวมพวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวมีเพียงลัทธิชาตินิยมหรือว่าทางศาสนาเท่านั้น. . ."
พูดมาถึงตอนนี้คุณลุงก็ลุกขึ้นมายกไม้ยกมือเหมือนกำลังปลุกระดมมวลชน พลางพูดว่า
"แต่พวกผู้นำทางศาสนาไม่รู้จักการปกครองบ้านเมือง พวกเขาน่าจะกลับโบสถ์ไป ชนชั้นกรรมาชีพจะปกครองเอง ห้ามไม่ได้หรอก นั่นคือสิ่งที่เลนินกล่าวไว้ใน"รัฐและการปฎิวัติ" "
บางครั้งฉันก็เล่าความคิดของตัวเองให้ทั้งสองท่านฟัง
"ทีวีบอกว่าประชากรร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าออกเสียงให้กับสาธารณรัฐอิสลาม"
"ได้ยินไหมอานุช นายรู้รึยังว่าคนของเราช่างโง่เขลาเบาปัญญาขนาดไหน การเลือกตั้งนั่นมันจัดฉากขึ้น แล้วพวกเขายังเชื่อผลเลือกตั้งถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์อีก สำหรับฉัน ไม่มีใครเลยที่รู้จักลงคะแนนเสียงให้สาธารณรัฐอิสลามแล้วคะแนนพวกนั้นมันมาจากไหนกัน ก็มาจากก้นพวดมันนั่นแหละ" คุณพ่อพูดใส่อารมณ์ไม่ยั้งเลย
" หนูไม่ผิดนะคะ ทีวีต่างหาก โฮโฮ"
"ใจเย็น ๆ น่า อีไบ เธอยังเด็ก ก็พูดไปตามที่ได้ยินมาเท่านั้นเอง"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
"จะเล่นด้วยกันเปล่า?" ฉันเอ่ยทักเพื่อนสองคนแรกที่พบหลังออกพ้นบ้านมา
"เขากำลังจะไปอเมริกา" เพื่อนคนหนึ่งบอก
"ไปอเมริกา? ไปทำไม" ฉันถามเพื่อนคนที่จะไปอเมริกา
"คุณพ่อคุณแม่ฉันบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของสาธารณรัฐอิสลาม ไปเสียจะดีกว่า"
"แต่ผู้นำทางศาสนาพวกนั้นงี่เง่า คงไม่อยู่ตลอดไปหรอก"ฉันออกความเห็น
"ใช่" เพื่อนอีกคนพลอยเห็นตาม
"คุณพ่อบอกว่าไม่มีใครเห็นถึงอันตราย"
"แล้วเมื่อไหร่เธอจะไปล่ะ"
"อีกราวหนึ่งเดือน"
"อ้อ"
ฉันว่าฉันชอบเด็กชายคนนี้จริง ๆ . . .
"สหรัฐนี่ยอดเยี่ยมเลย ในที่สุดนายก็จะได้พบบรูซ ลี ตัวต่อตัวแล้ว" เพื่อนอีกคนว่า
"ใช่ นั่นก็อาจจะดี. . ."
"บรูซ ลี ตายแล้ว . . ." ฉันพูดเสียงอ่อย ๆ
แท้จริงแล้ว ฉันชอบเขามาก ๆ
มันเป็นวันสิ้นโลก. . .
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
ภายหลังที่เพื่อนของฉันเดินทางจากไป ครอบครัวข้างดีของฉันก็อพยพไปจากประเทศด้วย
'ขณะนี้เรียกขึ้นเครื่องบินเที่ยว๖๗๐๒ ไปลอสแองเจลิส ประตูที่ ๒๖ ๆ'
ในรถระหว่างทางกลับบ้าน
คุณแม่เอ่ยขึ้นว่า "บางทีเราควรไปเหมือนกัน"
คุณพ่อถือพวงมาลัยขับรถอยู่ตอบมาว่า ถ้างั้นฉันจะได้เป็นคนขับรถแท๊กซี่แล้วเธอเป็นสาวใช้ทำความสะอาดงั้นสิ"
"คาเวฮ์เพื่อนหนูไปสหรัฐอเมริกาเหมือนกันค่ะ"
"อย่าห่วง ทุกคนที่อพยพไปจะกลับมา พวกเขาแค่กลัวการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น" คุณพ่อปลอบ
"หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะ" คุณแม่บอก
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
ในห้องรับแขกที่บ้าน
คุณแม่บ่นออกมาว่า
"ฉันกลัวจริง ๆ เลย พี่อานุช"
"ไม่ต้องกังวลน่ะ ทาจิ มันก็เกมือนการปฏิวัติทั้งหลายนั่นแหละ นี่เป็นช่วงปรับตัวแค่นั่นเอง"
. . .กริ๊ง ๆ . .
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉะนจึงเดินไปรับ
"พ่อขา ของพ่อค่ะ"
"อะไรนะ" คุณพ่อร้องถามคนที่ปลายสายอีกทางหนึ่ง.
"เกิดอะไรขึ้นคะ" คุณแม่กระซิบถาม
คุณพ่อวางหูโทรศัพท์ลงแล้วทรุดลงก้มหน้าร้องไห้
"คุณแม่เสีย ๆ แล้วหรือคะ" คุณแม่โน้มตัวไปถาม
"พ่อคะ"ฉันเขย่าตัวคุณพ่อ
"อะไรกันน่ะ" คุณลุงเดินเข้ามาถาม
"โมเชน . . . มีคนเจอเขาจมน้ำตาย . . . ในอ่างอาบน้ำ" คุณพ่อหันไปบอกคุณแม่
"อะไรกัน? ที่ไหน?" คุณแม่ถามด้วยหน้าไม่สู้ดี แล้วตะโกนร้องฟูมฟายว่า
"ฆาตกร ๆ"
คุณแม่ฉันพูดถูกที่เชื่อว่ามันเป็นฆาตกรรม . . . เมื่อพวกเขาพบศพ มีแต่ หัวเท่านั้นที่จมอยู่ใต้น้ำ
"แล้วทุกอย่างจะดีเอง" คุณลุงอานุชปลอบใจ
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
หลังจากโมเชนแล้ว ก็ถึงคราวเซียมัค
ชายสวมชุดดำโพกหน้าปิดปากสามคนไปถามหาเขา
'นี่บ้านเซียมัค จารีใช่เปล่า'
'ค่ะ' น้องสาวของเขายื่นหน้าออกนอกประตูมาตอบ
เจ้าคนชุดดำโพกหน้าปิดปากคว้าคอเธอแล้วกล่าวว่า
'พวกเราคือเทวทูตแห่งความยุติธรรม'
น้องสาวของเขาถูกสังหารที่บ้านเขา
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
"คุณรู้ไหมว่าเซียมัคกับครอบครัวอยู่ไหนแล้วตอนนี้ "คุณแม่ถามคุณพ่อที่โต๊ะอาหาร
"กะ ลาลี" ฉันเสริม
"ก็ไม่รูอะไรมากไปกว่าเธอหรอก แต่พวกเขาต้องมที่หลบซ่อนที่ไหนสักแห่ง"
ภายหลังเราได้ข่าวว่าพวกเขาข้ามพรมแดนโดยซ่อนไปกับฝูงแกะ
"แล้วทุกอย่างจะดีเอง" เสียงคุณลุงบอกเศร้า ๆ
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
นั่นคือเหตุทั้งมวลที่นักปฏิวัติก่อนหน้านี้กลับกลายเปลี่ยนเป็นศัตรูของสาธารณรัฐที่ถูกสาปแช่ง
"คุณลุงอานูชต้องมารับหนูไม่ใช่หรือคะ?"
"..."
คุณแม่นิ่งเงียบทำหน้าตายคล้ายไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันเพิ่งจะถาม
"มีอะไรหรือคะ? คุณลุงต้องมารับหนูไม่ใช่หรือคะ?" ฉันมิวายรบเร้าถามคุณแม่
"เออ..."
"ใช่ไหมคะ?" ฉันมองหน้าคุณแม่รอฟังคำตอบอย่างคลางแคลงใจ
"ลุงเค้ากลับมอสโกว์ไปแล้วจ๊ะ"
"อะไรนะคะ"
ไม่นะ! นิทานหลอกเด็กเรื่องไปเที่ยวกลับมาอีกแล้ว...
"ลุงเค้าต้องรีบไป...ภรรยาลุงเค้าโทรมา ลุงเค้าขอให้แม่บอกลูก"
"ลุงเค้าไม่เคยแม้แต่จะพูดกับภรรยานะคะ"
ฉันท้วงประจวบกับเรากลับมาถึงบ้านพอดี ฉันเห็นคุณพ่อยืนกอดอกรออยู่แล้วที่หน้าบ้าน
"ลูกรัก! วันนี้คงสนุกนะที่โรงเรียน หนูโมโหหรือเปล่าลูก?"
"ลุงอานุชอยู่ไหนคะ?"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
"ลูกไม่กินอะไรเสียหน่อยหรือจ๊ะ" คุณพ่อถามขณะนั่งกินข้าวพร้อมกันสามคนพ่อแม่ลูก
"หนูไม่หิวค่ะ" ฉันตอบแล้วย้อนถามเรื่องที่คั่งค้างในใจต่อ "ทำไมลุงเค้าไม่อยู่บอกลาหนูคะ"
"ลุงเค้ารีบน่ะ รีบมากเลย"คุณพ่อตอบ
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
ฉันหลบไปนั่งคิดอะไรคนเดียวข้างถนน
'พระเจ้าอย่าปล่อยให้เขาตายนะคะ'
"พ่อว่าเราต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะ" เสียงคุณพ่อดังมาจากข้างหลัง
คุณพ่อมาอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
"เรื่องจริงก็คือพวกเขาจับลุงอานูชของลูกไป"
"หนูรู้..."ฉันหันไปตอบแล้วโผเข้าสวมกอดท่าน
"พ่อขา"
"จ๊ะ ลูกรัก"ท่านตอบและกอดฉันไว้
"ลูกอยากทำอะไรให้ลุงเค้าไหมล่ะ"
"ค่ะ!"ฉันรับคำทั้งน้ำตา
"ลุงอานูชเค้ามีสิทธิ์ให้คนเยี่ยมได้หนึ่งคนและคนนั้นก็คือลูกไงล่ะ"
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
ฉันยืนมองหน้ากระจกแล้วถามคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเยี่ยมคุณลุงที่เรือนจำ
"หนูแต่งตัวสวยพอหรือยังคะ"
"จ๊ะ" คุณแม่ตอบ
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
รถของเราเข้าไปจอดใกล้เรือนจำที่มีมีลวดหนามล้อมหนาแน่นและยามอารักขา
ฉะนเข้าไปเยี่ยมคุณลุงในห้องขังแต่เพียงลำพัง
"สิบนาทีนะ"
"เสื้อสวยจัง คนใส่ก็น่ารักด้วย"คุณลุงทักทายฉันเป็นคำแรก
ฉันเข้าไปนั่งที่หน้าตักคุณลุง
"หลานรู้ไหมว่าหลาให้เกียรติลุงมากที่มาเยี่ยมนะ" ท่านบอกแล้วก้มหน้ามาแนบกับศีรษะฉัน
"หลานเป็นเด็กน้อยที่ลุงอยากมีเสมอมานะลูก"
แล้วท่านก็เปลี่ยนมาพูดด้วยเสียงขึงขังว่า
"แต่หลานจะเห็นเองสักวันว่า พวสามัญชนจะปกครอง"
ฉันนิ่งฟังอย่างไม่เข้าใจ
"นี่จ๊ะ! ทำหงส์ขนมปังให้หนูอีกตัว ตัวนี้เป็นลุงของตัวแรกนะ"
ลุงอานูชยื่นหงส์ตัวใหม่ส่งให้ฉันแล้วเข้ามสวมกอดพร้อมรำพันว่า
"ดาวแห่งชีวิตของลุง..."
888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พบกับลุงอานูชที่รักของฉัน
จากนั้น ก็มีหนังสือพิมพ์พาดหัวเรื่องประหารคุณลุงผู้เป็นจารชนรัสเซีย
"ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง..."
ฉันบอกกับตัวเองระหว่างนอนร้องไห้บนเตียง
"มาร์จีมีปัญหอะไรหรือเปล่า" เสียงพระเจ้าแว่วลอยมา
"หุบปากเลยท่าน! ไสหัวออกไปจากชีวิตหนู!!! หนูไม่อยากเห็นท่านอีกแล้วล่ะ"หนูลุกขึ้นมาตะคอกใส่พระเจ้าด้วยความโกรธ
"ออกไป"
แล้วฉันก็เคว้งคว้างไร้สิ่งที่จะไขว่คว้าจับไว้ ... อะไรเล่าจะแย่ไปกว่านั้น
"มาร์จิ วิ่งไปที่ใต้ถุน เราถูกทิ้งระเบิดแล้ว"
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 22:08:33
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:53:29
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:46:53
แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:43:48
จากคุณ :
ส.ค.ศ. ๔๙๑๔
- [
17 ก.ย. 46 21:39:25
]