เสียงโทรศัพท์กรีดร้องก้องไปในอากาศ ทำลายความเงียบสงบภายในห้อง สองสามครั้งจากนั้นก็เงียบไป หญิงสาวมองแผ่นกระดาษที่ค่อยเลี่อนออกจากเครื่องแฟกซ์ 3 ใบ แล้วเดินตรงมาหยิบอ่าน รายชื่อผู้ตอบรับงานเลี้ยงรุ่นจ้า
ปู.. เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้พิมลพรรณเอื้อมมือไปรับ
ไงพิมได้แฟกซ์เราไหม เสียงของปรียดาดังมาจากปลายสาย
เออ.. ได้รับแล้ว กำลังดูอยู่เชียวว่าใครมากันบ้าง
ก็ หลายคนทีเดียวมีทั้งห้องเรา และห้องอื่นๆที่เพื่อนๆแต่ละคนเค้ารู้จัก ก็บอกต่อๆกันไป พิมคงไม่ว่านะจ๊ะ
เอ๊ะ พิมจะไปว่าได้อย่างไง ดีเสียอีกมากันเยอะๆ จะได้สนุกกัน นี่ก็ตั้งแต่เรียนจบก็ไม่ได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคน ก็ตั้ง 10 ปีแล้วนะ พิมอยากรู้ว่า ใครเขาทำอะไรกันที่ไหนบ้าง
นั่นสิเราก็อยากเจอนะ นี่มีอีกตั้งหลายคนที่อยากมาแต่ติดงาน ยังบ่นกันอุบเลยว่าเราจัดงานตั้งสองวัน สองคืน แถมจัดที่เมืองกาญอีก บางคนมีครอบครัว อย่างยายก้อย กัลยาทำเสียงอ่อยๆว่าอยากมา แต่ลูกเต้าพะรุงพะรัง
ก็พิมบอกปูแล้วว่า ถ้าใครอยากพาแฟน พาครอบครัวมา ก็พากันมา ถือว่ามาเที่ยวพักผ่อน พิมมีทั้งห้องเดี่ยว ห้องคู่ ห้องแฝด ห้องครอบครัว เลือกอยู่ได้ตามใจชอบ
บอกแล้วหล่ะ แต่ก้อยมันอยากแพลนให้แน่นอนก่อน จะตอบตกลง
งั้นพิมโทรไปหาก้อยเองแล้วกัน จะตื้อมาให้ได้เลย คิดถึงเจ้าสองแสบแล้วหมั่นเขี้ยว
_________________________________________________
พิมลพรรณเงยหน้ามองท้องฟ้า ที่ยังมีดาวระยิบระยับ ลมพัดเย็นสบายในช่วงเวลาเช้าตรู่ ก่อนจะยิ้มรับเพื่อนๆที่ทยอย ขนของกันลงจากแท็กซี่บ้าง หรือไม่ก็สามล้อบ้าง ตรงหน้าบริษัททัวร์ พิมลพรรณทราวเวล สลับกับมีเสียง พูดคุยจิ๊กจัก ดังจนฟังไม่ได้ศัพท์
นี่บรรดาคุณช่างคุยทั้งหลาย กรุณาช่วยกัน ขนของมากองรวมกันไว้ตรงนี้นะ เราจะให้เด็กขนไปขึ้นรถบัส ส่วนใครที่ทำแล้วขอเชิญที่ห้องประชุมข้างในด้วยจ้า หลักจากที่พิมลพรรณตะโกนลั่นใส่โทรโข่งอีกทีหนึ่ง บรรดาเพื่อนๆทั้งหลาย ก็ทยอยเดินเข้าตึกแถวห้าชั้น สองคูหา ที่พิมลพรรณเป็นเจ้าของ ดำเนินกิจการการท่องเที่ยว ซึ่งเธอได้รับการโหวตจากเพื่อนๆ ให้เป็นตัวตั้งตัวตี ในการจัดงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนๆจากชั้นมัธยมปลาย เป็นครั้งแรก
ชนะ พิมตะโกนเรียกชายหนุ่ม ที่กำลังลงจากรถแท็กซี่ ก่อนเดินไปหา
พิมนึกว่านะจะลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว เห็นว่าไปก๊งเหล้ากันมาเมื่อวาน
นั่นแหละกะว่าถ้านอนก็คงไม่ตื่น นี่ยังไม่ได้นอนเลยนะ ก๊งไปเรื่อยๆพอได้เวลาก็ลากกระเป๋าออกจากบ้านเลย หลังจากทักยืดยาว ชนะก็เหลียวมามองชายหนุ่ม ที่กำลังช่วย คนขับรถแท็กซี่ขนของลงจากรถ
นี่พิมเราพาเพื่อนมาด้วย นายก้องเพื่อนที่ทำงาน เรียนม.ต้นที่โรงเรียนเรา ก่อนจะย้ายไปเรียนที่อื่น เห็นว่าสถาบันเดียวกันก็เลยพามา
ก้องนี่พิม ตัวตั้งตัวตี เข็นงานนี้ออกมาจนสำเร็จ
สวัสดีค่ะ เอ่อ.. ดีใจค่ะ เอ่อ.. ที่มาร่วมงาน เอ่อ.. นะเอาของไปกองไว้ให้เด็ก แล้วพาคุณ เอ่อ.. ก้องค่ะ ไปที่ห้องประชุมนะ พิมลพรรณหันกลับ อย่างเร็ว แล้วเดินริ่วเข้าตัวอาคาร ราวกลับจะวิ่งหนีอะไรสักอย่าง
ปู.. ปู..
ว่าไง เราจัดเตรียมกาแฟ กับขนม สำหรับเป็นของรองท้องตอนเช้า ไว้ในห้องประชุมหน่ะ พิมไปกินก่อนไป หน้าซีดเชียว ปรียดาบอกอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็น เพื่อนทำหน้าแปลกๆ คล้ายโดนผีหลอกตอนตีห้า
นายก้องมา พิมโผล่งออกไป
ก้องไหน ก้องนูโวเหรอ มาทำไมไม่ได้เรียนด้วยกันซะหน่อย
นี่อย่าทำเป็นตลกเลย นายก้อง.. นายก้อง ห้องแปด ตอน ม.สามไง ปรียดามองหน้าซีด สลับแดงของเพื่อน แล้วรีบจับไปนั่งลงที่เก้าอี้
นายนั่นมาได้อย่างไงนี่แปลกชะมัด ปรียดาเริ่มจะตื่นเต้นตามเพื่อน เมื่อไม่คิดว่า พิมลพรรณจะได้แจ็คพอต เจอคนที่เธอคิดว่าเป็นรักแรกพบ เอาเมื่อ 10 15 ปีต่อมา
มากับชนะ แฟนเก่าเธอนะแหละ
ปูมาแอบอยู่ที่นี่เอง เราหาแทบแย่ เสียงชนะทักมาจากเบื้องหลังของเพื่อนสาว ทำเอาพิมลพรรณ มือไม้สั่นเย็นเชียบ เพราะยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กับอีกคนที่เดินตามเพื่อนชาย อย่างไม่ยอมให้ห่าง
ถึงไม่ได้ยินเสียง ก็รู้ว่าเป็นเธอแน่ๆ เลยชนะ เพราะกลิ่นเธอมันตลบอบอวล ไปทั่วบริษัทของยายพิมอย่างนี้หน่ะ ปรียดาหันกลับไปมองชายหนุ่ม คนที่เคยสวีทด้วยเมื่อครั้งยังเยาว์ ชนะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจากเมื่อสิบปีก่อน ร่างกายผอมบางเก้งก้าง ก็ขยายใหญ่ลำสัน หน้าตาคมขำขึ้น
ได้ยินอย่างนี้แล้วชื่นใจว่าปูยังจำกลิ่นของเราได้ เขายื่นหน้ามาล้อ
อย่ามาทะลึ่ง ไปหาของกินข้างในนู้นไป
เออ นี่ก้อง เอ็งดูไว้ซะ ผู้หญิงคนนี้แหละ ที่ทำให้ข้าเข็ด ขยาดกับความรัก ชนะพยักเพิดไปทางสาวหน้านวล ก่อนยิ้มทะเล้นส่งให้ ปรียดา ยิ้มทักทาย
ปูค่ะ คุณก้องเชิญทานของรองท้องกันก่อนนะค่ะ ประมาณสัก หกโมงเช้าเราจะเริ่มออกเดินทางค่ะ
ขอบคุณครับ เรียกก้องเฉยๆก็ได้นะครับ เรียกคุณแล้วเขินยังไงไม่รู้
ใช่ ส่วนใหญ่เพื่อนๆ เรียกมันว่าไอ้ก้องทั้งนั้นแหละ ชนะพูดแทรกขึ้นมา
เธอเมาแล้วไปข้างในเลยไป อย่างมากวนประสาทแถวนี้ ปรียดา พลักให้คนที่ทำท่าเมาหัวตก เข้าไปข้างในห้อง
คุณพิมเป็นอะไรหรือครับ หน้าซีดเชียว ไม่สบายหรือเปล่า กิติกรณ์ เดินเข้ามาใกล้ แล้วก้มลงมองใบหน้าขาวที่ซีดจัด
ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณก้องเข้าไปทานอะไรก่อนดีกว่าค่ะ พิมลพรรณพยายามไล่ความขัดเขินให้หายไป แต่เมื่อมองใบหน้าที่ลอยอยู่ใกล้ทีไร ทำให้เธอระลึกถึงเมื่อครั้งที่เคยแอบมอง เขาคนนี้เมื่อตอนเป็นเด็กทุกที ดังนั้นใจคอที่มีอยู่จึงเต้นไม่เป็นจังหวะทุกที
คุณพิมก็ต้องทานนะครับ งั้นคุณพิมรอตรงนี้ผมไปเอามาให้คุณเอง กิติกรณ์เดินหายเข้าไปในห้องรับรองแล้ว ทำให้พิมลพรรณหายใจหายคอ สะดวกขึ้น เธอยิ้มอ่อยๆ เมื่อปรียดาเดินกลับมาหา
ต๊ายนายก้องของเธอ ล้อหล่อหละ พิมนี่ตาแหลมชะมัด เห็นแววตานี่มาตั้งแต่เด็ก เอ.. ตอนม.สามก็ประมาณ สิบสี่ สิบห้า โอ๊ยตาย ตาย บุพเพได้อาละวาดกันหล่ะทีนี้
ปูอย่ามาล้อหน่อยเลย พิมไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงแล้วนี่ ตั้งตัวรับแทบไม่ทัน บทเธอจะโผล่ก็โผล่มาอย่างนี้ ปูอย่าปล่อยให้พิมอยู่กับตานี่คนเดียวนะ
ไม่ได้หรอก เวลาของพิมมาแล้ว พิมจะปล่อยให้มันลอยหายไป เหมือนเมื่อก่อนอีกหรือไง
ปูก็รู้ว่าพิมไม่กล้า
ไม่กล้าอะไรจ๊ะ ทีออกทัวร์ ทั้งร้องทั้งเต้น เป็นอีบ้า อีบอ ต่อหน้าลูกทัวร์ยังทำได้
มันคนละเรื่องกันนี่น่า
เอ๊ะ ยายก้อยหอบสามี หอบลูกมาจนได้เฮะ ว่าแล้วเธอก็เดินไป
ผมไม่ทราบว่าคุณชอบอะไร แต่คุณปูว่าคุณไม่ดื่มกาแฟ ผมเลยเอาช็อคโกแลตร้อน กับโดนัท คงได้นะครับ กิติกรณ์ส่งของให้ เมื่อพิมลพรรณเอื้อมมือมารับ
น้าพิม เสียงประสานร้องขานชื่อเธอ เมื่อพ่ีน้องฝาแฝดก้าวตรงเข้ามา โผกอดคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
โก้กับเก้ ตื่นมาจนได้นะ คนที่มีศักดิ์เป็นน้าเอ่ยทัก
โก้ตื่นก่อนเก้ตั้งนานครับ
โก้ตื่นแล้วก็ไม่ลุกครับ ตอนคุณแม่เรียกให้ลุก ยังนอนบิดขี้เกียจอยู่บนที่นอน เก้นะลุกขึ้นพรึบเลย ไม่บิดขี้เกียจด้วย สองพี่น้องแย่งกันรายงานอึ้งอล
คุณแม่อยู่ข้างในครับ โก้แย่งรายงานก่อน
งั้นเข้าไปข้างใน หาอะไรกินกันดีกว่า ขอตัวก่อนนะค่ะ พิมลพรรณหันมาบอกแก่ชายหนุ่ม ก่อนที่จะเดินเข้าไปสมทบ และพูดคุยกับบรรดาเพื่อนๆ ในห้องรับรอง
------------------------------------------------------------------------
พิมลพรรณกระพริบตาถี่ๆ หลายครั้งด้วยกัน ก่อนที่มองวิวข้างทาง เพื่อจะเรียกความจำกลับมา ว่าตอนนี้คณะทัวร์ได้เข้า เขตจังหวัดกาญจนบุรี และอีกไม่ถึงสองชั่งโมง ก็จะถึงรีสอร์ทกลางหุบเขา ที่บิดาของเธอสร้างขึ้น และมอบให้เธอเป็นคนดูจัดการ ทางด้านการประชาสัมพันธ์ หาลูกค้ามาพัก พิมลพรรณมองปรียดาที่หลับคอพับคออ่อนอยู่ที่นั่งริมหน้าต่างข้างตัว ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปทางด้านหลัง หวังจะหานำ้ดื่มแก้กระหาย ดวงตาสบตาสีน้ำตาลเข้ม ก่อนที่เธอจะยิ้มให้เขา
หิวน้ำไหมค่ะ พิมลพรรณถามเสียงเบา เพื่อไม่อยากเป็นที่รบกวน เพื่อนๆที่กำลังหลับเอาแรง โดยเฉพาะชนะ ที่มีเสียงกรนน้อยๆ ลอดออกมา
ก็ดีครับ แต่ถ้าจะมียาแก้ปวดหัวด้วยจะยิ่งดีใหญ่
เดี๋ยวจะหาให้นะคะ พิมลพรรณเดินไปด้านหลังสุดของรถบัส ที่เป็นส่วนไว้สัมภาระต่างๆที่ไว้บริการลูกทัวร์ รวมไปถึงเครื่องดื่ม และกล่องยาเบื้องต้น กิติกรณ์เดินตามหญิงสาว ไปนั่งลงตรงที่ว่างใกล้กองสัมภาระ มองมือเรียวที่กำลังเปิดกล่องยาขนาดย่อม
ปวดหัวอย่างเดียวหรืออย่างอื่นด้วยค่ะ เธอมองใบหน้าเข้ม ที่คล้ายจะคล้ำขึ้น จากเมื่อหลายปีก่อน
อย่างเดียวครับ สงสัยเมาค้างนะครับ เมื่อคืนกินกันที่บ้านเขา ก็ฉลองปิดโปรเจ็ท กินกันจนได้เวลามานั่นแหละถึงจะเลิก กิติกรณ์รับแก้วนำ้ ก่อนที่จะโยนยาเม็ดเล็กๆ สีขาวสองเม็ดลงคอ แล้วตามด้วยการดื่มน้ำทีเดียวหมดแก้ว
อย่างนี้ต้องทานน้ำเยอะๆค่ะ จะได้ดีขึ้น
อีกนานไหมครับถึงจะถึงที่พัก เขาเปลี่ยนเรื่องคุย
ประมาณหนึ่งชั่วโมงได้ค่ะ
เรานั่งคุยตรงนี้ได้ไหมครับ พิมลพรรณมองดวงตาสีน้ำตาล กอ่นจะนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ
ได้ค่ะ คุณก้องเป็นวิศวะกรณ์ เหมือนชนะหรือค่ะ
ครับผม ผมกับชนะ ไปสมัครงานวันเดียวกัน สัมภาษณ์งานวันเดียวกัน แถมบรรจุงานรุ่นเดียวกัน เลยกลายมาเป็นซี้กัน เจ้านายก็เลยชอบให้คุมงานโปรเจ็ท เดียวกันตลอดเวลา ยิ่งรู้ว่าชนะเรียน ม.ปลายที่โรงเรียนที่ผมเรียน เมื่อตอน ม.ต้น ยิ่งเข้ากันได้อย่างดี บางทีเวลาเมา ชนะเขาชอบเล่าถึงเรื่องตอนสมัยเรียน ม.ต้น, ม.ปลาย, มหาวิทยาลัยบ้าง ปนกันอีรุงตุงนัง แยกไม่ออก ที่จำได้ว่าเขาเล่าบ่อยก็อีตอน เจอพิษรักคุดครั้งแรก สาวเจ้าหักอกมันตอน ม.ปลาย
ชนะเป็นคนสนุกค่ะ พิมก็สนิทกับปู มาตั้งแต่ชั้นม.ต้น พอชนะเข้ามาตอนม.ปลาย ก็มาจีบปู ก็เลยกลายเป็นไปไหนไปกันทั้งสามคน
แล้วคุณพิมไม่มีแฟน กับเขาหรือครับ กิติกรณ์จ้องหน้านวล ที่เริ่มมีสีแดงระเรื่อปรากฎขึ้น
ก็มีบ้างค่ะ สมัยเด็กก็แบบ ปั๊ปปี้เลิฟไงค่ะ มาๆไปๆ ถ้ากลับบ้านทางเดียวกัน ทุกวันก็ เฮ้ย..มาเป็นแฟนกันดีกว่า แบบว่าเราถือหนังสือ ถือกระเป๋าให้นะ เราเก็บชีทให้นะ ขอเราลอกการบ้านหน่อยนะ อะไรประเภทนี้แหละค่ะ ฝ่ายชายมองริมฝีปากได้รู้ที่ยิ้มกว้าง ปนหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่เขาจะยิ้มตาม
แบบว่าพอเลิกกันไป ก็ลืมกันไปเลยใช่ไหมครับ เสียงห้าวถามทีเล่นทีจริง
ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ ถ้ายังเรียนด้วยกันก็เป็นเพื่อนกันต่อไปยังไงค่ะ แต่ถ้าจบแล้วแยกย้ายกันไป จะติดต่อหากันก็ลำบาก
นั่นสิครับโดยเฉพาะ ถ้าไม่เคยเรียนห้องเดียวกัน หรือพูดคุยกัน ไม่เคยแลกที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ จะติดต่อหากันก็ยากลำบาก พิมลพรรณมองคนพูดที่ อย่างอยากที่จะค้นหา ความหมายของคำพูดนั้น
นั่นแน่แอบมาทำความรู้จัก กันอยู่ที่นี่เอง คนพูดพยายาม เดินให้ตรง เพื่อที่จะไม่โอนเอนล้มไปนั่งทับ เพื่อนๆที่นั่งหลับสัปหงกในที่นั่งทั้งสองข้าง ยามเมื่อรถเหวี่ยงตัว
พิมขอน้ำกับยาแก้ปวดหัวหน่อยสิ ชนะทำหน้าทำตาอ้อนขอความเห็นใจ
เอาสิ พิมก็หาไว้ให้คุณก้องก่อนหน้านี้ พิมลุกขึ้นให้ชนะนั่งแทนที่ ก่อนที่เธอจะส่งยาแก้ปวดหัว กับน้ำให้เพื่อนชาย
อะไรว่ะเอ็งนี่นะ เกิดปวดหัวตัวร้อน.. ไอ้นี่นะพิม เห็นหงิมๆอย่างนี้ กินเหล้าเช้ายันเย็น ยันเช้า ยังเดินได้ปร๋อ
เบาหน่อยเพื่อน เดี๋ยวคุณพิมจะหาว่าผมเป็นแอลกอฮอลลิค
ถึงคุณพิมไม่ว่า ข้านี่แหละก็คิดว่าเอ็งต้องเป็นแน่ๆเลยว่ะ คุณกิติกรณ์
อย่าไปฟังเลยครับ ไอ้นี่มันต้องเอา 500 หารก่อนถึงจะได้ความจริง คนที่ร้อนตัวกลัวว่าคนอื่นคิดว่าเป็นแอลกอฮอลลิคออกตัว
ชินแล้วหล่ะค่ะ กับนายชนะหน่ะ พิมไม่เคยเชื่อทั้งหมดหรอกค่ะ นอกจากว่าพิมจะได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยตนเอง คนพุดชะโงกไปมองหน้าต่าง ก่อนหันมาบอกทั้งสองหนุ่มว่า
จวนถึงแล้วค่ะ พิมจะไปกำกับคนขับข้างหน้านะคะ
ไอ้นะ นะ:-) คนพูดมองเพื่อนซี้ที่ผิวปากหวืออย่างสบายอารมณ์ ด้วยดวงตาแค้น
-------------------------------------------------------------------------------
จากคุณ :
ชมพูพันธ์ทิพย์
- [
2 ต.ค. 46 22:25:46
A:67.30.216.51 X:
]