เรื่องราวที่เล่าผ่านตัวหนังสือชิ้นนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบ้าง เสริมเติมแต่งบ้าง เพื่อสีสัน ความมันส์ ความสนุกสนาน ของทั้งตัวผู้อ่าน และผู้เขียนเอง หากข้อความใด ไปซ้ำหรือย้ำกับประสบการณ์ของใคร ผู้เขียนหวังว่า จะเป็นเหมือนการเปิดกล่องความทรงจำที่ดี ของใครคนนั้น
..........................................................................
ทำไม๊ทำไม ฉันต้องมานั่งปั่นการบ้านส่งตอนนี้ด้วยนะ
ฉันโวยวายเสียงดัง อยู่ตรงหน้าจอโน๊ตบุ้คตัวเก่งของฉัน ในห้องพี่ชายที่แสนดี พี่ขิง มือยังคงเป็นระวิง แต่หัวนะสิ ไม่ค่อยจะแล่นแล้ว ก็นี่มันสี่ทุ่มแล้ว นั่งทำงานมาตั้งแต่เย็น งานมันยังจมปักอยู่เลย
ก็ใครใช้ให้ดองงานไม่ทราบกันเธอ
กิมย้อนถาม
พี่ขิง ดูกิมสิ มาว่าผึ้ง อย่างกับงานตัวเองเสร็จง่ะ ก็มานั่งทำด้วยกันอยู่นี่ไง
ฉันย้อนทันที
หึๆ
พี่ขิงยังคงรักษาท่าทาง ของพี่ชายที่แสนดี ไม่หัวเราะเยาะเย้ยตากิม ก่อนพูดต่อว่า
โปรแกรมของผึ้งใกล้จะเสร็จแล้วนิครับ ดูของผมสิ ยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งเลย
แหนะมีปลอบด้วย พี่อะไรดีขนาดนี้
ถ้าใกล้เสร็จก็คงไม่เยอะ งั้นพี่ขิงเอาโปรแกรมผึ้งไปทำต่อไหมค่ะ แล้วก็อปเป็นสองชุด หุๆ
อยากทำใจจะขาด (ตอนนั้นอ่ะนะ)
นางมารร้าย เดี๋ยวโปรเฟสเซอร์ก็จับได้หรอก ยิ่งไบรทๆอยู่ หาเรื่อง
กิมแย้งเสียงดุ
โหทำมาเป็นดุ ก็แค่ล้อเล่นนะ ใครจะกล้า แต่ถ้าไม่ทันก็คงกล้า ฉันไม่ยอมเสียค่ารถ ค่าโรงแรมฟรีๆ หรอกนะ
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จริงใจ ไม่เคยจริงใจเท่านี้เลยสิให้ตาย ลืมบอกไปว่า ฉันมีโปรแกรมไปเที่ยวช่วงเบรก กับเพื่อนกลุ่มนี้ วันนี้ คืนนี้ เพราะคืนนี้เที่ยงคืน เป็นเวลาส่งโปรแกรมงานของพวกเรา ก่อนจะปิดเทอมกัน พวกเราเช่ารถ จองโรงแรมกันไว้ล่วงหน้าซะดิบดี ก็ใครมันจะคิดว่า งานจะไม่เสร็จกันละ
หิวกันหรือเปล่าครับ ผมเพิ่งซื้อช๊อคโกแลตทาขนมปังมาใหม่ อร่อยมากเลย ผมลองชิมแล้ว
พี่ขิงเอ่ยถาม
ว้าว ผึ้งชอบมากเลยค่ะ อยู่เมืองไทยเนี่ย ทานเปล่าๆง่ะพี่ไม่ต้องทาขนมปัง
ฉันฉีกยิ้มหน้าระรื่น พอพูดถึงของกิน โดยเฉพาะขนม
พี่ขิงเป็นคนชอบทานขนมมาก ห้องพี่ขิงจะเต็มไปด้วยช๊อคโกแลตวางอยู่ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน ก็จะมีแก้วพลาสติกใส่ช๊อคโกแลตอยู่เต็ม หรือตรงหน้าต่างซึ่งพี่ขิงวางถ้วยเบญจรงค์อยู่หลายใบ ในนั้นก็อัดแน่นไปด้วยช๊อคโกแลต เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียเวลาเดินหาเวลาต้องการทาน
จะกินอีกแล้วเหรอเธอ โหกระเพาะทำด้วยอะไรเนี่ย ยืดหยุ่นดีจริง
กิมแขวะ
ฉันจะกินใครจะทำไม อย่างน้อยก็ไม่ได้ไปพึ่งกระเพาะใครมาใส่นี่หน่า
ฉันเถียงทันที ฉันไม่สนเสียงนกเสียงกาที่ยังคงดังอยู่ เดินไปหยิบขนมปังในครัว
พี่ขิงเอาสักแผ่นไหมค่ะ
ฉันเอ่ยถามอย่างกับเจ้าของบ้าน ฮ่าๆ แต่เสียงตอบกลับกับเป็นตากิม
เอาแผ่นสิ
เสียงพี่ขิงเปลี่ยนไปนะค่ะ ทำไมดูไม่หล่อขนาดนี้เนี่ย เสียงแก่ไปเยอะเลย
นี่ๆ ไม่ต้องเลย ก็เห็นเธอกิน ฉันก็กินเป็นเพื่อนไง
กิมเถียง ข้างๆคูๆสุดๆ แต่ก็เถอะ หยวนๆทำให้กินไปละกัน ที่จริงโปรแกรมชิ้นนี้ กิมก็มาช่วยดูให้เยอะมาก
งานเริ่มสตาร์กอีกครั้งหลังรับขนมปังไปคนละแผ่น เลยเที่ยงคืนไปหน่อย พวกเราก็สามารถรันโปรแกรมได้เป็นที่เรียบร้อย แล้วส่งงานไปทางอีเมล์ให้กับโปรเฟสเซอร์ได้ ถึงจะเลทไปหน่อย โดนหักคะแนนไปนิด แต่ก็ไม่มีใครสนใจ ทำให้เสร็จ จะได้ไปเที่ยวก็พอ
งั้นเดี๋ยวอีกชั่วโมงเจอกันละกัน ขอไปอาบน้ำกับแพ็คกระเป๋าก่อน แล้วค่อยแวะมารับนะ
กิมพูดขึ้นขณะเริ่มเก็บโน๊ตบุ้คกลับบ้าน
ช่างมีการเตรียมตัวซะนี่กระไร
ฉันอดแขวะไม่ได้ ก่อนเอ่ยต่อ
มาถึงแล้วก็โทรขึ้นมา เดี๋ยวเราลงไปนะ
ฉันซึ่งอาบน้ำตั้งแต่เย็นก่อนออกมาทำงาน ฮ่าๆ ดูสิเตรียมตัวเที่ยวขนาดไหน งานไม่เสร็จช่างมัน กระเป๋าก็แพ็คแล้ว และถูกวางรออยู่ตรงประตูพร้อม
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่เข้าชั่วโมงที่สองนี่สิ มันไม่เร็วเอาซะเลย
พี่ขิง กิมมันหายไปไหนเนี่ย เอารถเช่าเราแล้วขับหนีไปเม็กซิโกหรือเปล่าค่ะ
ฉันเอ่ยถามทีเล่นทีจริง แต่ทำหน้าตาให้รู้สึกว่าจะจริงมากกว่า ไม่ค่อยไว้ใจกิม เพื่อนซี้เอาซะเลย
โทรไปเช็คที่บ้านดูไหมครับ
พี่ขิงเอ่ยเสียงนุ่ม แบบยังควบคุมสติได้
สิ้นเสียงพี่ขิง ฉันรีบคว้าโทรศัพท์ กดเบอร์ที่จำไม่ได้ แต่อาศัยถามพี่ขิงเอา รออยู่นานจนเข้าเครื่องฝากข้อความ ฉันจึงกรอกเสียงลงไป
หายไปไหนเนี่ย กิมเป็นอะไรหรือเปล่า ถ้ายังไงกลับเข้ามาบ้านแล้วโทรกลับมาที่บ้านพี่ขิงด้วยนะ
นั่นๆ ฉันยังมีน้ำใจเป็นห่วงเพื่อนเห็นไหม ถึงจะมีใจไปคิดเรื่องเที่ยวบ้างก็เถอะ จะได้ไปไหมเนี่ย ใจชักเต้นตุ๊มๆตั๊มๆ ฉันวางหูลง หันไปมองพี่ขิงด้วยสายตาระห้อย พวกเรานั่งรอโทรศัพท์อยู่สักพัก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ว่าไง
ฉันกรอกเสียงลงไป อย่างมั่นใจน่าจะใช่กิม
ก็
.ไม่ว่าไง เออคือ
..
หายไปไหนมาเนี่ย นั่นเค้าเรียกอาบน้ำเหรอ ถึงเธอจะแช่นานแค่ไหน ก็ไม่ขาวขึ้นหรอกนะ
อดไม่ได้จริงๆ ว่าจะถามเป็นงานเป็นการซะหน่อย
บ้าเธอเนี่ย คือฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะ
ทำไมเหรอ มีอะไรน่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า
เปล่า (ไทยแท้ เปล่ามาก่อนเลย) ปัญหาไม่ใช่ที่เรา แต่ที่รถ
ทำไมง่ะ พูดมาเร็วๆสิ
ฉันเร่งถาม ก็คนมันอยากรู้
ฉันลืมกุญแจไว้ในรถ
สั้นได้ใจความมาก
อย่าบอกนะว่าล็อครถไปแล้ว
ฉันพูดเสียงสั่น ก่อนคิดในใจต่อท้าย อย่าให้จริงเลยเจ้าพระคุณ
อืม
เสียงรับเบาๆดั่งปุยนุ่น แต่เหมือนมีหินมาหล่นตรงหัวฉันเลย เสียงต่อมาของกิม ฉันไม่ค่อยได้ฟังเท่าไร ได้ยินประมาณว่า
จริงแล้วฉันอาบน้ำเก็บของเสร็จตั้งชั่วโมงแล้วนะ มัวแต่
ฉันไม่ได้สนใจฟัง หันไปพูดกับพี่ขิง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ปัญหา
แถวบ้านกิมมีอู่ซ่อมรถ แต่มันก็น่าจะปิดแล้ว นี่มันจะตีสามแล้ว
ฉันบ่นพึมพำ หลังจากวางหูจากกิม และบอกให้กิมรอที่ห้องก่อน เดี๋ยวจะโทรไปอีกที
ผมมีสมัคร ทริปเปิลเอ (AAA) ไป เดี๋ยวผมลองโทรไปเช็คกับเค้าดูก่อนละกันครับ
พี่ขิงเอ่ยขึ้น
ค่ะๆ
ฉันรับคำ
AAA เป็นบริษัทที่ให้บริการซ่อมรถยนต์ทั่วอเมริกา ฉันเองก็ไม่เคยใช้บริการเค้าเลย ก็ไม่เคยมีรถนี่หน่า พี่ขิงเองก็เพิ่งสมัครไม่กี่วันมานี่เอง เพราะพี่ท่านกะจะซื้อรถ
พี่ขิงคุยอยู่ไม่นาน บอกตำแหน่งที่ตั้งของรถตอนนี้ ทางทริปเปิลเอ จะส่งคนไปช่วยแงะรถให้
ขอบคุณสวรรค์
ฉันเอ่ยขึ้นอย่างยินดี อาจเป็นพระเจ้าต้องการทดสอบเราก็ได้ ให้ผ่านอุปสรรคหลายขั้นตอน พวกเราจะได้จดจำถึงการไปเที่ยวครั้งนี้ ว่ากว่าจะได้ไปมันลำบากแสนเข็ญแค่ไหน (เขียนไป ก็น้ำตาซึม)
ตกลงวันนั้นกว่าพวกเราจะได้ออกจากเมือง ก็เป็นเวลาเกือบเช้า จากแผนเดิมที่วางกันอย่างสวยหรู ว่าจะทานข้าวเย็นกันสบายๆ ต่างคนต่างนอนรอที่บ้าน มีราชรถมาเกยถึงบ้าน ถึงไม่มีขนาดพรมแดงมาปูก็เถอะ
แต่ถึงยังไงทริปนั้นก็เป็นทริปที่สนุกอีกทริปหนึ่ง เพราะอย่างน้อย ก็ได้ไป จริงไหม :D
จากคุณ :
xyz/xyzjung@yahoo.com (xyzjung)
- [
1 ต.ค. 46 09:51:50
]