ครั้งผมจบใหม่ ๆ ได้กลับบ้านไปทำงานธนาคารแห่งหนึ่ง ความจริงก็ได้รับการคัดเลือก
จากหลายที่นะครับ ทั้งธนาคารและบริษัทใหญ่ ๆ แต่ผมเลือกเอาแห่งนี้เพราะได้กลับ
ไปอยู่บ้าน โดยมีปัจจัยแฝงสามประการ อย่างแรกคือประหยัดค่ากินค่าอยู่ ( แหะ ๆ )
สองคือให้ญาติพี่น้องตลอดจนบ้านใกล้เรือนเคียงเห็นว่าผมจบแล้วได้ทำงาน(นะเฟ้ย)
สอบเข้าเองด้วย ไม่ต้องไปง้อเส้นสายหรือขอเงินฝากของใคร .. ข้อสามนี่สำคัญมาก
คือเป็นข้อตกลงระหว่างผมกับพ่อว่า จะขอทำงานแค่สองปี แล้วจะออกมาค้าขาย
ซึ่งก็เหมาะว่าหากจะค้าขายก็น่าจะกลับไปทำงานใกล้บ้าน จะได้เป็นการปูพื้นฐานไว้ ..
แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่จะเล่าล่ะ .. เจ๊ก๊อตตี้ตะแล็บแก็ปถามมาจากแถวสยามฯ
ไม่เกี่ยวเลยครับ แค่ปูพื้นว่าผมจบมาแล้วกลับไปทำงานแบงค์แถว ๆ บ้าน ..แหะ ๆ ..
ตุ๋ย !! .. อุตส่าห์ติดตามมาตั้งนาน เอ้า .. เล่าต่อเร็ว ๆ .. จารย์จีเร่ง
ใจเย็นครับจารย์จี งานนี้มีฉากอาร์ ๆ เอ็กซ์ ๆ ให้จารย์ได้ชมด้วยรับรองสนุกแน่ แฮ่ !! ..
อ้าว !! น้ำลายย้อยแล้วจารย์ ยังไม่ได้เล่าเลย โธ่ !!
ต่อนะ .. ตัดฉับไป ณ วันเกิดของพี่แหลม เจ้าหน้าที่สินเชื่อ วันนั้นโดยที่ไม่ต้องบอก
ก็มีคนช่วย (เสือก)ป่าวประกาศให้เบ็ดเสร็จว่าพี่แหลมจะจัดเลี้ยงวันเกิด ณ ห้องอาหาร
ในโรงแรมแห่งหนึ่ง
งานนั้นยกโขยงกันไปเกือบหมดแบงค์ เฮฮาปาร์ตี้กันอย่างครึกครื้น แต่พวกผู้หญิง
กลับกันตั้งแต่สามทุ่ม คงจะรำคาญพวกขี้เหล้าแหละครับ เพราะสาขาที่ผมอยู่นั้นขึ้นชื่อ
ลือกระฉ่อนนักหนาว่าเป็นสาขาขี้เมา ขนาดดังมาถึงสำนักงานใหญ่ก็ลองนึกดู
เอาเอง เถอะว่าจะเพียงไหน
ส่วนพวกผู้ชายโจ้เหล้ากันต่อจนห้องอาหารปิด เหล้าหมดเป็นลัง ๆ .. ออกจากโรงแรม
พวกเราพากันเดินตุปัดตุเป๋กลับ เพราะแต่ละคนจอดรถทิ้งไว้ที่แบงค์ บางคนก็พักที่นั่น
ระหว่างทางเราผ่านซอยคาวบอย .. ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าตลอดทั้งซอยเป็นร้านแบบอะโกโก้
ใครคนหนึ่งชวนแวะ ..........
และอย่างไม่มีเสียงปฏิเสธ ทั้งหมด (รวมทั้งผมด้วย) ก็เข้าไปนั่งยิ้มแป้นกันในร้านหนึ่ง
ขอบรรยายบรรยากาศภายในยั่วให้จารย์จีน้ำลายไหลเล็กน้อย
ผลักประตูโยกแบบคาวบอยเข้าไป ภายในเต็มไปด้วยโต๊ะกลมทรงสูงและเก้าอี้แบบสตูล
มองไปข้างหน้าด้านในสุดเป็นเคาน์เตอร์ยาวเหยียดสุดผนัง มีสตูลให้นั่งเรียงกันเป็นแนว
มองไปทางขวาสุดชิดผนังเป็นเวทียกสูงประมาณอก ตกแต่งเป็นแอ่งธารน้ำตกเล็ก ๆ
ฉากหลังเป็นโขดหินและสายน้ำตก
ที่พิเศษคือตรงกลางร้าน มีเสาขนาดมหึมาประมาณสองคนโอบ พ่นสีโครเมียมมันวับ
รอบเสาเป็นเวทีทรงกลม ยกพื้นสูงประมาณอกเช่นกัน ภายในร้านครึกครื้น เร้าใจ
ด้วยเพลงแดนซ์แบบห่าม ๆ เปิดดังแสบแก้วหู ..
ขณะที่พวกเราเข้าไป หน้าเวทีน้ำตกมีคนจับจองอยู่เต็มแล้ว พวกผมเลยพากันจับจอง
เวทีตรงเสาโครเมียมกันมั่ง ส่วนที่นั่งบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งหันหลังให้เวที
ตรงเสาและเอียงข้างให้เวทีน้ำตกมีแต่ฝรั่งจับจองอยู่เต็ม สรุปได้ว่าฝรั่งโง่กว่าคนไทย ..ฮิ..ฮิ.........
นั่งกันก้นยังไม่ทันอุ่นหน้าเวทีน้ำตกก็มีเสียงตบตีนตบมือ พอหันไปมองก็สมใจเขาล่ะ
เพราะมีสาวน้อย(แต่แก่มาก)ในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วออกมาอาบน้ำตก(ฝักบัว)อย่างเพลิดเพลิน
แถมมีแอ่นหน้าแอ่นหลังตามจังหวะเพลงอีกแน่ะ ถึงกลาง ๆ เพลงเธอก็ปลดชิ้นบนออก
ยามนี้พวกข้างล่างซดเบียร์แก้คอแห้งกันเป็นเหยือก ๆ ที่เด็ดคือถึงท้ายเพลงเธอปลดชิ้นล่าง
ออกอีก กลายเป็นนุ่งลมห่มฟ้า คราวนี้ทั้งร้านมีแต่เสียงน้ำลายของท่านผู้ชมหยดติ๋ง ๆ
แทบจะดังแข่งกับเสียงดนตรีนั่นเชียว ..
จบเพลง .. สาวน้อยอาบน้ำก็เดินหายลับไปทางหลังโขดหิน แล้วดนตรีก็เปลี่ยนเป็น
เพลงแดนซ์โขยกเขย่าเร้าใจ เห็นสาวน้อยสองคนที่นั่งจิบเบียร์อยู่ที่โต๊ะใกล้ ๆ กับโต๊ะเรา
พลันกระโดดเหย็งขึ้นเวที ส่ายสะโพกโยกเอว รูดไปตามเสาโครเมี่ยมอย่างเมามันส์
ตอนเธอนั่งข้างล่าง จะใส่เสื้อคลุมไว้ดูเผิน ๆ เหมือนแต่งกายตามปกติ แต่ขณะขึ้นเวที
เธอปลดออกทิ้งไว้กับพื้น เหลือแต่บิกินี่ตัวจิ๋วปิดส่วนสำคัญบนล่างเช่นเคย
รูดเสาเล่นแก้เซ็งได้สักพัก สองสาวก็หันหน้ามาทางผู้ชมมั่ง พลางปลดชิ้นบนออก
ให้เห็นบัวน้อยลอยชูช่อรออรุณ เหมือนรอไออุ่นจากดวงสุริยา (แหะ ๆ เพลินไปหน่อย)
คราวนี้พวกเธอยิ่งโยกมันส์ยิ่งกว่าตอนรูดเสาอีก จนท่านผู้ชมต้องตบมือ กระทืบตีน
เป่าปากด้วยความสะใจ อีกสักพักก็เป็นเวลาที่ทุกคนรอคอยคือเธอค่อย ๆ แก้ปมมัด
ตรงเอวของบิกินี่ตัวจิ๋ว.................... ..
.........จารย์ ... น้ำลายย้อยแล้วจารย์ .. เช็ดก่อน ..แฮ่ !! .. ............
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 46 11:23:21
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 46 11:18:22
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 46 11:17:12
แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 46 11:15:46