แปดโมงตรงไม่ขาดไม่เกิน รถกระบะสี่ประตูสีดำคันใหญ่
ก็แล่นเข้ามาจอดชิดรั้วเหล็กที่ดัดเป็นรูปทรงอย่างสวยงามตรงข้ามหน้าบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้
เอราวุธชะโงกหน้าออกมามองเมื่อได้ยินเสียงรถ และผลุบหายไปอย่างเดิม
สักพักหน้าขาว ๆ ของชายหนุ่มก็โผล่มาอีกรอบเมื่อมองเห็นเจ้าของรถ
เป็นไรเอ ทำท่าผลุบ ๆ โผล่ ๆ แล้วเสียงรถใคร
จารวีเอ่ยถามมองคนนั่งติดประตูที่ทำท่าผลุบ ๆ โผล่ ๆ
ราชรถมาแล้ว เอาของขึ้นรถเถอะ นึกว่าจะเป็นไอ้เหลืองคันเมื่อวานซะอีก
ชายหนุ่มว่า หิ้วตระกร้าเดินตัวปลิวข้ามถนนไปยังอีกฝั่งของรถที่จอดอยู่
บรรพธรเข้ามารับตระกร้าใบขนาดกลางที่บรรจุเสบียงจากมือเอราวุธ
หวัดดีค่ะ คุณบรร จารวีทักทายเมื่อเดินตามออกมา
ขอบคุณนะคะที่จะพาพวกเราไปเที่ยว
ไม่เป็นไรครับคุณจ๋า ช่วงนี้ผมว่างพอดี อีกอย่างเรียกผมว่า บรร ดีกว่าครับ
ค่ะ งั้นบรรก็เรียกจ๋า ว่า จ๋า เฉย ๆ ก็ได้ จะได้ดูสนิทกันหน่อยใช่มั้ยเอ
ใช่ ๆ ไม่ต้องเรียกผมว่า คุณนะ มันฟังแล้วจักกะจี้หูชอบกล เรียก เอ อย่างจ๋าดีกว่า
เอราวุธเดินเข้ามาร่วมวงด้วยเมื่อเดินถือขวดน้ำดื่มกลับมาสมทบอีกรอบ
บัวเสร็จยัง เจ้าที่มาแล้วนะ เลยตะโกนเรียกเจ้าของบ้านที่กำลังปิดประตูหลังบ้านอยู่
เสร็จแล้ว เสร็จแล้ว เสียงตะโกนดังตอบมาก่อนตัว
เจ้าที่ไหนล่ะเอ เขาเรียกเจ้าของพื้นที่ต่างหาก พูดทีไม่ได้ความเลยแก
บัวหอมเดินออกมา ใส่กุญแจดอกใหญ่ที่ประตูหน้าบ้านอย่างเรียบร้อย
ยิ้มตอบคนอาสาพาเที่ยวที่ส่งยิ้มมาให้ก่อนแล้ว
เออ ๆ เขาไม่ถือหรอก เสร็จแล้วไปยังล่ะ อยากไปจะแย่แล้ว
ชายหนุ่มทำท่ากระตือรือร้น เอื้อมมือเปิดประตูหลังให้จารวีก้าวขึ้นไปก่อน
กำลังจะตามขึ้นไป มือเรียวก็มาดึงชายเสื้อไว้ก่อน
อะไรบัว
ที่แกน่ะ โน่นข้างหน้าโน่นนนน นิ้วชี้ไปที่เบาะด้านหน้าคู่คนขับ
อ้าวแก ฉันเป็นแขกนาโว้ย ให้ไปนั่งหน้าได้ไง ส่วนแกเป็นเจ้าของที่ก็ไปนั่งหน้าคู่บรรสิ
แต่แกเป็นผู้ชายนะโว้ย ไปเลยแก ฉันจะได้นั่งกับจ๋าจ้าตามประสาผู้หญิงกัน
บัวหอมยิ้มออกมาได้ เมื่อเพื่อนชายยอมล่าถอย เดินอ้อมไปนั่งตามที่มือชี้
บรรจะไปไหนบ้างล่ะวันนี้ บัวว่าจะพาสองคนนี่ไปไหว้พระธาตุก่อน แล้วค่อยไปที่อื่น
หล่อนเอ่ยถามคนข้างหน้าอย่างปรึกษาไปด้วย
ผมก็ว่าจะพาไปไหว้พระธาตุก่อนเหมือนกัน
เสร็จแล้วว่าจะย้อนกลับมาออกไปทางแก่งโตนค่อยทะลุออกไปเชียงคานดีมั้ย
แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยขึ้นภูไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน
ดีมากเลยบรร ชายหนุ่มอีกคนพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย
คนขับเลยเข้าเกียร์เคลื่อนพาหนะไปอย่างไม่รีบร้อนนัก
จังหวัดเราอยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 520 กิโลเมตร
จากตัวจังหวัดเข้ามาอำเภอเราประมาณ 40 กิโลกว่า ๆ
วัดที่เราจะไปกันอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นวัดที่อยู่บนเนินเขา
ตัวพระธาตุมีลักษณะคล้ายพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก บนฐานมีกลีบบัวล้อมรอบ
เดี๋ยวบรร เราจะพาจ๋าจ้ากับเอไปเที่ยวนะ ไม่ใช่ไปสอบวิชาภูมิประเทศหรือบ้านเมืองของเรา
คำพูดของบัวหอม ทำเอาเอราวุธหัวเราะพรึดอย่างหยุดไม่อยู่ พร้อม ๆ กับจารวี
เจอฤทธิ์แล้วสิ
โถ่บัว
ไปแซวบรรเขาทำไม จารวียังไม่หยุดหัวเราแต่ก็ออกปากปรามคนที่นั่งข้าง ๆ
โทษที
ล้อเล่นน่ะ พูดต่อเหอะ
หล่อนอมยิ้ม สบตาคนขับที่มองหล่อนจากกระจกมองหลังอยู่ก่อนแล้ว
ไม่นึกเลยว่าบัวเป็นคนแบบนี้ คนขับไม่เล่าต่อแต่เริ่มหาเรื่องคนข้างหลังแทน
แบบไหน น้ำเสียงชักระแวง ๆ
ก็เป็นคนตลก ๆ ตอนแรกคิดว่าจะเรียบร้อย เงียบ ๆ ซะอีก
เอราวุธหลุดหัวเราะออกมาหลังจากพยายามกลั้นเอาไว้
ถามจริงเหอะ คุณสองคนครับ เคยเป็นเพื่อนกันจริง ๆ หรือเปล่า
เคย คนเป็นเพื่อนตอบพร้อมกัน
แต่ใครจะไปจำได้ใช่มั้ยว่าเมื่อก่อนใครเป็นไง อย่างฉันนี่
เจอบรรตอนปอสี่แล้วพอจบปอห้าฉันก็ไป ถามจริงเหอะ
ถ้าเป็นแก แกจะจำได้มั้ยว่าใครเป็นไงตอนเด็ก ๆ
จริงนะเอ ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่า ตอนนั้นบัวเป็นไง
พอมาเจอกันอีกทีก็เมื่อต้นเดือน นี่ก็เพิ่งจะได้คุนกันนาน ๆ เป็นครั้งแรกนี่ล่ะ
บัวหอมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
แล้วตอนโตไม่เคยเจอกันเลยเหรอ จารวีถามอย่างอยากรู้
ก็เจอ แต่มันไม่ได้สนิทกันตั้งแต่ต้น อีกอย่างพวกเราก็ไม่ค่อยเจอกันเท่าไหร่
เวลาเจอก็ทักกันบ้างแบบห่าง ๆ อะ
ใช่ บางทีเห็นแต่หน้า ไม่ได้พูดกันเลยก็มี ชายหนุ่มเล่าบ้าง
งั้นวันนี้ก็ถือว่า เราทั้งสี่คนมาทำความรู้จักกันใหม่แล้วกันนะ ดีมั้ย
เพื่อมิตรภาพของพวกเรา เอราวุธเสนอความเห็น
สามคนที่เหลือไม่มีใครตอบรับ ได้แต่ยิ้มกับท่าของเอราวุธที่ทำท่ากระตือรือร้น
พร้อม ๆ กับมิตรภาพที่แผ่กระจายในความรู้สึกของทุกคน
ทั้งสี่ใช้เวลาไม่นานนักในการเข้าไปนมัสการองค์พระธาตุ
ซึ่งวันธรรมดาอย่างนี้คนที่แวะเข้ามาไม่มีเลย
ทั้งหมดเลยย้อนเข้าตัวอำเภออีกครั้งก่อนมุ่งหน้าไปยังชายแดน
น้ำขุ่นคลั่กสีน้ำตาลไหลปะทะหินสีดำที่อยู่ใต้น้ำบ้าง
พ้นน้ำบ้างทำให้เกิดพรายฟองเป็นชั้น ตามความลาดของพื้นที่
ภาพสวยแปลกตาไปอีกแบบ ต่างจากเมื่อตอนน้ำใสในหน้าร้อนหรือหน้าหนาว
ฝั่งโน้น บัวหอมชี้ไปที่ผืนดินอีกฝั่งของลำน้ำ
นั่นนะแผ่นดินเพื่อนบ้านเรา ตอนหน้าร้อนเราเดินข้ามไปอีกฝั่งได้เลยนะ
ข้ามไปยังไง นั่งเรือไปเหรอบัว
เดินลัดเลาะแก่งหินพวกนี้ล่ะไป ช่วงหน้าร้อนน้ำจะลดจนข้ามไปฝั่งโน้นได้
บัวเคยแค่ไปเหยียบชายฝั่ง ส่วนจะขึ้นไปถึงไหนบัวไม่รู้หรอกนะ
เอาไว้จ๋าจ้ามีตอนหน้าร้อนสิ จะได้มาเล่นน้ำด้วย
บัว จ๋าไปเถอะ จะได้ไปแวะกินข้าวเที่ยงริมโขงกัน
เสียงเอราวุธที่ยืนห่างออกไปคู่บรรพธรตะโกนบอกมา สองสาวเลยกลับขึ้นรถอีกรอบ
กว่าจะมาถึงแก่งคุดคู้ที่มีลักษณะเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ทอดตัวขวางลำน้ำโขงสีน้ำตาล
ก็เกือบเที่ยงแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีไม่มากนัก เพราะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว
หรือเป็นหน้าเทศการอะไร
ส่วนใหญ่จะนิยมมากันช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม
ช่วงนั้นจะเห็นแก่งหินได้ชัดกว่ามาก เพิงที่สร้างง่าย ๆ แต่มั่นคงด้วยไม้ไผ่ธรรมดา
ตามความยาวแม่น้ำทอดตัวเป็นแนว ร้านอาหารหลายร้านมีให้เลือกตามความพอใจของลูกค้า
บรรพธรนำเข้าไปร้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
หลังจากการรับประทานอาหารพื้นบ้านอย่างเอร็ดอร่อยกันแล้ว
ก็ถึงช่วงเวลาเดินย่อยและเลือกดูของฝาก ร้านค้ามีไม่มากเท่าใดนัก
จารวีกับเอราวุธจะซื้อมะพร้าวแก้วและกล้วยทอดแต่บรรพธรห้ามไว้บอกจะพาไปซื้อทีหลัง
ทั้งหมดเดินจนบ่ายคล้อย จึงมุ่งหน้ากลับ เขาพาทั้งสามตรงไปยังบ้านชั้นเดียวริมถนนหลังหนึ่ง
ข้าง ๆ บ้านมีเปลือกและกะลามะพร้าวที่ขูดเอาเนื้อออกหมดแล้วกองอยู่พะเนินเทินทึก
เกือบเหมือนภูเขาขนาดย่อม ๆ หน้าบ้านมีแคร่ไม้ขาสูงสร้างไว้วางมะพร้าวแก้ว
พร้อมกับกล้วยทอด จัดใส่ถุงน้อยใหญ่ตามน้ำหนัก และราคา
กระทะใบบัวใบใหญ่ตั้งอยู่บนเตาอั้งโล่ขนาดใหญ่
ภายในมีมะพร้าวเนื้ออ่อนสีขาวกับน้ำตาลที่เคี่ยวจนเกือบจะแห้งแล้ว
อร่อยมากเลยป้า
เสียงคนพูดเอ่ยชมพร้อมหยิบมะพร้าวแก้วเนื้ออ่อนเข้าปากไปด้วย
ไอ้นี่ก็อร่อย
อีกมือเลยหยิบกล้วยสีคล้ำเนื่องจากความสุขของกล้วยเข้าปากอีกรอบ
ตะกละจริงเลยแก เมื่อกี้ก็ซดต้มปลาซะน้ำเกลี้ยงชาม นี่ยังไม่อิ่มอีกเรอะ
บัวหอมอดแขวะคนข้าง ๆ ที่ยืนเคี้ยวตุ้ย ๆ ไม่ได้
ทำเอาชายหนุ่มอีกคนที่ยืนชิมอยู่ข้าง ๆ สำลักไอโขกโขลกหน้าดำหน้าแดงไปด้วย
โถ่
บัวก็ เราแค่ชิม อีกอย่างนี่เราเหมาป้าทั้งถุงใหญ่นั่นเลยนะ
ส่วนเรา ในฐานะที่แวะพามาอุดหนุน คงไม่เป็นไรนะ คนสำลักแก้ตัว
ป้าคนขายมองยิ้ม ๆ บอกไม่เป็นไรชิมได้ตามสบาย
พร้อมแถมถุงเล็กถุงน้อยให้อีก ส่วนจารวีก็ไม่น้อยหน้าเหมาซื้อไม่ต่างจากเพื่อนชายเหมือนกัน
โอ้ย หนักมาก ไม่น่าซื้อมาเยอะเลย
จารวีบ่นเมื่อถือถุงกล้วยทอดเดินตามเอราวุธที่เดินหิ้วถุงมะพร้าวแก้วสองถุงใหญ่
พร้อมกับบรรพธรที่ถือถุงไม่ต่างกันเท่าใดนักเข้าบ้านเมื่อทั้งหมดเดินทางกลับมาถึง
ไม่เป็นไรหรอกจ๋าจ้า อย่างน้อยขากลับก็มีเอขนของให้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อเหอะ
น้อย ๆ หน่อยบัว ไม่ต้องไปยุจ๋านะ ยิ่งยุขึ้นอยู่ ของฝากนะไม่ใช่ย้ายบ้าน
เจ้าของชื่อแย้งมา แต่ทำเพื่อจ๋า เอทำให้ได้ไม่เป็นไร
เออ เอาใจกันเข้าไป ทีเรานะขัดได้ขัดดี
บัวหอมกัดฟันพูด ส่งสายตาอาฆาตไปยังเพื่อนชาย อยู่กินข้าวกันก่อนมั้ยบรร
ไม่ล่ะ ยังไงพรุ่งนี้เรามารับตอนตีสี่ครึ่งนะ จะได้ทันพระอาทิตย์ขึ้น
อือ ขอบใจนะ
หล่อนยิ้มให้คนตัวสูงกว่า พร้อมคำขอคุณจากสองเพื่อนใหม่ที่ยืนอยู่ข้างหลังบัวหอม
ชายหนุ่มหันไปโบกมือให้เพื่อนทั้งสามคน
เดินยิ้มกลับไปนั่งยังหลังพวงมาลัยกำลังจะสตาร์รถ มือเรียวเคาะเป็นสัญญาณ
เขาหมุนกระจกเลื่อนลง มะพร้าวแก้วถุงใหญ่ถูกส่งมาตรงหน้า
เอากลับไปกินนะ ฝากลุง ป้า กับคนที่บ้านด้วย เห็นตอนยืนข้างเอ
เห็นเธอชอบ พวกเราซื้อมาฝากถือว่าขอบคุณสำหรับวันนี้
มือใหญ่ละจากพวกมาลัยมารับไว้ ยิ้มให้คนตัวสูงผอม
ขอบใจนะบัว ฝากขอบคุณสองคนนั้นด้วยนะ
จากคุณ :
พิจิกา...ปลายฝนต้นหนาว
- [
1 ต.ค. 46 17:55:54
A:203.170.150.153 X:
]