@^0^@เรื่องรักวันรับน้อง ตอนที่ 4/1 ค่ายดูนก(จะพบนกหรือจะพบรัก) @^0^@


    @^0^@เรื่องรักวันรับน้อง ตอนที่ 4/1  ค่ายดูนก(จะพบนกหรือจะพบรัก) @^0^@



    "มาแต่เช้าเชียวนะแป้ง " อ้อทักเพื่อนสามที่ยืนอ่านข้อความบนบอร์ดใต้ถุนคณะ

    " อืมม มากับพี่ป้องน่ะ  "

    " มิน่าล่ะ  อ่านไรเหรอ " อ้อถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาแทบติดบอร์ด

    " ไปค่ายกันไหมอ้อ  ค่ายนี้น่าสนใจนะ  อาทิตย์หน้านี่เอง ดูสิ "
    แป้งถามอ้อพลางชี้มือไปที่ข้อความบนบอร์ด

    " ค่ายอะไร  ไหนดูสิ " อ้อถามพลางขยับเข้าไปใกล้บอร์ด
    พร้อมแกล้งใช้สะโพกของตนแกล้งกระแทกเพื่อนสาว

    " โอ้ย ! แกแกล้งฉันแต่เช้าเชียวนะ ยัยอ้อ " แป้งโวย

    " เออ แล้วจะทำไม ห้ามด่านะเว้ย ไม่งั้นฉันไม่ไปค่ายกับแกแน่ "
    คำขู่ของเพื่อนทำให้แป้งปิดปากเงียบ

    " แกจะไปค่ายดูนกเนี่ยนะ " อ้อหันมาถามเสียงสูง

    "ดูแถวนี้ก็ได้ โน่นไง  ดูดิ นั่นนกเอี้ยง  นกเขา นกกระจอก "
    อ้อบอกเพื่อนพลางชี้มือสะเปะสะปะไปตามต้นไม้ตามถนนข้างทางที่มีนกเกาะอยู่
    บ้างหาเศษอาหารกิน

    "ทำไมยะ ไปไม่ได้หรือไง ไม่เห็นเขาเขียนไว้เลยว่า ห้ามคนสวยอย่างฉันไป
    อีกอย่างมันเหมือนกันที่ไหน ดูนกในกรง ดูนกในเมือง กะในป่าน่ะ บรรยากาศมันต่างกัน "

    " ย่ะ แม่นักอนุรักษ์ธรรมชาติ แล้วหล่อนน่ะ สวยย่ะ แหวะ ! สวยตายเลย "
    อ้อประชด พร้อมมองเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า

    " ว่าไง จะไปหรือเปล่า ไปศุกร์กลับวันจันทร์ "

    " น่าสนนะ วันจันทร์หยุดด้วยดิ หยุดตั้ง 3 วันไม่รู้จะทำอะไร " อ้อชักเห็นด้วย

    " เขาให้ไปลงชื่อที่ชมรมน่ะ  เดี๋ยวเย็นนี้เราไปลงชื่อกันเลย " แป้งรีบสรุป

    " ฉันบอกแกเมื่อไหร่ ว่าฉันจะไป " อ้อท้วง

    " ไปค่ายน่ะ เที่ยวฟรี  ข้าวฟรี ได้เพื่อนใหม่ แกเรียนจบไปหาอะไรดีๆฟรีๆ อย่างนี้ยากนา "
    แป้งกล่อม

    " นี่เทอมแรกยังไม่จบเลย แกคิดเผื่ออีก 4 ปีเชียว "

    " ความคิดฉันก้าวไกลเสมอแหละเพื่อน "

    " เออ เถียงกะแก ไม่เคยชนะหรอก "

    " ขอบใจที่ชม " คนโดนเพื่อนค่อน ยังลอยหน้าลอยตาพูด

    " ฉันด่าโว้ย ไอ้แป้ง " อ้อบอกเพื่อนแล้วเงียบ

    เหตุผลข้อหนึ่งที่ต้องเงียบคือ เถียงต่อไปก็เท่านั้น ใครที่ไหนจะเถียงสู้มันได้  
    อีกข้อนั้นคือ อายต่อสายตาผู้คนที่เดินเข้าออกคณะ ด้วยเสียง 2 สาวที่คุยกันนั้นดังมิใช่เล่น




    " ชมรมที่แกว่าน่ะ มันห้องไหน ทำไมห้องมันเยอะอย่างนี้ว้า "อ้อถามแป้งที่เดินลิ่วนำหน้าไปไกล

    " โอ้ย! " แป้งร้อง เมื่อร่างบางปะทะเข้ากับร่างใครบางคนที่เดินเลี้ยวออกมา

    " เป็นไรหรือเปล่าน้อง  ขอโทษด้วยพี่รีบน่ะ " เสียงคุ้นหูดังขึ้น

    คำว่า ' ไม่เป็นไร ' ที่กำลังจะเปล่งออกจากริมฝีปากบางสวยได้รูป
    ต้องถูกกลืนเก็บเข้าไปไว้ข้างในเหมือนเดิม  เมื่อเห็นหน้าคู่กรณีชัดๆ

    " เจ็บดิ เดินยังไงไม่ดูตาม้า ตาเรือ " แป้งแหว

    วินทร์มองคนตรงหน้าด้วยอาการงงๆ
    หน้าตาท่าทางหล่อนเมื่อสักครู่ไม่ได้บ่งบอกเลยว่าจะเอาเรื่องอย่างตอนนี้

    " ก็บอกแล้วว่ารีบ  แล้วเราล่ะ  เดินยังไงไม่ดูตาเรือ ตาม้า " วินทร์ถามกลับอย่างล้อเลียน

    " ที่นี่  มันบนตึก ไม่มีป่า ไม่มีน้ำ แล้วจะให้ไปดูตาม้า ตาเรือที่ไหนยะ "
    คนตัวเล็กเอามือเท้าสะเอวเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า
    หากไม่คิดสักนิดว่า คำที่ตนเองย้อนกลับไปนั้น คนที่เริ่มใช้ก่อนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  

    วินทร์มองท่าทางกวนๆนั้นอย่างขำๆ
    หากยังไม่ทันที่จะเอ่ยปากต่อคำ  เสียงเล็กๆอีกเสียงก็ดังขึ้น

    " เป็นไรแป้ง  อ้าว! พี่วินทร์ หวัดดีค่ะ " อ้อทักวินทร์

    " หวัดดีครับ จะไปไหนกันเหรอ "  

    " ชมรมดูนกค่ะ  พี่ทราบไหมคะ  ห้องไหน " อ้อทั้งตอบและถาม

    " ทางนี้ แล้วเลี้ยวขวา ใกล้ๆกับชมรมชาวเหนือครับ " วินทร์ตอบพลางชี้มือบอกทางรุ่นน้อง

    " จะไปค่ายดูนกกันเหรอ " วินทร์ถามขึ้นลอยๆ หากตาจับที่คนร่างบาง คู่กรณีสดๆร้อนๆ
     หากคนร่างบางหันไปมองอีกทางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ยอมตอบคำถาม

    " ค่ะ  แป้งอยากไป "  อ้อตอบแทนเพื่อน

    " ดี ไปแล้วจะสนุก " วินทร์สนับสนุน

    " พี่วินทร์เคยไปหรือคะ " อ้อถามต่อ

    " เคย " คำตอบสั้น ไม่ขยายความต่อว่านอกจากเคยไปแล้ว ยังเคยจัดค่ายเอง
    รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการขอตั้งชมรม

    " ไปล่ะนะ พี่รีบ แล้วรีบไปลงชื่อซะ เขารับคนไม่เยอะนะ 30 คนเอง  
    ขอโทษด้วยที่เดินชน  เวลาผมผิด  ผมยอมรับผิดเสมอ "

    ประโยคหลัง ชายหนุ่มหันมาพูดกับคนตัวเล็กที่ยืนเงียบ ก่อนเดินจากไป  
    หากวินทร์จะเหลียวกลับมามองสักนิดจะเห็นดวงตาดำสวยมีแววโกรธกรุ่น  

    หนอย! จะไปก็ไปสิ ยังมาฝากประโยคเหน็บแนมไว้ให้คิดอีก  
    ก็รู้ตัวอยู่ว่าผิด เดินไม่ดูทางเพราะมัวแต่มองหาป้ายชื่อชมรม
    แต่พอเห็นหน้า อีตาบ้านั่น รู้สึกกวนอารมณ์  อยากเถียง  อยากเอาชนะอยู่ร่ำไป


    วินทร์เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดี ขณะไขกุญแจห้องโปรเจ็ค
    ไหล่ขวาก็โดนชกเบาๆด้วยหมัดของพล

    " เฮ้ย ! ไปเจออะไรดีวะ  ผิวปากซะลั่น เดี๋ยวพ่อเอ็งก็ออกมาด่าหรอก "
     พลเตือนเพื่อน ด้วยตนเองเคยมีประสบการณ์มาแล้ว

    วันนั้นเขาอารมณ์ดี เหตุเพราะสาวที่เขาเพียรพยายามตามจีบตามตื๊อ
    ยอมตกปากรับคำไปดูหนังด้วย  จึงแหกปากร้องเพลงลั่น หากยังไม่ทันจบท่อนแรกด้วยซ้ำ
    ประตูห้องอาจารย์หัวหน้าภาควิชาก็เปิดออก
    'นี่ตึกเรียนนะคุณ ไม่ใช้เวทีคอนเสิร์ต อยากเป็นนักร้องแทนวิศวกรใช่ไหม
    ผมจะได้เร่งทำเรื่องให้ '
    เสียงเรียบๆ ใบหน้ายิ้มๆ หากท่าทางดูเอาจริงอย่างคำที่พูด ทำให้พลต้องรีบหุบปาก พร้อมยกมือไหว้  
    ' ขอโทษคร้าบ  ผมยังอยากเป็นวิศวะอยู่เหมือนเดิมครับ แต่ไม่ต้องเร่งก็ได้  ผมรอเพื่อนๆดีกว่าครับ '
    พลตอบแล้วรีบผลุบเข้าห้องโปรเจ็ค

    " เอ็งจะไปค่ายหรือเปล่า มีน้องเขาถามถึงเอ็งด้วย " วินทร์ไม่ตอบหากถามเพื่อนที่เดินตามเข้ามาในห้อง

    " สาวที่ไหนถามถึงข้าวะ " พลถามต่อท่าทางตื่นเต้น

    " น่ารักด้วยนะเว้ย " วินทร์ใส่ไฟต่อ

    " ถามว่าไง คร่ำครวญโหยไห้เพราะคิดถึงข้าเชียว เสน่ห์ข้ายังแรงใช้ได้แฮะ "
     พลกระหยิ่มยิ้มอย่างภูมิใจ

    " เออ แรงว่ะ  น้องต้นไง  ถามข้าว่า  พี่วินทร์ขา  พี่พลจะไปค่ายด้วยไหมฮะ
    ต้นคิดทึ้ง คิดถึง ไม่ค่อยได้เจอพี่พลเลยฮะ "  พูดจบวินทร์ก็หัวเราะลั่น

     ใบหน้าเปื้อนยิ้มของพลหายไปอย่างรวดเร็ว
    ด้วยต้นที่วินทร์กล่าวถึงนั้น คือรุ่นน้องที่ตัวเป็นชายหากใจเป็นหญิง

    " เล่นแรงน่ะเอ็ง บอกไปเลยโว้ย  ข้าไม่ไป "

    " เอ็งจะใจร้ายกับน้องเขาไปถึงไหน น้องเขาคลั่งไคล้เอ็งออกขนาดนั้น
     เอ็งก็ยอมๆเอาใจน้องเขาหน่อย " วินทร์ยังกล่อมเพื่อน

    " ไอ้.... เอ็งหุบปากไปเลย เอ็งก็ปลอบใจมันแทนแล้วกัน
    ทีเมื่อก่อนเห็นมันตามเอ็งยิกๆ พี่วินทร์ฮะ  ต้นอย่างนั้น ต้นอย่างนี้ ไหงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ข้าได้วะ "

    " ไม่รู้โว้ย ไป ข้าจะทำงาน  ถ้าอยู่ต่อก็อย่าชวนคุย พรุ่งนี้ต้องเอาผลไปให้แม่ดู
    อาทิตย์นี้ยังไม่คืบหน้าเลย "   วินทร์บ่นถึงโปรเจ็คที่ทำ

    " เออ ไปก็ได้ว่ะ ค่ายข้าไปด้วยนะ ได้ข่าว รุ่นน้องไปเยอะ
    เผื่อฟลุ้คไปดูนกแต่ได้แฟนกลับมาโว้ย ฝากกราบแม่เอ็งด้วยล่ะกัน โชคดีนะเว้ย พรุ่งนี้น่ะ "

    แม่ของไอ้วินทร์คืออาจารย์ที่ภาควิชา เป็นหญิงเก่งของคณะ มีตำแหน่งเป็นรองคณบดี  
    หากดุ โหด จนเป็นที่เลื่องลือของนักศึกษา งานที่ทำต้องเนี้ยบ เรียบร้อย
    ผลสรุปที่ได้ต้องชัดแจ้ง ตรงเป้าเข้าประเด็น ด้วยเหตุนี้ทำให้นักศึกษาน้อยคนนัก
    ที่เข้าไปขอให้อาจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ยกเว้นไอ้วินทร์

    พลเคยถามเพื่อน  ทำไมเอ็งชอบทำแต่เรื่องยากๆ
    หากคำตอบที่ได้คือ  ท้าทาย ทำงานกับคนเก่งเราจะเก่งตามไปด้วย
    ก็จริงของมัน งานที่เพื่อนๆลงความเห็นกันว่ายาก
    หากมันก็สามารถทำสำเร็จลุล่วงด้วยดีเสมอ มีบ้างที่บ่น  มีบ้างที่ท้อ
    หากสุดท้ายคำว่าชัยชนะก็เป็นของมัน

    เมื่อพลออกไปจากห้องวินทร์จึงเริ่มลงมือทำงาน
    ข้างกายมีแท่งเหล็กวางเรียงรายเต็มไปหมด เขาต้องทดสอบคุณสมบัติของเหล็กพวกนี้
    เพื่อนำไปใช้ในงานก่อสร้าง  การทนแรงดันแรงกระแทก  การทนความร้อน และอื่นๆอีก
    หากไม่นานใจก็แวบนึกถึงคำเพื่อน  อารมณ์ดี  นั่นสิ ทำไม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ถึงชั่วโมง
    เขายังถกเถียง คร่ำเครียดกับปัญหาต่างๆของค่ายกับน้องๆที่ชมรม  
    แล้วเดินออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก  

    หากคนตัวเล็กที่ยืนเท้าสะเอวเถียงเขาฉอดๆ นั้น
    ทำให้เขาหัวเราะได้ ยิ้มได้  ยัยแก่น ! มีอิทธิพลต่อใจเขาขนาดนี้เชียวหรือ

    วินทร์ได้แต่ถามตัวเอง  หากมิเคยได้รับคำตอบสักที  
    ด้วยทุกครั้งเขาจะตอกฝังคำว่า  ' อย่า ' เข้าไปจนแน่นติดหัวใจ

    ความรักที่ผิดหวัง หากใครไม่โดนกับตัว คงไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร  
    วินทร์ไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนั้นเกิดกับเขาอีก  
    หากก็ลืมนึกไปว่า  ยิ่งหนี สิ่งนั้นยิ่งตามติด




    " แป้งๆ ทางนี้ " อ้อยืนโบกมือเรียกเพื่อนที่กำลังข้ามถนนมายังรถที่จอดเพื่อรอรับนักศึกษาที่ไปค่าย

    " ทำไมมาช้า พี่ป้องมาส่งน่าจะเร็วนะ " อ้อตั้งข้อสงสัย
    เพราะเห็นเพื่อนก้าวลงจากรถซีอาร์วีสีดำที่จอดอยู่อีกฟากของถนน

    " ก็คุณพระมารดาน่ะสิ สั่งแล้วสั่งอีก ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้นะ "

    " ก็เขาห่วง "

    " ก็รู้จ้า "

    " เออ รู้ก็ดี แล้วอย่าบ่นเดี๋ยวเขาจะน้อยใจ "

    " จ้า เอากระเป๋าไปเก็บบนรถดีกว่า อีก 10 นาทีเอง " แป้งหิ้วกระเป๋าจะเดินไปที่รถ

    " ไปลงทะเบียนเอาปลอกคอก่อนไป๊ โน่นน่ะ  เดี๋ยวเราเอากระเป๋าไปให้ " อ้อบอกเพื่อน

    " ขอบใจจ้า "

    " ไม่ต้องหวานมาก ฉันขนลุกว่ะ "

    " เออ "แป้งตอบแล้วรีบวิ่งไปที่โต๊ะลงทะเบียน

    "ไอ้แป้งเอ๊ย " อ้อได้แต่พึมพำอย่างปลงๆที่มีเพื่อนอย่างนี้

    บรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความสนุก  บางครั้งร้องเพลง ปรบมือ ตีกลอง
    บางครั้งพี่ๆก็ออกมาเล่าเรื่องเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับค่ายที่ตนเคยไป
    มีเสียงแซวกันไปแซวกันมาเรียกเสียงหัวเราะครื้นเครงแก่สมาชิกค่าย

    บางคราวก็แทรกวิชาการตามด้วยการย้ำถึงสิ่งของที่พี่สต๊าฟของค่ายบอกให้เตรียมมา
    อันประกอบด้วย รองเท้าผ้าใบ เสื้อผ้าสีที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เช่น เทา กากี เขียว
    หมวกกันแดด  ปากกา และสมุดเล่มเล็กๆสำหรับบันทึกว่าเจอนกอะไร  
    เจอที่ไหน  เวลาเท่าไหร่  สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร และพฤติกรรมของนกตอนที่เจอ
    แล้วยังแถมท้ายบอกอีกว่า หากใครมีฝีมือวาดรูปได้สวยก็วาดลงไปได้เลย

    @^0^@  เรื่องรักวันรับน้อง  @^0^@

    จากคุณ : อุณากรรณ - [ 21 ก.ย. 46 22:53:56 A:172.183.150.187 X: ]