อาศรมนักประพันธ์
พ่อของผมเริ่มเขียนหนังสือจริง ๆ จัง ๆ เมื่อไปอยู่ประเทศแคนาดา
ในหน้าหนาวปี ๑๙๙๔ ท่านกับแม่ผมและน้องสาวได้อพยพไปอยู่ที่นั่น ภายหลังจากหลบลี้เร่ร่อนมาราวสองปี
เป็นหลายปีที่ผมทำงานค่าจ้างต่ำที่ชิคาโกและเสาะหาใบกรีนการ์ด
พวกท่านออกจากซาราเจโวเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๙๒
วันที่การปิดล้อมเริ่มขึ้น มีการยิงกราดและความยุ่งยากเริ่มระอุขึ้นอย่สงเห็นได้ชัด ทว่าเหตุใหญ่ใจความที่พวกท่านออกเดินทาง คือการอุทิศกายใจให้แก่การเลี้ยงผึ้ง ถ้าหากท่านไม่ต้องประกอบภารกิจประจำฤดูใบไม้ที่รังเลี้ยงผึ้งของท่าน อาทิ ทำความสะอาดรังผึ้ง นำพวกผึ้งอ่อนแอมารวมกับพวกผึ้งแข็งแรง ฯลฯ พวกท่านคงไม่ต้องหนีออกมาจากซาราเจโวเลย
กระนั้นก็ดี พวกท่านอาศัยอยู่ที่บ้านในชนบทของบุพการีผู้ล่วงลับไปของท่านทั้งปี ที่เนินเขาชื่อ Vucjak ดำรงชีพจากออาหารที่ปลูกกันในสวน มองดูรถบรรทุกทหารชาวเซอเบียผ่านทางไปข้างหน้า พ่อผมมักขายน้ำผึ้งแก่กองทหารพวกนั้น และเมื่อถึงปลายหน้าร้อนเริ่มขายเหล้าน้ำผึ้ง ด้วย แม้พวกทหารนั้นจะชอบดื่มเหล้าslivovitz(*บรั่นดีพลัมไม่มีสี)จนเมามาย พ่อแม่ผมแอบฟังวิทยุกระจายเสียงจากกรุงซาราเจโวที่ถูกยึดและหวาดผวากับเสียเคาะประตูกลางดึก ครั้นแล้วถุงน้ำดีของแม่ผมก็ติดเชื้อจนเกือบถึงตาย ดังนั้น พวกท่านจึงย้ายไปอยู่ที่นอวีซาด(Novi Sad)เมืองที่น้องสาวผมไปศึกษาอยู่ พวกท่านไปขอวีซ่าอพยพไปแตนาดา ได้ แล้วมาถึงแฮมิลตันในเดือนธันวาคมปีค.ศ. ๑๙๙๓
พ่อผมเริ่มหมดอาลัยตายอยากตั้งแต่เหยียบเท้าลงบนผืนแผ่นดินแคนาดา
จากหน้าต่างของห้องพักไม่ได้ตกแต่งบนชั้นที่สิบห้า ท่านสามารถมองมองเห็นกองหิมะ ปล่องควันของโรงงานเหล็กแฮมิลตัน และที่จอดรถว่างเปล่า ดำขาวและเทาทั้งหมดดูเหมือนภาพยนตร์พวกเอ็กซิสเท็นเชียลิสต์ฝั่งตะวันออกของทวีปยุโรป โดยปราศจากข้อยกเว้น พ่อผมพบทั้งสิ่งที่ไม่เป็นจริงและน่าเบื่อ ท่านไม่รู้ว่าตัวเองอยู่แห่งหนใด พวกท่านจะจ่ายค่าอาหารและเครื่องเรือนอย่างไร ท่านไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าจะเป็นเช่นไร ถ้าใครคนใดคนหนึ่งในพวกท่านล้มป่วยลงและแน่ชัดว่าท่านจะไม่ยอมเรียนภาษาอังกฤษ
ตรงกันข้าม แม่ของผมคงยังไม่รู้ร้อนรู้หนาว ส่วนหนึ่งเพื่อคานกับความกลัวของพ่อ และส่วนหนึ่งเพราะท่านรู้สึกพ่สยแพ้เสียจนไม่มีอะไรสำคัญจริงจัง เธอรับเอาสิ่งเลวร้ายที่ไหลบ่ามา ผมยังคงเก็นท่านอดทนไม่หวั่นไหวหมุนลูกบาศก์รูบิกขณะชมรายงานข่าวโทรทัศน์เกี่ยวกับการสังหารหมู่ในซาราเจโว ที่ไม่ได้รบกวนโดยความจริงที่ท่านไม่ได้อยู่ และไม่เคยเฉียดเข้าใกล้ถึงขั้นที่จะแก้ปริศนานั้นได้เลย
ท่านขนเครื่องเรือนใช้แล้วที่คุณครูสอนอังกฤษของท่านให้มาใส่ไว้ในห้องพัก แต่ห้องก็ยังดูโหลงเหลง ปราศจากละอองธุลีของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลที่ครั้งหนึ่งเคยชักนำให้พ่อแม่กลับมาบ้านโดยสิ้นเชิง นาฬิกาลูกโลกที่มีเข็มเป็นดาวเทียมสปุตนิกที่พ่อซื้อมาจากสหภาพโซเวียตรุสเซีย ภาพของผมในวัยเด็กนั่งบนต้นเชอร์รี่ กำลังยิ้ม(ภาพทันทีก่อนที่ผมจะตกและแขนหัก) ท่อประปาห้องน้ำที่มีรอยชื้นดูคล้ายใบหน้าเลนินไว้ผมยาวตอนไม่ได้โกนหนวด ภาพเลียนแบบรูปหุ่นนิ่งของเซซานใส่กรอบห่วย ๆ กะปุกน้ำผึ้งเขียนว่า"น้ำผึ้งแท้" บนฉลากรูปผึ้งกำลังบิน
พ่อเลิกเรียนภาษาอังกฤษ โกรธเจ้าภาษาที่ใช้คำนำหน้านาม(article)ที่ไร้ความหมายสะเปะสะปะไปหมด และยืนยันที่จะต้องมีประธานหน้าประโยคโง่ ๆ ทุกประโยค
ท่านโทรฯ ด้วยน้ำเสียงชาเย็นไปหาบริษัทแคนาเดียน พรรณนาถึงชีวิตวิศวกรผู้นำแสงสว่างมาสู่เมืองใหญ่ด้วยภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น ยังความประหลาดใจแก่พนักานต้อนรับผู้โยกท่านไปอยู่สายคอยอย่างไม่มีกำหนด
ท่านเกือบหลวมตัวไปร่วมปฏิบัติการไม่ชอบมาพากลของชาวยูเครเนียนทีพูดกล่อมท่านมีงานจ่ายเงินดีในการลักลอบต้อนห่านยูเครเนียนลงไปชนบทแล้วไปขายให้โรงงานฟูกแคนนาดา
ผมโทรฯจากชิคาโกแล้วพ่อก็รับสาย
"ไงครับพ่อทำอะไรอยู่?"
"กำลังคอย"ท่านบอก
"คอยอะไร?"
"กำลังคอยให้ตาย"
"ขอผมพูดกับแม่หน่อย"
ตอนนั้น เมื่อความโศกเศร้าเกาะกินใจล้นพ้นจน อาจเรียกได้ว่าวิญญานของท่านเจ็บปวดประหนึ่งหัวแม่เท้าด้วนหรือลำไส้อาหารกุด
ท่านเริ่มเขียนแล้ว
ท่านไม่ยอมอวดงานเขียนของท่านให้แม่หรือน้องส่วของผมชม
แต่ทั้งสองรู้ว่าท่านกำลังเขียนเรื่องเกี่ยวกับผึ้ง
ตอนต้นฤดูใบไม้ผลิของปีคริสตศักราช ๑๙๙๔
ผมได้รับซองกระดาษมะนิลามาซองหนึ่ง
มีลายมือหวัด ๆ เขียนว่า "ผึ้ง ภาคหนึ่ง"
มือผมสั่นระริกขณะพลิกกระดาษยีสิบเอ็ดหน้านั้น ราวกับว่าผมกำลังคลี่ม้วนกระดาษศักดิ์สิทธิ์หลายพันปี ที่เพิงค้นพบ (ความรู้สึกบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ผมมี วูบหายไปกับคราบน้ำผึ้งเหนียวเหนอะบนหน้าหก )
โดย เดือนกันยา-SeptemberMoon (glassbee) [14 ก.ย. 2546 , 23:06:35 น.]
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 22:42:10
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ย. 46 22:29:04
จากคุณ :
เดือนกันยา-SeptemberMoon
- [
27 ก.ย. 46 22:13:10
]