เทพธิดากับปีศาจ ตอนที่ 4 - สิ่งที่หวนกลับ



    8 ปีต่อมา


    “สวัสดี ฉันชื่ออาจ” ภาพอาจตอนเด็กที่กำลังยืนยิ้มพร้อมกับยื่นมือเข้ามาช่วยพยุง

    “ถ้าเธอไม่รังเกียจที่จะมีฉันเป็นเพื่อน ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก” ภาพของอาจที่หันมายิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร แต่ฉับพลัน ภาพก็เปลี่ยนไปเป็นภาพตอนที่อาจเตะเก้าอี้เต็มแรงในห้อง ภาพตอนที่เขานั่งชิงช้าแล้วมองมาที่เธอและภาพที่เขาหันกลับมาพูดกับเธอด้วยสายตาเย็นชา

    “สิ่งที่ฉันหวังที่สุดในตอนนี้คือตั้งแต่นี้ไป ฉันจะไม่เจอกับเธออีก”

    กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!!

    “!!!”

    น้ำสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาด้วยมีหน้างุนงงระคนตกใจ หญิงสาวค่อยๆเอื้อมมือไปกดปุ่มนาฬิกาปลุกเพื่อให้มันเงียบ เธอลุกขึ้นมานั่งพลางหวนคิดถึงความฝันที่เพิ่งผ่านมา ความฝันที่เป็นเรื่องในอดีต อดีตที่เธอไม่อยากที่จะคิดถึงมัน เธอคิดไปเรื่อยแล้วก็ต้องสะดุ้งตัวเองให้ตื่นจากภวังค์แห่งความหลัง เธอหลับตาแล้วสั่นศีรษะ พยายามลืมภาพที่ติดตาแม้จะรู้ว่าทำได้ยากเย็นเต็มที ตำหนิตัวเองที่เผลอคิดถึงอดีต

    ‘เพราะความฝันแท้ๆ บ้าจริงเชียว’ น้ำลืมตาขึ้นก่อนจะตัดสินใจเตรียมตัวไปทำงาน



    >>>>>



    น้ำทำงานเป็นผู้ออกแบบสินค้ามียี่ห้อของบริษัท เนเซ่กรุ๊ป จำกัด ซึ่งก็ถือว่าเป็นบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ตำแหน่งของเธอเลื่อนขั้นขึ้นมาเพราะความสามารถและความขยันที่มี น้ำพยายามหาเงินเลี้ยงชีพด้วยตนเอง ไม่พึ่งใคร แล้วเธอก็ทำสำเร็จเสียด้วย

    น้ำเดินเข้ามาในตัวบริษัทแล้วเลี้ยวตรงหัวมุมเพื่อที่จะขึ้นลิฟต์ เธอชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นกลุ่มผู้หญิงข้างหน้า

    ‘ยัยกลุ่มนี้อีกแล้ว เจอเรื่องน่าหงุดหงิดแต่เช้าเชียว’

    พยายามทำไม่รู้ไม่ชี้เดินผ่านกลุ่มนั้นไปกดปุ่มลิฟต์ นึกภาวนาให้มันมาเร็วๆ แต่โชคดันไม่เข้าข้างเพราะลิฟต์มันยังติดอยู่ชั้นบนสุด น้ำหน้าหงิกทันทีแล้วเสียงอีกาก็ดังขึ้น

    “อุ๊ย! ตายแล้ว เพิ่งสังเกตเห็น นึกว่าใคร คุณน้ำทิพย์นี่เอง”สาวที่คิดว่าน่าจะสวยถ้าตัดปากออกได้ตามความคิดของน้ำเริ่มเจื้อยแจ้วก่อน

    “น้ำทิพย์....หรือน้ำคลองกันแน่คะ”เสียงที่สองโพล่งออกมา นึกอยากมีพลังวิเศษทำให้ลิฟต์มันลงมาอย่างเร็วที่สุด

    “ต๊าย!! ไม่ใช่ซะหน่อย พูดซะน่าเกลียด น้ำเขาเก่งหลายเรื่องนะ ไปว่าซะเสีย”

    ‘....ชั้นที่10........ลงมาที่ชั้นที่9ได้แล้ว’น้ำคิดในใจ

    “จริงเหรอ ไม่บอกก็ไม่รู้นะเนี่ย ตกลง...เขาเก่งเรื่องอะไรเหรอ”

    ‘...ชั้นที่8.......ชั้นที่7.......’ เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ สมองพยายามจดจ่อกับการนับ...ชั้นที่7 ค่อยๆลงมาที่ชั้นที่6....

    “จับผู้ชายน่ะสิ จับลูกชายท่านประธานบริษัทซะด้วย”

    สติขาดผึงทนที ไม่คิดจะสนใจเจ้าลิฟต์บ้าที่บัดนี้ค้างเติ่งอยู่ชั้นที่6นั่นแล้ว น้ำหันไปเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้นินทาเธอซึ่งๆหน้า (คงจะหลัง) พวกนั้นเงียบกริบเหมอนไม่มีใครพูดอะไรเมื่อกี้ เธอไล่สายตามองทีละคนก่อนจะยิ้มเหยีด

    “เหลือเชื่อว่าอีกาก็หุบปากเป็น”

    ผลที่ไม่แปลกใจว่าจะเกิดแม้ไม่อยากให้เกิด แต่ละคนตาลุกวาวปากสั่น ผู้หญิงเจ้าของเสียงคนแรกเดินนำออกมา

    “แกกล้า.......” ไม่ทันที่เสียงจะออกมาหมด นึกแปลกใจว่าปากเธอโดนใครตัดไปจริงๆรึยังไง สายตาทุกคู่มองผ่านหลังของน้ำไป เธอค่อยๆหันหลังไปช้าๆ

    “สวัสดี”  เบียร์พูดทักขึ้นมา

    “จัดงานชุมนุมหน้าลิฟต์กันเหรอ น่าสนุกนะ”

    โชคยังช่วย ลิฟต์ลงมาได้จังหวะพอดีเป๊ะพร้อมกับคนที่อยู่ข้างในเหมือนสวรรค์ประทาน น้ำเริ่มยิ้มและก็หุบยิ้มทันทีเมื่อนึกได้ว่าผู้ชายที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์ก็เพิ่งถูกอ้างเข้ามาในบทสนทนาเมื่อครู่ของเหล่านกกา

    “ก็ไม่ค่อยจะสนุกสักเท่าไรหรอกค่ะ ท่านรองประธาน” เสียงที่ถูกเปลี่ยนเป็นหวานจนน่าคลื่นไส้ดังขึ้น

    “เราก็แค่ทักทายกันเล็กๆน้อยๆ”

    “ก็ดี” เบียร์พูดอย่างไม่ค่อยสนใจ “น้ำ ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

    “คะ” น้ำสะดุ้ง เพราะเธอกำลังจะย่องเข้าไปในลิฟต์ “อะไรเหรอคะ?”

    “คือ.........” เบียร์ชะงัก เพราะรู้สึกว่ากลุ่มผู้หญิงที่หน้าลิฟต์กำลังฟังอย่างใจจดใจจ่อ

    “ไปคุยกันทางโน้น” เบียร์พูดพร้อมสะกิดให้เธอตามมา



    >>>>>>



    “ทำไมเธอชอบถูกพวกผู้หญิงรุมนะ” เบียร์เปลี่ยสรรพนามการใช้เรียกเมื่อเดินห่างจากกลุ่มหน้าลิฟต์

    “ใครว่าฉันชอบ มีแต่พวกนั้นชอบมารุมฉัน” น้ำรู้สึกตงิดใจกับบทสรุปของเบียร์แต่ก็นึกขอบใจที่เขามาช่วยเธอให้พ้นจากตรงนั้น “ฉันแค่ดวงตกเรื่องคบเพื่อนผู้หญิง”

    “หึหึ” เบียร์หัวเราะในลำคอ “งั้นก็มียัยเอที่ประหลาดอยู่คนเดียวนะสิ มาคบกับเธอได้”

    “นั่นสิ” น้ำหัวเราะบ้าง เธอมองไปที่เบียร์พร้อมยิ้ม

    เบียร์รู้สึกว่าถูกมองจึงถาม “อะไรเหรอ?”

    น้ำยิ้มกว้างมากกว่าเดิม “พูดถึงเอแล้วมีความสุขจริงนะ”

    “โอ๊ย.........”เบียร์หน้าขึ้นสีเรื่อ โบกมือปัดแต่เหมือนจะหาคำพูดปฏิเสธไม่ได้

    “แล้วตกลงมีเรื่องอะไรเหรอ” น้ำเผลอช่วยโดยการเปลี่ยนเรื่อง

    “เออ...ใช่” เขาพยักหน้า “เย็นนี้เฟสจะกลับมาจากอังกฤษ”

    “อะไรนะ!!!   ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

    “ฉันก็กำลังบอกเธออยู่นี่ไง” เบียร์พูดหน้าตายแต่อดงงกับปฏิกิริยาของน้ำไม่ได้ “ทำไมล่ะ ไม่ดีใจเหรอ”

    น้ำกระพริบตา “เปล่า   แค่ตกใจ”

    “โดดงานได้บ่ายนี้นะ ไปเจอกับเอที่สนามบิน” เบียร์สรุป ก่อนทำท่าจะเดินไป

    “ทำไมกำหนดเวลางานยังเงี้ย?” น้ำค้าน

    เบียร์หันมาหัวเราะให้เธอก่อนจะขยับปากเหมือนจะบอกว่า รอง-ประ-ธาน

    น้ำเลิกคิ้ว  

    นี่เธอควรกังวลกับความคิดของเพื่อนหรือความเป็นไปในอนาคตของบริษัทดีเนี่ย


    จากคุณ : asagao - [ 24 ก.ย. 46 20:16:38 A:168.120.13.1 X: ]