อรัซ ( อรัซ พบกับ ใบเฟิร์น ) ตอนที่ 4

    ตอนที่แล้ว

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2468588/W2468588.html

    ..........................




    อรัซ พบกับใบเฟิร์น



                         สายฝนโปรยปรายกระหน่ำมาเป็นเส้นสาย กระจายทั่วท้องฟ้า เมฆดำ เกาะกลุ่มรวมตัวกันเป็นก้อน สายฟ้าฟาดผ่านก้อนเมฆผ่านสายฝนลงสู่เบื้องล่าง เป็นระยะทำให้เกิดแสงสว่าง วูบในความมืดเพียงชั่วพริบตาแล้วดับหายไปทิ้ง ความมืดไว้คงเดิม ตามด้วยเสียงคำรามก้องกังวานดังน่าสะพรึงกลัว

    สายลมพายุพัดไหวรุนแรง ดังเกิดอาเภทจนธรรมชาติพิโรธหนัก ต้นไม้ กิ่งไม้ บางต้นไม่แข็งแรง ลู่ลมได้เพียงชั่วขณะ หักโคลมล้มระเนระนาด บนถนนสายหนึ่ง ซึ่งรกล้าง ริมขอบถนนกอหญ้าและเถาวัลย์ เลื้อยรุงรังสองข้างทาง มันเป็นถนนสายเก่าที่ผู้คนทั่วไปไม่นิยมใช้แล้ว จะมีก็แต่ชาวบ้านในละแวกนี้ มีไม่กี่หลังคาเรือน ยังต้องอาศัยถนนสายนี้ในการเดินทางเสมอ

    การหนีเอาตัวรอด เพื่อให้หลีกพ้นจากความตาย เป็นได้กับทุกสิ่งที่มีชีวิตมีหัวใจ บางครั้งทั้งที่รู้ว่า สู้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ขอให้ได้สู้ตราบลมหายใจสุดท้าย ดีกว่านอนรอคอยความตายโดยไม่ได้ต่อสู้เพื่อชีวิตของตัวเองแม้เพียงสักครั้ง

    อรัซ เองก็เช่นกัน การหนีออกจากบ้านหลังใหญ่ หนีมาจากการถูกทำร้ายของเด็ก ที่ไม่ได้มีความรักให้กับ อรัซ จึงเป็นเรื่องปรกติ อรัซถูกสร้างขึ้นมาด้วยอำนาจเวทมนต์ และหยดเลือดของช่างทำตุ๊กตาชาวอเมริกัน ผู้ที่ประสงค์ให้ตุ๊กตาตัวนี้ฟึ้นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนาน ด้วยความรัก

    ดังนั้นอรัซ จึงมีความสามารถพิเศษบางอย่าง เช่นการไปไหนต่อไหนโดยไม่ต้องเดิน การลวงตาหรืออำพรางตัวเอง สิ่งนี้อรัซทำได้ โดยไม่จำเป็นว่าอรัซจะยังไม่ตื่น


    ตุบ………ตุบ…….…ตุบ  

    จังหวะการเต้น หัวใจ ของ อรัซ เริ่มแผ่วเบา แผ่วเบา ..ช้าลง.. ช้าลง.. ช้าลง เต็มที ถึงแม้ว่าอรัซ จะสามารถยับยั้งบังคับไม่ให้เลือดหัวใจไหลออกมาจากบาดแผล       ได้แล้วก็ตาม      แต่กว่า อรัซ  จะสามารถยับยั้งได้ เลือดหัวใจก็หลั่งไหลออกมา เกือบจนหมดแล้ว อรัซ เหน็ดเหนื่อยจากการใช้พลังงาน ไม่สามารถบังคับ ตัวเองได้อีก เพียงจะเคลื่อนย้ายตังเองเพื่อหลบฝน อรัซก็ทำไม่ได้อีกต่อไป

    อรัซ ไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าขณะนี้ตัวเองหนีออกมาจากบ้านหลังใหญ่ ไกลแค่ไหนแล้ว และไม่รู้อีกว่า ตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน เพราะทุกอย่างถูก ครอบงำด้วยความมืดยามค่ำคืนไร้แม้แสงจันทร์  และดวงดาวประดับฟ้า

    ตุบ ……………….. ตุบ …………………… ……….. ตุบ


                                     ในที่สุด อรัซก็ไม่สามารถต้านทานต่อความเจ็บปวด และความหนาวเหน็บจากเม็ดฝน ที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุดตก    ทุกครั้งที่เม็ดฝนตก กระทบสัมผัสกับอรัซ มันทำให้อรัซเจ็บปวดยิ่งนัก ดังถูกเข็มปลายแหลม ทิ่มแทงบาดแผลหัวใจให้ปวดร้าวยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น ………อรัซ หมดสติไปแล้ว


    “ จะถึงบ้านเราแล้วคะ ลูกแม่หนาวมากไหมค่ะ อดทนอีกแป๊ปนะค่ะ” หญิงสูงอายุวัย 40 กว่า คุยกับลูกสาวกอดรัดแน่นแนบอก ริมฝีปากซีดเผือดสั่น ๆ ของเด็กน้อยทำให้ผู้เป็นแม่เป็นห่วงมากขึ้น
    เธอตัดสินใจพาลูกสาวเข้าไปพักพิงใต้ต้นใหญ่ข้างทาง ถึงแม้จะรู้ว่า ใต้ต้นไม้ใหญ่ คงช่วยอะไรได้ไม่มากนัก และอันตราย เสื้อผ้าทั้งสองแม่ลูกเปียกชื้นไปทั้งตัว

    “พักกันตรงนี้ก่อนดีกว่านะค่ะ แม่ว่าลูกแม่คงจะอดทนยอมเปียกเม็ดฝนไม่ไหวแล้ว“ หญิงสูงอายุนั่งลงใต้ต้นไม้พร้อมกันถอดเสื้อแขนยาวของตัวเองออกมาห่มตัวให้กับ ลูกสาวอีกชั้น

    “ มืดจังคะคุณแม่ เราถึงบ้านหรือยังค่ะ”

    “ยังคะ อีกไม่ถึงกิโล ก็จะถึงแล้วค่ะ แต่ฝนตกหนักเหลือเกิน แม่กลัวหนูจะ ทนหนาวไม่ไหว แม่เลยพาหนูหลบฝนใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อน”

    “ ลูกแม่อบอุ่นขึ้น ………กรี๊ด….กรี๊ดดดดดด”


    เปรี๊ยง ๆ !!! โครม !!!!!! โครม!!!!!!  
    สายฟ้าฟาด ผ่าลงมาโดนกิ่งไม้ที่แม่ลูกทั้งสองหลบฝนอยู่อย่างกระทันหัน
    จนสองแม่ลูกตกใจกลัวเป็นลมสลบไป

    ใบเฟิร์น  ลืมตาขึ้นช้า ๆ รับแสงแดดอ่อนของดวงอาทิตย์ทำให้ใบเฟิร์นรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น

    “ แม่ค่ะ แม่ค่ะ “ ใบเฟิร์น เอื้อมมือไปเขย่าตัวแม่เบา เมื่อเห็นแม่ยังคงหลับตาหลังพิงอยู่กับต้นไม้ต้นใหญ่ส่วนตัวเอง ยังอยู่ในอ้อมกอดของแม่

    “ เอ้า..นี่เช้าแล้วเหรอ “ ผู้เป็นแม่ลืมตาขึ้น เมื่อเห็นแสงสว่างของเช้าวันใหม่ ต้องอุทานอย่างตกใจ!

    “เมื่อคืนแม่จำได้ว่า ฝ้าผ่าลงมาใกล้กับที่แม่นั่งอยู่ นั่นไง!! กิ่งไม้ที่หักลงมา  น่ากลัวจริง ๆ ลูกแม่เป็นอะไรมากไหมค่ะ” เธอรีบหันมาสนใจลูกสาวตัวเองทันทีด้วยความเป็นห่วง

    “ ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูหายหนาวแล้วค่ะ” เด็กน้อยส่งยิ้มให้กับผู้เป็นแม่เพื่อให้แม่คลายความเป็นห่วง

    “งั้นเรารีบกลับบ้านกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวถึงบ้านแม่จะโกโก้ร้อน ๆ ให้หนูทาน” หญิงผู้เป็นแม่พยุงตัวเองลุกขึ้นพร้อมจูงมือลูกสาวให้ลุกขึ้นตาม

    “ แม่ค่ะ…เดี๋ยวค่ะ….เอาตุ๊กตาตัวนั้นไปด้วยนะคะ”

    ใบเฟินร์หมายถึงตุ๊กตาสีน้ำตาลซึ่งอยู่ในสภาพฉีดขาดบาดแผลเต็มตัวดูไม่น่ามองเอาเสียเลย

    จากคุณ : ดินสอสีน้ำ - [ 25 ก.ย. 46 23:18:18 ]