เศษรัก

    บางครั้งฉันก็นึกเกลียดตัวเองจริงๆ

    มันเป็นความรู้สึกที่แวบผ่านเข้ามาในความคิด
    เหมือนสายฟ้าที่สว่างวาบปลาบแปลบอยู่ที่ข้างนอกนั่น
    เสียงฝนฟ้ายังครวญคำรามอยู่ครืนครัน
    เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า ฉันยังเดินอยู่ท่ามกลางสายฝน
    เปียกปอนและเหน็บหนาวจนตัวสั่น
    หยดน้ำจากฟากฟ้าที่ไหลผ่านใบหน้าลงมา มีรสขมปร่าและเค็มจนน่าแปลกใจ
    กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเดินร้องไห้ ฉันก็พบว่าได้มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้ว
    และสะอื้นจนตัวโยนในอ้อมแขนของเจ้าของบ้าน
    ซึ่งวิ่งฝ่าสายฝนออกมาประคองฉันเดินเข้าไปสู่ความอบอุ่นข้างใน
    แล้วยังรีบจัดแจงวิ่งขึ้นไปบนห้องหาเสื้อผ้ามาให้ฉันเปลี่ยนใหม่
    วิ่งเข้าครัวชงนมร้อนๆในแบบที่ชอบกินมาให้

    ขณะที่ยืนนิ่งมองเขาจัดการทำอะไรต่อมิอะไร อยู่ๆฉันก็อยากเปลี่ยนเขาให้เป็นใครอีกคน

    "สบายขึ้นบ้างไหม"
    พร้อมกับคำถาม ผ้านวมผืนใหญ่ก็คลี่คลุมร่างจากด้านหลัง
    สัมผัสอ่อนโยน ทะนุถนอมราวกับฉันเป็นตุ๊กตาแก้วเจียระไนที่บอบบาง
    ฉันรู้สึกถึงน้ำตาที่รื้นขึ้นมาปริ่มขอบตาอีกครั้ง

    "เด็กขี้แย"
    เมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบไป เขาก็เดินอ้อมกลับมานั่งยองๆอยู่ตรงหน้า
    กี่ครั้งแล้วหนอที่เขานั่งอยู่ในท่านี้ กี่ครั้งแล้วที่เขาคอยเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตา
    มันคงจะเป็นแทบทุกครั้ง เวลาที่ฉันมีปัญหา
    เขาอยู่กับฉันตรงนี้ .. ตลอดเวลา
    ตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กหญิงผมเปียที่เดินร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้อง 'พี่ชาย'
    ว่าถูกเด็กที่ตัวโตกว่ารังแก ตั้งแต่ตอนที่เด็กสาวหัวรั้น
    ยืนยันจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่เคยตั้งใจ
    จนเป็นเหตุให้ทะเลากับพ่อและแม่  ตั้งแต่ตอนที่หญิงสาวอ่อนแอ
    ต้องเสียใจกับคนรักครั้งแล้วครั้งเล่า

    ที่ตรงนี้ก็ยังมีแต่เขา คนที่กำลังนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าฉัน

    "พ่อกับแม่เขาตกลงใจแล้วว่าจะหย่ากัน พ่อจะออกไปอยู่กับเมียใหม่ของเขา"
    ฉันเอ่ยปากเป็นคำแรกนับตั้งแต่ก้าวเข้ามา
    แล้วเลยเอนตัวพิงพนักเก้าอี้นวมหนานุ่มอย่างอ่อนล้า
    ปิดเปลือกตาและปล่อยให้น้ำใสรินสายลงมาอีกครั้ง

    "พี่ว่าจะมีไหม คนที่จะรักกันไปจนตาย
    ความรักมันบอบบางและแตกหักง่ายขนาดนี้จริงๆหรือ"
    ตอนที่ตั้งคำถาม ฉันไม่ได้นึกถึงแต่พ่อกับแม่ของฉัน
    แต่กลับนึกถึง 'ใครคนนั้น' คนที่แม้ความรักระหว่างเราจะจบลงไปเนิ่นนาน
    แต่ความทรงจำกลับยังคงแจ่มกระจ่างอยู่ในใจ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยที่ความรักนั้นแตกหักง่าย
    แต่ 'เศษรัก' กลับปักตรึงแน่น และเป็นแผลที่ไม่มีวันหาย
    แต่ .. คนอย่างฉันจะเรียกร้องหาความยุติธรรมได้อย่างไร
    ในเมื่อสิ่งที่ฉันทำไป มันก็ไม่ยุติธรรมกับเขาเช่นกัน

    "มันมีอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้นในชีวิตคู่ อะไรที่ซับซ้อนกว่าความรัก"
    เขาบอกเรียบๆพร้อมกับที่ฉันรู้สึกว่าเบาะนั่งข้างตัวยวบลงไป
    แล้วแขนของเขาก็พาดข้ามไหล่ รั้งร่างของฉันให้เขยิบเข้าไปใกล้

    "แต่งงานกับพี่ไหม"

    ฉันลืมตาเมื่อได้ยินคำถามนั้น มองเห็นรูปวันที่เขารับปริญญา
    และเรายืนถ่ายคู่กันในกรอบขนาดใหญ่ที่แขวนไว้บนฝาผนังด้านตรงกันข้าม
    ฉันเองแหละที่เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการบอกให้เขาแขวนมันไว้ตรงนั้น
    เพราะรู้ว่าเขาจะต้องมานั่งจิบกาแฟตรงนี้ ก่อนออกจากบ้านทุกวัน
    มันช่างไม่ยุติธรรมที่ฉันบอกเขาแบบนั้น แล้วทำไมเขาต้องทำตามฉันด้วยนะ

    "พี่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"
    ฉันดันตัวจากท่านั่งพิงพนัก และเอื้อมไปหยิบแก้วนมร้อนบนโต๊ะตัวเล็กมาถือไว้
    เท้าแขนสองข้างไว้กับหน้าตัก พลางหมุนแก้วในมือเล่นอย่างใช้ความคิด

    "เพราะขวัญไม่ได้รักพี่"
    เขากลับเป็นคนพูดประโยคนี้ออกมาแทน ฉันหันกลับไปมองหน้าคนพูดอย่างตกใจ
    วูบหนึ่งนั้นฉันคิดจะปฏิเสธออกไป แต่แล้วก็พยักหน้ารับแต่โดยดี
    ไม่มีประโยชน์อะไรกับการถนอมน้ำใจ เพื่อที่จะเป็นการทำร้ายกันในภายหน้า
    แค่นี้ฉันก็ทำร้ายเขามามากพอแล้ว

    "เราจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักได้ไหม
    ถ้าหากความรักมันบอบบางนักและแตกหักง่าย มีอย่างอื่นที่สำคัญกว่านั้นไหม"
    คำถามนั้นไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เหมือนมันเป็นคำถามทั่วๆไป เช่นกินข้าวหรือยัง
    ฉันนึกหาคำตอบของคำถาม นึกภาพของชีวิตแต่งงานที่เคยวาดไว้ในวัยเยาว์
    บ้านหลังเล็กๆสีขาว สนามหญ้าเขียวแต้มพราวด้วยหลากสีสันของดอกไม้
    เสียงเด็กๆหัวเราะ..และบางครั้งร้องไห้ ภาพผู้ชายคนหนึ่งที่ยังฝังตรึงอยู่ในหัวใจ
    ภาพที่เมื่อนึกถึงแล้วควรจะอบอุ่น แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกเดียวดาย
    ต่างจากความรู้สึกตอนที่มีเขาอยู่ใกล้ๆ
    ตางจากตอนที่ฉันยืนอยู่ท่ามกลางความมืดและสายฝน
    แต่รับรู้ถึงความอบอุ่นเมื่อมองเข้าไปในบ้านของเขาที่เปิดไฟ
    ฉันไม่รู้ว่ามีอย่างอื่นที่สำคัญกับความรักไหม รู้แต่ว่าตอนนี้ฉันอยากมีเขาอยู่ใกล้ๆ

    "บางทีนะขวัญ ถึงแม้จะไม่มีคนที่ 'รักกัน' ไปจนวันตาย
    แต่พี่เชื่อว่า คงจะมีนะ คนคนหนึ่งที่จะรักอีกคนไปจนวันตาย"
    อยู่ๆเขาก็ตอบคำถามที่ฉันถามทิ้งไว้ ไม่มีคำสัญญา ไม่มีคำหวาน
    แต่ฉันรู้ว่าผู้ชายคนนี้รักฉัน ด้วยทั้งหมดของหัวใจ
    ฉันค่อยๆเอนตัวกลับเข้าไปในอ้อมแขนอบอุ่นนั้นอีกครั้ง
    หวังเหลือเกินว่าสักวันฉันจะรักเขาได้
    แสงฟ้าสว่างวาบผ่านลงมาในม่านฝนจนสว่างไสว

    บางครั้งฉันก็นึกเกลียดตัวเองจริงๆ

    แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 46 12:20:36

    แก้ไขเมื่อ 26 ก.ย. 46 12:09:12

    จากคุณ : เ จ้ า ห ญิ งน้ อ ย - [ 26 ก.ย. 46 12:03:49 ]