. . . เปอร์เซโปลิส . . . ( Persepolis) . . .๑๑๐

                                          การเดินทาง

    "ให้ตายสิ" คุณพ่ออุทานขึ้นเมื่ออ่านข้อความจากหนังสือพิมพ์

    "พวกมันยึดสถานฑูตอเมริกาแล้ว"

    "'พวกมัน'น่ะใคร?"คุณแม่ถามขณะหั่นผักทำกับข้าวอยู่

    "คุณคิดว่าใครกันล่ะ ? พวกนักศึกษาเคร่งศาสนามันจับชาวอเมริกันเป็นตัวประกัน"

    "จริงหรือคะ?"

    "พวกมันเรียกที่นั่นว่า"รังจารชน " ฮ่าฮ่า คุณนึกสิว่ามันเป็นหนังเจมส์บอนด์"

    คุณแม่หันมายิ้มกับฉัน

    "เธอไม่สนเลยรึ"

    "ฉันไม่สนได้ไง" คุณแม่ตอบหน้าตาเฉย

    "ยังไงซะ พวกอเมริกันมันก็งี่เง่านะคะ" ฉันออกความเห็น

    "อาจใช่แต่ตอนนี้ไม่มีใครไปอเมริกาได้อีกแล้ว"

    "ทำไมล่ะคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย

    "คิดดูนะลูก ไม่มีสถานทูตก็ไม่มีวีซ่า"

    ดังนั้น ฝันอันเลิศหรูของฉันจึงสลายหายวับไป ฉันไปสหรัฐไม่ได้แล้ว

    "คาเวฮ์ พวกเขาปิดสถานทูต ฉันไม่อาจไปเยี่ยมเธอได้..." ฉันเขียนจดหมายถึงเขา

    ความฝันนั้นไม่ใช่เพื่อไปสหรัฐหากแต่เพื่อตามหาเพื่อนของฉัน คาเวฮ์ คนทีอพยพไปอยู่ในสหรัฐเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ต่อมาสองสามวันให้หลัง...

    "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยปิดตัวลงในสิ้นเดือนนี้" เสียงคำสนทนาจากรายการหนึ่งทางโทรทัศน์

    "ไม่นะ!"ทั้งคุณพ่อคุณแม่อุทานขึ้นพร้อมเพรียงกัน

    เสียงนั้นยังดำเนินต่อไป

    "ระบบการศึกษาและสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือเรียนทุกระดับล้วนเสื่อมทราม ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการ เพื่อประกันว่าลูกหลานของเราจะต้องมีการเขียนใหม่เพื่อไม่ถูกชักนำให้หลงทางจากวิถีทางอันถ่องแท้ของอิสลาม" ชายไว้หนวดเคราเฟิ้มเต็มหน้าว่า

    "แน่นอน ๆ"

    "นั่นคือสาเหตุที่เรากำลังจะปิดมหาวิทยาลัยชั่วคราว ไม่มีนักศึกษาเลยสักคนดีกว่าจะให้การศึกษาแก่พวกจักรวรรดินิยมในอนาคต"

    ดังนั้น มหาวิทยาลัยต่างๆจึงถูกปิดไปสองปี

    "เห็นไหม อีกไม่นานหรอกคงบังคับพวกเราผู้หญิงให้ใส่ผ้าโพกศีรษะ แล้วคุณก็เหมือนกัน คุณต้องเอารถไปแลกกับอูฐมา พระเจ้า นโยบายถอยหลังลงคลองแท้เลย" คุณแม่ลุกขึ้นมาเริ่มปริวิตก

    "อูฐหรือ?" คุณพ่อเงยหน้าถาม

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ไม่มีมหาวิทยาลัยอีกแล้ว แต่ฉันต้องการเรียนเคมี ฉันอยากเป็นดั่งเช่นมารี คูรี

    ฉันอยากเป็นหญิงสาวมีการศึกษามีอิสระเสรี  หากการศึกษาหาความรู้เปรียบเช่นเป็นมะเร็ง ก็ให้มันเป็นไป

    "ฉันเป็นผู้ค้นพบธาตุกัมมัตรังสีชนิดใหม่สุด" ฉันเริ่มเพ้อ

    แล้วความเพ้อฝันอีกอย่างก็บังเกิดขึ้น

    "เศร้าจัง! เมื่ออายุเท่ามารี คูรีตอนไปฝรั่งเศสหนแรก ป่านนั้นฉันคงมีลูกสักสิบคนแล้ว"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    คืนหนึ่ง

    "รถของแม่เสียเราต้องไปรับเธอนะ" คุณพ่อบอกขณะขับรถไปรับฉัน

    "อีไบ" เสียงคุณแม่ร้องเรียกชื่อคุณพ่อวิ่งร้องไห้ตรงมาที่รถเรา

    "แม่!"

    "ผู้ชายสองคน... ผู้ชายไว้หนวดสองคน!... พวกลูกไม่มีพ่อเคร่งศาสนาสิอง...สองคน... ไอ้พวกลูกไม่มีพ่อ...ไอ้พวกลูกไม่มีพ่อ...มัน..." คุณแม่ละล่ำละลักบอก

    "ใจเย็น ๆ ที่รัก ใจเย็นๆ นะ พวกมันทำอะไรหรือ?" คุณพ่อปลอบประโลมคุณแม่

    "แม่ขา" ฉันชะโงกหน้าไปทัก

    "พวกมันดูถูกฉัน มันบอกว่าผู้หญิงอย่างฉันควรถูกขึงพืดกับกำแพงแล้งข่มขืนก่อนที่จะไปทิ้งกองขยะ"คุณแม่เล่าทั้งน้ำตา ตัวอ่อนปวกเปียกจนคุณพ่อต้องพยุงไว้

    "...ถ้าฉันไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นฉันต้องสวมผ้าโพกศีรษะ" คุณแม่ที่เริ่มตั้งสติได้เล่าให้คุณพ่อฟังขณะเดินกลับไปที่รถ

    "ลืมไอ้พวกงั่งนั้นซะ กลับบ้านกันเถอะ..."

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    เหตุครั้งนั้นทำให้คุณแม่ไม่สบายไปหลายวัน

    "แม่คะจะให้หนูเอาอะไรมาให้ไหมคะ"

    "..."

    ไม่มีคำตอบจากคุณแม่ที่นอนบนเตียง

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    เพื่อปกป้องผู้หญิงจากพวกนักข่มขืนทั้งหลาย พวกเขาเลยประกาศให้ต้องสวมผ้าโพกศีรษะตามกฏหมาย

    "ผมของหญิงเปล่งประกายให้ชายตื่นเต้นกระสันต์ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมผู้หญิงต้องปกปิดผมของตน! ถ้าการไปไหนมาไหนโดยไม่มีผ้าโพกศีรษะถือว่ามีอารยธรรมล่ะก็ สัตว์เดรัจฉานก็ มีอารยธรรมกว่าพวกเรา" เสียงประกาศจากทางโทรทัศน์ จากชายหนวดเฟิ้มคนเดิม

    "เหลือเชื่อเลย!นี่พวกเขาคิดว่าผู้ชายทุกคนวิตถารหมดงั้นสิ!" คุณพ่อออกความเห็น

    "แน่นอนค่ะก็พวกมันล้วนแต่วิตถารทั้งนั้น"

    ในไม่ช้า วิธีการแต่งกายของผู้คนกลายเป็นสัญลักษณ์ตามอุดมคติ มีผู้หญิงสองแบบ

    พวกผู้หญิงเคร่งศาสนาจะสวมชุดผ้าคลุมออมครอมปิดตั้งแต่หัวจรดเท้า

    พวกผู้หญิงทันสมัยจะสวมแค่โพกศีรษะ

    คุณจะแสดงอาการต่อต้านขัดขืนต่อระบอบการปกครองโดยปล่อยผมให้เห็นสักสองสามเส้น

    ผู้ชายก็มีสองแบบด้วยเช่นกัน

    พวกผู้ชายเคร่งศาสนาจะไว้หนวดเคราและสวมเสื้อลอยชาย

    พวกผู้ชายทันสมัยจะโกนหนวดหรือไว้หนวดที่ขริบ และใส่เสื้อไว้ในกางเกง

    ชาวอิสลามไม่มากก็น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับการโกนหนวด

    "แต่ยุติธรรมหน่อยสิคะ! ถ้าผู้หญิงต้องเข้าคุกเพราะไม่ยอมสวมผ้าโพกหัว มันก็ต้องห้ามผู้ชายใส่ไทเหมือนกันสิคะ (นั่นเป็นสัญลักษณ์ของชาวตะวันตก) และถ้าผมของผู้หญิงทำให้ผู้ชายตื่นเต้นก็ต้องว่าเหมือนกันกับท่อนแขนเปลือยเปล่าของผู้ชาย ดังนั้นต้องห้ามใส่เสื้อแขนสั้นด้วยสิคะ นั่นสิถึงเป็นความยุติธรรม"

    ฉันลุกขึ้นมาประกาศปาว ๆ

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ไม่เพียงแต่รัฐบาลที่เปลี่ยนไป ผู้คนธรรมดาก็เปลี่ยนไปด้วย

    "ดูเธอสิคะ! เมื่อปีกลายยังใส่มินิสเกิร์ตอวดน่องอวบ ๆ กับชาวบ้านร้านช่องไปทั่วอยู่เลยนะ เดี๋ยวนี้คุณนายใส่ชุดชาเดอร์(***ชุดผ้าคลุมของหญิงอิสลาม) ฉันว่ามันเหมาะกัยเธอดี" คุณแม่กระแนะกระแหนครอบครัวที่เดินบนถนนฝั่งตรงข้ามผ่านตึกเรา  ขณะที่เรายืนมองกระจกไปข้างนอก

    "สำหรับสามีเคร่งศาสนาของเธอก็เป็นขี้เมานอกรีตทุกคืน ตอนนี้ก็ต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาดับกลิ่นทุกครั้งที่เอ่ยถึงคำว่า"แอลกอฮอลล""

    "ลูกเค้าบอกว่าเค้าสวดละหมาดทุกวันเลยค่ะ"

    คุณแม่หันมากำชับกับฉันว่า

    "ถ้าใครถามลูกว่าวัน ๆ ทำอะไรบ้างล่ะก็ บอกว่าหนูสวดละหมาดนะ เข้าใจไม๊ลูก"

    "ค่ะ" ฉันรับปาก

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    แต่แรกก็ค่อนข้างยาก แต่ฉันเรียนรู้ที่จะโกหกได้ไว

    "ฉันสวดละหมาดวันละห้าครั้ง" เพื่อคนหนึ่งคุยโวอย่างภูมิใจ

    ฉันเลยคุยทับไปว่า

    "ฉันหรือ? สิบหรือสิบเอ็ดครั้งมั้ง...บางทีก็สิบสอง"

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    เหนือสิ่งอื่นใด วิญญานแห่งการปฏิวัติยังคงล่องลอยอยู่ในอากาศ ยังมีการเดินขบวนต่อต้านอยู่

    "พรุ่งนี้จะมีกสรชุมนุมกันเพื่อต่อต้านพวกเคร่งศาสนา" คุณแม่บอกเราสองคนพ่อลูก

    "หนูไปด้วยนะคะ"

    "ไม่ได้จ๊ะ มันอันตรายเกินไป" คุณพ่อท้วง

    "เธอต้องไปด้วยค่ะ" คุณแม่ประกาศ

    "เธอควรหัดเรียนรู้ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของเธอในฐานะผู้หญิงนับแต่บัดนี้"

    นับแต่การปฏิวัติในปีคริสตศักราช ๑๙๗๙เป็นต้นมา ฉันเติบโตขึ้นมาก (เออ แก่ขึ้นปีหนึ่งค่ะ) และคุณแม่ก็เปลี่ยนไปด้วย

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ฉันจึงไปกับพวกท่าน ฉันเดินแจกใบปลิว

    "ถึงจะเอาปืนมายิง เอามีดมาจิ้ม แต่เราไม่ยอมใส่ผ้าคลุมงี่เง่าของแก" เสียงผู้คนร้องประท้วง

    ...แล้วเรื่องก็บานปลาย

    "ผ้าคลุมหรือจะให้ตี" พวกเคร่งศาสนาถือกระบองกรูเข้ามาที่กลุ่มของเรา

    เป็นครั้งแรกในชีวิตฉันที่เห็นความรุนแรงโหดร้ายด้วยตาตนเอง

    "พ่อ"ฉันร้องเสียงหลงเมื่อดห็นผู้หญิงคนหนึ่งถกแทงที่สีข้าง

    นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราไปเดินขบวนประท้วงกัน

    "ตัวใครก็ตัวมันแล้วกัน"คุณพ่อว่าขณะให้ฉันขี่คอและฉุดมือคุณแม่หนีออกมาจากการจลาจลนั้น

    เรื่องรางยานปลายร้ายแรงจากวันหนึ่งไปสู่อีกวันหนึ่ง ในเดือนกันยายนปีคริสตศักราช ๑๙๘๐ คุณพ่อคุณแม่วางแผนไปพักร้อนกันอย่างกระทันหัน ฉันคิดว่าท่านตระหนักดีว่าในไม่ช้าหลายสิ่งหลายอย่างจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไป แล้วมันก็เป็นเช่นนั้น ท่านคิดถูก แลัเราจึงไปอิตาลีและสเปญสามสัปดาห์

    ...มันช่างวิเศษเหลือเกิน

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    ก่อนที่จะกลับมาบ้าน ในห้องพักโรงแรมที่กรุงมาดริด

    "ดูนี่สิ"

    ฉันกับแม่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอยู่เมื่อคุณพ่อเรียกเราหันมาดูที่โทรทัศน์

    โทรทัศน์แสดงแผนที่ของประเทศอิหร่านและเมฆดำกำลังปกคลุมประเทศอย่างช้า ๆ

    "อะไรกันนี่" คุณแม่อุทาน

    "แย่จังที่เราไม่รู้ภาษาสเปญ"

    "บางทีเขาอาจกำลังพูดถึงมลภาวะอยู่ คุณรู้นี่ว่ากรุงเตหะรานเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดอันดับสี่ของโลก" คุณแม่ว่าหันไปจะดกรัเป๋าต่อ

    "ดูเหมือนเขากำลังพูดถึงประเทศทั้งประเทศไม่ใช่แค่เมืองหลวงนะ" คุณพ่อบอก

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    วันต่อมาคุณยายมารับเราที่สนามบิน

    "คุณยายขาหนูมีชุดดำมาฝากค่ะ" ฉันร้องบอกมาแต่ไกลเมื่อเห็นคุณยายรออยู่

    ท่านดูกังวล

    "คุณแม่คะ สบายดีหรือเปล่าคะ" คุณแม่ทัก

    "จ๊ะ"คุณยายตบด้วยใบหน้ายิ้มขณะที่ฉันกอดรัดท่าน

    เราพากันเดินทางกลับบ้าน

    888888888888888888888888888888888888888888888888888888888888

    "แม่จะถอดไอ้นี่ออกล่ะร้อนจัง" คุณยายอุทรณ์แล้ว เอามือไปปลดผ้าโพกศีรษะออกเมื่อถึงบ้าน

    "ดีจังค่ะที่ได้กลับบ้าน ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้านเรา"

    "จริงจ๊ะ แต่ไม่ช้าก็จะไม่เหลือบ้านแล้ว"

    "ทำไมคุณแม่ถึงพูดอย่างนั้น" คุณแม่ถามอย่างสงสัย

    "พวกเธอไม่ได้ยินข่าวหรือ?"

    "ไม่ได้ยินข่าวอะไร"

    "เราอยูในภาวะสงคราม"

    "อะไรนะ" เราพ่อแม่ลูกอุทานขึ้นพร้อมกัน

    "...พวกเค้าเพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อสองวันก่อน แต่ที่จริงเป็นมาตั้งเดือนแล้ว ...พวกเคร่งศาสนาชาวอิหร่านพยายามยั่วยุพวกกบฎอิรักที่ต่อต้านซัดดัม เขารอคอยโอกาส ที่จะมารุกรานอิหร่าน นี่แค่เบาะๆ มันเป็นการรุกรานอาหรับครั้งที่สอง... "

    การรุกรานครั้งที่สองใน๑๔๐๐ปี! เลือดฉันกำลังเดือดพล่าน ฉันพร้อมที่จะปกป้องประเทศของฉันจากพวกอาหรับที่คอยลอบมาโจมตีเรา

    ฉันอยากจะสู้


    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 21:25:21

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 21:22:21

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 21:16:27

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 21:12:01

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 21:08:18

    แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 20:55:16

    จากคุณ : ส.ค.ศ. ๔๙๑๔ - [ 27 ก.ย. 46 20:44:27 ]