. . . เปอร์เซโปลิส . . . ( Persepolis) . . .๑๐

                                            แกะ

    ช่วงที่ลุงอานุชมาพักกับเรา ฉันได้ยินเถียงกันแต่เรื่องการเมืองของชนชั้นสูง

    "เหลือเชื่อเลย การปฏิวัติเป็นการปฏิวัติของฝ่ายซ้ายแต่พวกสาธารณรัฐต้องการให้เรียกว่าเป็นพวกอิสลาม" คุณลุงอานุชบ่นให้ฉันกับพ่อฟังในวันหนึ่ง

    "ไม่สำคัญหรอก ยังไงทุกอย่างก็ต้องออกมาดี  ประเทศที่ประชากรกว่าค่อนกว่าครึ่งไม้รู้หนังสือ ก็ยากที่จะรวบรวมผู้คนให้เข้ากับมาร์กได้ สิ่งที่จะรวมพวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวมีเพียงลัทธิชาตินิยมหรือว่าทางศาสนาเท่านั้น. . ."

    พูดมาถึงตอนนี้คุณลุงก็ลุกขึ้นมายกไม้ยกมือเหมือนกำลังปลุกระดมมวลชน พลางพูดว่า

    "แต่พวกผู้นำทางศาสนาไม่รู้จักการปกครองบ้านเมือง พวกเขาน่าจะกลับโบสถ์ไป  ชนชั้นกรรมาชีพจะปกครองเอง  ห้ามไม่ได้หรอก นั่นคือสิ่งที่เลนินกล่าวไว้ใน"รัฐและการปฎิวัติ" "

    บางครั้งฉันก็เล่าความคิดของตัวเองให้ทั้งสองท่านฟัง

    "ทีวีบอกว่าประชากรร้อยละเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าออกเสียงให้กับสาธารณรัฐอิสลาม"

    "ได้ยินไหมอานุช นายรู้รึยังว่าคนของเราช่างโง่เขลาเบาปัญญาขนาดไหน การเลือกตั้งนั่นมันจัดฉากขึ้น  แล้วพวกเขายังเชื่อผลเลือกตั้งถึงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์อีก สำหรับฉัน ไม่มีใครเลยที่รู้จักลงคะแนนเสียงให้สาธารณรัฐอิสลามแล้วคะแนนพวกนั้นมันมาจากไหนกัน ก็มาจากก้นพวดมันนั่นแหละ" คุณพ่อพูดใส่อารมณ์ไม่ยั้งเลย

    " หนูไม่ผิดนะคะ  ทีวีต่างหาก โฮโฮ"

    "ใจเย็น ๆ น่า อีไบ เธอยังเด็ก ก็พูดไปตามที่ได้ยินมาเท่านั้นเอง"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888


    "จะเล่นด้วยกันเปล่า?" ฉันเอ่ยทักเพื่อนสองคนแรกที่พบหลังออกพ้นบ้านมา

    "เขากำลังจะไปอเมริกา" เพื่อนคนหนึ่งบอก

    "ไปอเมริกา? ไปทำไม" ฉันถามเพื่อนคนที่จะไปอเมริกา

    "คุณพ่อคุณแม่ฉันบอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของสาธารณรัฐอิสลาม ไปเสียจะดีกว่า"

    "แต่ผู้นำทางศาสนาพวกนั้นงี่เง่า คงไม่อยู่ตลอดไปหรอก"ฉันออกความเห็น

    "ใช่" เพื่อนอีกคนพลอยเห็นตาม

    "คุณพ่อบอกว่าไม่มีใครเห็นถึงอันตราย"

    "แล้วเมื่อไหร่เธอจะไปล่ะ"

    "อีกราวหนึ่งเดือน"

    "อ้อ"

    ฉันว่าฉันชอบเด็กชายคนนี้จริง  ๆ  . . .

    "สหรัฐนี่ยอดเยี่ยมเลย ในที่สุดนายก็จะได้พบบรูซ ลี ตัวต่อตัวแล้ว" เพื่อนอีกคนว่า

    "ใช่ นั่นก็อาจจะดี. . ."

    "บรูซ ลี ตายแล้ว . . ." ฉันพูดเสียงอ่อย ๆ

    แท้จริงแล้ว ฉันชอบเขามาก ๆ

    มันเป็นวันสิ้นโลก. . .

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ภายหลังที่เพื่อนของฉันเดินทางจากไป ครอบครัวข้างดีของฉันก็อพยพไปจากประเทศด้วย

    'ขณะนี้เรียกขึ้นเครื่องบินเที่ยว๖๗๐๒ ไปลอสแองเจลิส ประตูที่ ๒๖ ๆ'

    ในรถระหว่างทางกลับบ้าน

    คุณแม่เอ่ยขึ้นว่า "บางทีเราควรไปเหมือนกัน"

    คุณพ่อถือพวงมาลัยขับรถอยู่ตอบมาว่า ถ้างั้นฉันจะได้เป็นคนขับรถแท๊กซี่แล้วเธอเป็นสาวใช้ทำความสะอาดงั้นสิ"

    "คาเวฮ์เพื่อนหนูไปสหรัฐอเมริกาเหมือนกันค่ะ"

    "อย่าห่วง ทุกคนที่อพยพไปจะกลับมา พวกเขาแค่กลัวการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น" คุณพ่อปลอบ

    "หวังว่าคงเป็นอย่างนั้นนะ" คุณแม่บอก

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ในห้องรับแขกที่บ้าน

    คุณแม่บ่นออกมาว่า

    "ฉันกลัวจริง ๆ เลย พี่อานุช"

    "ไม่ต้องกังวลน่ะ ทาจิ มันก็เกมือนการปฏิวัติทั้งหลายนั่นแหละ นี่เป็นช่วงปรับตัวแค่นั่นเอง"

    . . .กริ๊ง ๆ . .

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นฉะนจึงเดินไปรับ

    "พ่อขา ของพ่อค่ะ"

    "อะไรนะ" คุณพ่อร้องถามคนที่ปลายสายอีกทางหนึ่ง.

    "เกิดอะไรขึ้นคะ" คุณแม่กระซิบถาม

    คุณพ่อวางหูโทรศัพท์ลงแล้วทรุดลงก้มหน้าร้องไห้

    "คุณแม่เสีย ๆ แล้วหรือคะ" คุณแม่โน้มตัวไปถาม

    "พ่อคะ"ฉันเขย่าตัวคุณพ่อ

    "อะไรกันน่ะ" คุณลุงเดินเข้ามาถาม

    "โมเชน . . . มีคนเจอเขาจมน้ำตาย . . . ในอ่างอาบน้ำ" คุณพ่อหันไปบอกคุณแม่

    "อะไรกัน? ที่ไหน?" คุณแม่ถามด้วยหน้าไม่สู้ดี แล้วตะโกนร้องฟูมฟายว่า

    "ฆาตกร ๆ"

    คุณแม่ฉันพูดถูกที่เชื่อว่ามันเป็นฆาตกรรม . . . เมื่อพวกเขาพบศพ มีแต่ หัวเท่านั้นที่จมอยู่ใต้น้ำ

    "แล้วทุกอย่างจะดีเอง" คุณลุงอานุชปลอบใจ

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    หลังจากโมเชนแล้ว ก็ถึงคราวเซียมัค

    ชายสวมชุดดำโพกหน้าปิดปากสามคนไปถามหาเขา

    'นี่บ้านเซียมัค จารีใช่เปล่า'

    'ค่ะ' น้องสาวของเขายื่นหน้าออกนอกประตูมาตอบ

    เจ้าคนชุดดำโพกหน้าปิดปากคว้าคอเธอแล้วกล่าวว่า

    'พวกเราคือเทวทูตแห่งความยุติธรรม'

    น้องสาวของเขาถูกสังหารที่บ้านเขา


    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    "คุณรู้ไหมว่าเซียมัคกับครอบครัวอยู่ไหนแล้วตอนนี้ "คุณแม่ถามคุณพ่อที่โต๊ะอาหาร

    "กะ ลาลี" ฉันเสริม

    "ก็ไม่รูอะไรมากไปกว่าเธอหรอก แต่พวกเขาต้องมที่หลบซ่อนที่ไหนสักแห่ง"

    ภายหลังเราได้ข่าวว่าพวกเขาข้ามพรมแดนโดยซ่อนไปกับฝูงแกะ

    "แล้วทุกอย่างจะดีเอง" เสียงคุณลุงบอกเศร้า ๆ

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    นั่นคือเหตุทั้งมวลที่นักปฏิวัติก่อนหน้านี้กลับกลายเปลี่ยนเป็นศัตรูของสาธารณรัฐที่ถูกสาปแช่ง

    "คุณลุงอานูชต้องมารับหนูไม่ใช่หรือคะ?"

    "..."

    คุณแม่นิ่งเงียบทำหน้าตายคล้ายไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันเพิ่งจะถาม

    "มีอะไรหรือคะ? คุณลุงต้องมารับหนูไม่ใช่หรือคะ?" ฉันมิวายรบเร้าถามคุณแม่

    "เออ..."

    "ใช่ไหมคะ?" ฉันมองหน้าคุณแม่รอฟังคำตอบอย่างคลางแคลงใจ

    "ลุงเค้ากลับมอสโกว์ไปแล้วจ๊ะ"

    "อะไรนะคะ"

    ไม่นะ! นิทานหลอกเด็กเรื่องไปเที่ยวกลับมาอีกแล้ว...

    "ลุงเค้าต้องรีบไป...ภรรยาลุงเค้าโทรมา ลุงเค้าขอให้แม่บอกลูก"

    "ลุงเค้าไม่เคยแม้แต่จะพูดกับภรรยานะคะ"

    ฉันท้วงประจวบกับเรากลับมาถึงบ้านพอดี ฉันเห็นคุณพ่อยืนกอดอกรออยู่แล้วที่หน้าบ้าน

    "ลูกรัก! วันนี้คงสนุกนะที่โรงเรียน  หนูโมโหหรือเปล่าลูก?"

    "ลุงอานุชอยู่ไหนคะ?"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    "ลูกไม่กินอะไรเสียหน่อยหรือจ๊ะ" คุณพ่อถามขณะนั่งกินข้าวพร้อมกันสามคนพ่อแม่ลูก

    "หนูไม่หิวค่ะ" ฉันตอบแล้วย้อนถามเรื่องที่คั่งค้างในใจต่อ "ทำไมลุงเค้าไม่อยู่บอกลาหนูคะ"

    "ลุงเค้ารีบน่ะ รีบมากเลย"คุณพ่อตอบ

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888


    ฉันหลบไปนั่งคิดอะไรคนเดียวข้างถนน

    'พระเจ้าอย่าปล่อยให้เขาตายนะคะ'

    "พ่อว่าเราต้องคุยกันหน่อยแล้วล่ะ" เสียงคุณพ่อดังมาจากข้างหลัง

    คุณพ่อมาอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

    "เรื่องจริงก็คือพวกเขาจับลุงอานูชของลูกไป"

    "หนูรู้..."ฉันหันไปตอบแล้วโผเข้าสวมกอดท่าน

    "พ่อขา"

    "จ๊ะ ลูกรัก"ท่านตอบและกอดฉันไว้

    "ลูกอยากทำอะไรให้ลุงเค้าไหมล่ะ"

    "ค่ะ!"ฉันรับคำทั้งน้ำตา

    "ลุงอานูชเค้ามีสิทธิ์ให้คนเยี่ยมได้หนึ่งคนและคนนั้นก็คือลูกไงล่ะ"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ฉันยืนมองหน้ากระจกแล้วถามคุณแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเยี่ยมคุณลุงที่เรือนจำ

    "หนูแต่งตัวสวยพอหรือยังคะ"

    "จ๊ะ" คุณแม่ตอบ

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    รถของเราเข้าไปจอดใกล้เรือนจำที่มีมีลวดหนามล้อมหนาแน่นและยามอารักขา

    ฉะนเข้าไปเยี่ยมคุณลุงในห้องขังแต่เพียงลำพัง

    "สิบนาทีนะ"

    "เสื้อสวยจัง คนใส่ก็น่ารักด้วย"คุณลุงทักทายฉันเป็นคำแรก

    ฉันเข้าไปนั่งที่หน้าตักคุณลุง

    "หลานรู้ไหมว่าหลาให้เกียรติลุงมากที่มาเยี่ยมนะ" ท่านบอกแล้วก้มหน้ามาแนบกับศีรษะฉัน

    "หลานเป็นเด็กน้อยที่ลุงอยากมีเสมอมานะลูก"

    แล้วท่านก็เปลี่ยนมาพูดด้วยเสียงขึงขังว่า

    "แต่หลานจะเห็นเองสักวันว่า พวสามัญชนจะปกครอง"

    ฉันนิ่งฟังอย่างไม่เข้าใจ

    "นี่จ๊ะ! ทำหงส์ขนมปังให้หนูอีกตัว ตัวนี้เป็นลุงของตัวแรกนะ"

    ลุงอานูชยื่นหงส์ตัวใหม่ส่งให้ฉันแล้วเข้ามสวมกอดพร้อมรำพันว่า

    "ดาวแห่งชีวิตของลุง..."

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้พบกับลุงอานูชที่รักของฉัน

    จากนั้น ก็มีหนังสือพิมพ์พาดหัวเรื่องประหารคุณลุงผู้เป็นจารชนรัสเซีย

    "ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง..."

    ฉันบอกกับตัวเองระหว่างนอนร้องไห้บนเตียง

    "มาร์จีมีปัญหอะไรหรือเปล่า" เสียงพระเจ้าแว่วลอยมา

    "หุบปากเลยท่าน! ไสหัวออกไปจากชีวิตหนู!!! หนูไม่อยากเห็นท่านอีกแล้วล่ะ"หนูลุกขึ้นมาตะคอกใส่พระเจ้าด้วยความโกรธ

    "ออกไป"

    แล้วฉันก็เคว้งคว้างไร้สิ่งที่จะไขว่คว้าจับไว้ ... อะไรเล่าจะแย่ไปกว่านั้น

    "มาร์จิ วิ่งไปที่ใต้ถุน เราถูกทิ้งระเบิดแล้ว"  

    นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 22:08:33

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:53:29

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:46:53

    แก้ไขเมื่อ 17 ก.ย. 46 21:43:48

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 17 ก.ย. 46 21:39:25 ]