บัวหอมเอนตัวนอนลงข้าง ๆ เพื่อนสาวที่นอนซุกตัวใต้ผ้านวมผืนหนา
คนตัวเล็กกว่าหันหน้ากลับมาเผชิญ เมื่อหล่อนดึงผ้าคลุมอก
อ้าว
จ๋าจ้ายังไม่นอนอีกเหรอ
จารวีส่ายหน้า ยัง
นอนไม่หลับ
ทำไมล่ะ ไม่เหนื่อยเหรอ หรือเป็นอะไร
น้ำเสียงสงสัยแกมห่วยใยถามร้อนรน
เปล่า วันนี้สนุกจังเลยนะ แต่เวลามันเร็วจัง
พรุ่งนี้จ๋าก็อยู่กับบัวเป็นวันสุดท้ายแล้ว
น้ำเสียงเหงา ๆ ของคนพูดทำให้บัวหอมจับสังเกตได้
หล่อนผลิกตัวกลับนอนคว่ำเอามือเท้าคางไว้ข้างหนึ่ง
ไม่จริงหรอก ถ้าจ๋าจ้าไม่เป็นไร ทำไมทำเสียงอย่างนี้
แถมยังไม่นอนอีกต่างหาก อีกอย่างถ้าจ๋าจ้าเหงา บ้านบัวก็มีโทรศัพท์
โน้ตบุ๊คเราก็ต่อเนตได้ หรือจะให้บัวลงไปหาก็ยังไหว นั่งรถแค่แปดชั่วโมงเอง
บัว
หือ
บัวอยู่นี่ดีเนอะ ได้ทำอะไรที่บัวชอบ
ดีสิ ไม่งั้นบัวคงไม่กลับมาหรอก อนาคตบัวยังคิด ๆ เลยนะว่า
บัวจะเลี้ยงปลาขาย ทำไร่ปลูกผักไปเรื่อย เอาแบบเล็ก ๆ พอมีพอกินเหลือก็แบ่งขายบ้าง
แต่คงไม่ทำสวนมะขามแล้วล่ะ เพราะราคามันไม่ค่อยคงที่ แถมปีไหนที่อากาศเย็นมาก ๆ ราเพียบ
ขายแทบไม่ได้ราคาเลย อีกอย่างเงินที่เก็บไว้ก็พอจะทำอะไรได้บ้าง
ที่เราก็มีแล้ว ขาดแต่เพียงคนทำเท่านั้นเอง แต่อะไร ๆ ก็คงไม่ง่ายอย่างที่คิด
หล่อนเล่าความฝันให้เพื่อนที่นอนข้าง ๆ ฟังอย่างมีความสุข
จ๋าว่าบัวทำได้อยู่แล้วล่ะ ยังไงจ๋าจะเอาใจช่วยนะ
มือเล็กเอื้อมมาบีบมือเรียวกว่าเบา ๆ อย่างเป็นกำลังใจ
ขอบใจนะจ๋าจ้า
บัว เสียงใส ๆ ยังดังมาอีกหลังจากเงียบไป
อะไร
จ๋าต้องไปอยู่อังกฤษกับพี่เก่ง
สิ้นเสียงพูดคนตัวเล็กเลยขยับเข้ามากอดแขนคนตัวโตกว่าเอาไว้
พี่เก่งได้ทุนไปทำเอก เลยจะพาจ๋าไปด้วย จ๋ากลัวว่าถ้าไปอยู่
จ๋าจะอยู่ไม่ได้
มันไม่เหมือนบ้านเรา ต่างชาติต่างภาษากันทั้งนั้น
จ๋ายังอยากอยู่ในสังคมเก่า ๆ เพื่อน ๆ พี่ที่ทำงาน พ่อแม่ พี่ชายญาติพี่น้องอีก
แล้วพี่เก่งต้องไปตอนไหน
อีกสามเดือน พี่เก่งบอกว่าอยากทำพิธีอะไรให้เรียบร้อยก่อนไป
ไม่เห็นต้องกลัวเลยจ๋าจ้า คนเรา
อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ ถ้าเรารู้จักปรับตัว
แรก ๆ อาจช้า อาจมีปัญหาบ้าง แต่พอจ๋าอยู่ไปมันก็จะชินไปเองล่ะ
อีกอย่างพี่เก่งชวนจ๋าไปด้วยก็ดีนะ ดีออกได้อยู่ใกล้ ๆ กัน หรือจ๋าจ้าไม่อยากไปอยู่กับพี่เก่ง
จารวียิ้มเขิน ก็อยากไปนะ แต่ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก
ก่อนมาพี่เก่งก็พาพ่อกับแม่มาคุยกับที่บ้านแล้ว พ่อก็บอกว่าดี
เพราะพี่เก่งคงอยู่อีกหลายปีกว่าจะกลับ แรก ๆ แม่ก็ไม่อยากให้จ๋าไปหรอกนะ
แถมงอนพี่เก่งด้วย จ๋าไม่รู้ว่าพี่เก่งไปคุยกับแม่ท่าไหน หลัง ๆ เลยยอมง่าย ๆ ซะงั้นล่ะ
บัวหอมยิ้มกว้างให้เพื่อนที่นอนข้าง ๆ ตาพราวระยับ
บัว
อะไรอีกล่ะ อย่าบอกนะว่าจะเปลี่ยนใจอยู่คอยพี่เก่งที่เมืองไทย
ถ้าพี่เขากลับมาอีกทีควงสาวผมทองกลับมาด้วยบัวไม่ปลอบนะ หล่อนพูดอย่างติดตลก
ทั้งที่ในใจออกจะใจหายไม่น้อย ไม่ใช่ไม่ดีใจที่เพื่อนสนิทจะมีความสุข
แต่มันอดใจหายไม่ได้เมื่ออีกไม่นาน คนข้าง ๆ เพื่อนรักซึ่งเคยเห็นหน้ากัน คุยกัน
จะจากไปอยู่ห่างกันตั้งไกล ไกลสุดฟ้าห่างคนละประเทศ
ต่างจากกรุงเทพกับจังหวัดที่หล่อนอยู่ลิบลับ
ถ้าอยู่นี่ คิดถึงอยากเห็นหน้ายังขึ้นรถไปหาให้หายคิดถึงได้
แค่ออกมาอยู่ต่างจังหวัดอย่างนี้ หล่อนยังเหงาไม่น้อยเลยนะ
เมื่อต้องจากเพื่อน ๆ และสังคมเดิม ๆ มา
จ๋ายังไม่ได้บอกเอเลยนะ ว่าจ๋าจะต้องไปกับพี่เก่ง
อ้าว แล้วทำไมไม่บอกมันไปล่ะ
ก็ไม่ทันบอกนะสิ พอเอกลับมาจากสนามบินก็แวะมาหาจ๋า
แล้วก็ลากกันมาหาบัวเลยยังไม่ได้บอกเอ กลัวเอจะน้อยใจ
พวกเราทำอะไรไม่ค่อยบอกเอเลย
จารวีพูดอย่างกังวลปนหนักใจ
บัวหอมพลิกตัวกลับนอนราบ เงยหน้ามองเพดานมุ้งที่คล้อยต่ำลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก
นึกถึงเพื่อนชายที่นอนอยู่ห้องโถงข้างนอก
จะว่าไปตลอดระยะเวลาที่คบกันมา เอราวุธจะเคารพสิทธิการตัดสินใจของพวกเธอเสมอ
อีกอย่างนี่มันเป็นเรื่องน่ายินดี เขาคงคิดเหมือนกับหล่อนคิด
ก็เพื่อนกันนี่เนอะ ได้เห็นเพื่อนมีความสุขก็พลอยสุขใจไปด้วย
บัวว่าเอต้องเข้าใจจ๋าจ้า นี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายซะหน่อย
มันเป็นผู้ชายนะไม่เก็บเรื่องเล็ก ๆ อย่างนี้มาคิดหรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เล่าให้เอฟังสิ
เอน่ะเป็นคนที่ใช้อารมณ์ เอ้ย เหตุผลมากกว่าอารมณ์นะ
ไม่ใช่ไม่ได้ดังใจก็เอะอะโวยวายไม่รับฟังเหตุผล
อีกอย่างมันคงดีใจนะที่ไม่มีป้าแก่ ๆ อย่างพวกเราสองคน
คอยล้อมรั้วป้องกันหญ้าอ่อนในแผนกเอาไว้อีกแล้ว
จารวีหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ พยายามยกผ้านวมขึ้นปิดปาก
กันเสียงลอดออกไปนอกห้อง สบายใจขึ้นเมื่อได้ปรึกษา ได้เล่าอะไร ๆ ให้เพื่อนรักฟัง
บัวว่าเรานอนเหอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นกันแต่เช้า
บัวหอมลุกขึ้นมานั่งกราบหมอนที่หนุนอยู่ไปสามที จารวีลุกขึ้นมาทำตามบ้าง
ไม่สวดมนต์ด้วยเหรอ จารวีถามอย่างงง ๆ
เมื่อเห็นหล่อนล้มตัวนอนเหมือนเดิมโดยไม่มีการท่องบทสวดมนต์อะไรต่อ
ไม่ล่ะ ตอนนี้พระท่านจำศีลเอ้ย จำวัดแล้ว อากาศเย็น ๆ อย่างนี้
ท่านไม่มาฟังเราท่องอยู่หรอก นอนเหอะ
เสียงคุยแว่ว ๆ พร้อมเสียงหัวเราะของสองสาวในห้องเงียบไปแล้ว
แต่ชายหนุ่มนอกห้องยังนอนลืมตาโพลง ไม่ใช่เป็นเพราะเสียงของเพื่อน
ไม่ใช่เป็นเพราะอุณหภูมิที่เริ่มลดต่ำจนรู้สึกหนาว
สาเหตุที่ทำให้เขานอนลืมตาอยู่ในขณะนี้เป็นเพราะเสียงโทรศัพท์เมื่อตอนหัวค่ำ
หลังที่แยกย้ายกันมานอนแล้วต่างหากที่ทำเอาเขานอนไม่หลับ หลับไม่ลง
เพียงคำพูดที่ส่งผ่านมานั้นเป็นแค่คำพูดสั้น ๆ สั้นจนทำเอาเขาตัวแข็งทื่อ
เย็นวาบเหมือนตกลงไปสู่หลุมดำอันมืดมิด แทบจะหมดแรงทำอะไรเอาดื้อ ๆ
สมองก็ดูหนักอึ้งเหมือนมีใครเอาฆ้อนมาทุบ ๆ ให้มันบุบบี้จนแทบแหลกเหลว
ฝนท้อง ทำไงดี
แล้วเขาก็ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวปลายสาย
เขาไม่รู้ว่า เขาพูดปลอกเจ้าตัวหรือพูดอะไรออกไปบ้าง เขารู้แต่ว่า เขาคิดอะไรไม่ออกเลยในตอนนั้น
เมื่อวาน วันนี้เขายังยิ้มหัวเราะอารมณ์ดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสบายใจในวันหยุด
แต่พอตกเย็นกลับต้องมาเจอปัญหาใหญ่ ทำเอาหนักใจ หนักหัวใจที่เต้นอย่างสม่ำเสมออยู่ในขณะนี้
เบื้องนอกดาวพราวเต็มฟ้า แต่อารมณ์ของเขากลับมืดมิดจมดิ่ง
ท่อนแขนถูกยกขึ้นมาก่ายหน้าผาก ดวงตายาวรีเหม่อมองท้องฟ้านอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย
แววกังวลฉายชัดอยู่ในใบหน้า
เหนื่อย
คำที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ จะมีมั้ยนะซักที่
เป็นที่ให้เขาได้พักใจและพักกายยามเหนื่อยล้า ชายหนุ่มหลับตาลงช้า ๆ
ปล่อยเรื่องราวต่าง ๆ ให้จมหายไปกับความมืดมิดและเงียบสงบของบรรยากาศ
เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือเครื่องเล็กดังก้องบ้าน
มือยาวกดปุ่มให้เงียบเสียงลง บัวหอมดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
มองผ่านตาข่ายสีขาวขุ่นของมุ้งหลังใหญ่ออกไป ฟ้าเบื้องนอกยังมืดสนิท เดือนคล้อยต่ำ
อากาศเย็นชื้นเพราะน้ำค้างยามดึง
วาดมือจะไปปลุกเพื่อนที่นอนข้างตัว
แต่ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายตื่นแล้วแถมนอนยิ้มตาใสให้หล่อนอีก
อาบน้ำมั้ย หรือจะซักแห้ง
อาบสิ จ๋าไม่ยอมเน่าอยู่คนเดียวหรอกนะ
จารวีลุกเปิดประตูมุ้งออกไปหยิบของใช้ที่จำเป็นในกระเป๋า
เอาน้ำร้อนมาผสมมั้ย
คนจะไปอาบน้ำส่ายหน้าแล้วเดินไปยังห้องน้ำ
จากคุณ :
พิจิกา...ปลายฝนต้นหนาว
- [
3 ต.ค. 46 11:43:19
A:203.170.149.150 X:
]