i believe..

    ก่อนอื่น ต้องขอบอกก่อนว่า นี่เป็น เรื่องสั้นเรื่องแรกที่เอามาโพสลงที่นี่ ทุกทีเคยแต่แต่งเล่นๆ อ่านเอง

    การเรียบเรียงคำพูดอาจจะยังดูไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่คนเก่ง แต่เป็นคนรักงานเขียนมากๆ เลยอยากลองแต่งเรื่องให้คนอื่นได้ลองอ่านกันดู

    ชอบไม่ชอบยังไง บอกกันมาได้นะคะ..

    แล้วก้อขอแนะนำอย่างนึงคือ เรื่องสั้นเรื่องนี้ ถ้าใครมีเพลง i believe เพลงประกอบหนังเรื่อง My Sassy Girl หละก็ ลองเอามาเปิดฟังไปด้วยระหว่างอ่านนะคะ จะเข้ากับเรื่องมากๆค่ะ ยิ่งถ้าเป็น version piano ยิ่งดีเลยหละค่ะ




    I believe
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    พี่ชายของฉัน เป็นนักเปียโนชื่อดัง
    ฉันรักพี่มาก..

    ฉันชื่อว่า เพลีน่า เป็นลูกครึ่ง ไทย-อังกฤษ พ่อแม่ของฉันทำงานอยู่ที่อังกฤษ ฉันไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อังกฤษด้วย เลยไปขออยู่กับ ป้าแสง พี่ของแม่ แต่ว่าท่านเสียไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ฉันเลยอยู่กับ พี่เก่ง ลูกของป้าแสง กันสองคน

    พี่เก่งอายุ 23 ปี เป็นนักเปียโนชื่อดังของเอเชีย พี่เก่งได้รับเกียรติให้ไปเล่นเปียโนให้กับวงดนตรีและนักร้องชื่อดังมาแล้วมากมาย

    ส่วนฉันอายุ 17 ปี ฝันอยากจะเป็นนักร้องเพลง Rock และมือกีต้าร์

    เดิมทีฉันไม่ค่อยชอบการเล่นเปียโนของพี่ซักเท่าไหร่
    ฉันว่ามันดูไม่เท่ห์..
    ฉันอยากให้พี่เล่นกีต้าร์มากกว่า..

    แต่พอฉันได้ดู Concert เดี่ยวเปียโนของพี่บนเวที
    ฉันก็เปลี่ยนความคิดไป
    ฉันเริ่มชอบเปียโน และรู้สึกว่าพี่เท่ห์มาก..

    “เพ..ช่วยฟังท่อนนี้หน่อยสิ ว่าโอเครึยัง” พี่เล่นเปียโนให้ฉันฟัง

    “เพว่าแปลกๆนะพี่เก่ง ดูมันไม่เข้ากับทำนองช่วงแรกเลย”
    “ใช่ พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ แต่บริษัทเค้ากำหนดมาอย่างนี้ พี่ไม่รู้จะทำยังไงดี”
    “เพว่า พี่ลองแก้ให้มันช้าลงดีมั้ย”
    “ช้าลงหรอ….งั้นอีกทีนะ” พี่เล่นเปียโนให้ฉันฟังอีกครั้ง

    “โอเคเลยพี่เก่ง ประมาณนี้แหละ”

    “แล้วเพลงนี้ พี่แต่งให้ใครหรอ”
    “ให้วง Tat2”
    “อ๋อ วง Tat2….วงนี้นี่ดังได้เพราะพี่แท้ๆเลยนะเนี่ย” พี่ยิ้มให้ฉัน

    “จริงสิเพ พรุ่งนี้วันพบผู้ปกครองใช่มั้ย”
    “ใช่ พี่เก่งจะไปหรอ”
    “ก็ต้องไปสิ พี่เป็นผู้ปกครองเพนะ”
    “แต่เดี๋ยวก็มีสาวๆมารุมกรี๊ดพี่อีก เพรำคาญ”
    “ไม่เป็นไรหรอก พี่ชินแล้ว”
    “พี่อ่ะชิน แต่เพไม่ชินนี่หน่า” พี่หัวเราะให้ฉัน

    พี่เคยไปที่โรงเรียนของฉันครั้งนึง พวกสาวๆในโรงเรียนทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ไม่รู้มาจากไหน แห่มาหาพี่ฉัน รุมขอลายเซ็น ถ่ายรูป แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

    ก็ พี่ฉันหล่อนี่..

    “หวัดดีจ้ะ น้องเพ”
    “อ้าว หวัดดีค่ะ พี่เดือน”
    “นี่จ้ะ กับข้าว พี่ซื้อมาฝาก”
    “ขอบคุณค่ะ งั้นเดี๋ยวเพเอาใส่จานนะคะ”
    “จ้ะ แล้วพี่เก่งอยู่ไหนจ้ะ”
    “ในห้องค่ะ แต่งเพลงอยู่” พี่เดือนยิ้มให้ฉันแล้วเดินไปหาพี่เก่ง

    ฉันเดินเอากับข้าวจากแขกคนประจำ หรือจะเรียกว่าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านก็ได้ ไปใส่จาน ด้วยท่าทางเซ็งๆ

    พี่เดือน เป็นแฟนของพี่เก่ง
    ฉันไม่รู้ว่าสองคนนี้คบกันมานานเท่าไร แต่ที่แน่ๆฉันรู้ว่า พวกเขารักกันมาก

    “มา…เพ กินข้าวกัน” พี่เก่งเดินออกมาจากห้องพร้อมพี่เดือน
    “ค่ะ”

    ฉัน พี่เก่ง และพี่เดือน นั่งกินข้าวกันสามคน มันดูจะเป็นเรื่องปกติ ธรรมดา ที่ฉันน่าจะชินได้แล้ว ร่างกายฉันอาจจะชิน แต่ใจของฉันมันชินไม่ได้

    อาจจะเป็นเพราะว่า ฉันหึงพี่

    เพราะ ฉันรักพี่มาก

    ความรักแบบไหน?
    ฉันเองก็ไม่รู้

    ภาวนาแต่ว่า อย่าให้มันเกินความเป็นพี่น้องกันเลย

    “เออ เดือน….พรุ่งนี้พี่ไม่ไปบริษัทนะ จะไปโรงเรียนเพ”
    “หรอคะ งั้นเดือนจะมารอที่บ้านละกันนะคะ” พี่พยักหน้ารับ

    “พี่เก่ง พี่เดือน…..เพอิ่มแล้ว ขอขึ้นห้องก่อนนะคะ”
    “จ้ะ แล้วรีบเข้านอนนะจ๊ะ” พี่เดือนยิ้มให้ฉัน

    จะว่าฉันไม่ชอบพี่เดือนมั้ย?
    ก็ไม่ใช่ไม่ชอบนะ เพราะพี่เค้าเป็นคนดี น่ารักมากๆ ดีกับฉันทุกเรื่อง
    แต่อาจจะไม่ชอบตรงที่ เค้าทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของพี่

    แต่เค้าก็ถือว่าเป็นเจ้าของพี่จริงๆ..

    ================================================

    วันรุ่งขึ้น..
    วันนี้เป็นวันพบผู้ปกครอง

    พี่ใหญ่เดินเข้ามาที่โรงเรียนพร้อมฉัน

    อย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ
    พอสาวๆในโรงเรียนเห็นพี่ ก็กรี๊ดกร๊าดแบบพวกบ้าดารา
    ฉันเห็นแล้วก็ รำคาญ

    ที่ฉันแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยก็คือ

    ครูก็เป็นไปด้วย
    เห็นพี่ฉันแล้ว..ทำท่าทางอย่างกับลดอายุลง ทั้งๆที่หน้าไม่ให้

    เห็นแล้ว ฉันก็อดขำไม่ได้

    ช่วยไม่ได้ พี่ฉันหล่อ

    “พี่..ครูคนเมื่อกี้จ้องพี่ตาไม่กระพริบเลยนะ ระวังตัวไว้ด้วยหละ”
    “นั่นสิ น่ากลัวชะมัด….ไป กลับกันเหอะ เพ”
    “ค่ะ”

    กว่าฉันกับพี่จะเดินออกจากโรงเรียนไปได้ ก็ต้องผ่านจุดแจกลายเซ็นไปถึง 2 ด่านใหญ่ๆ

    ดูตอนนี้ ตอนที่ฉันอยู่กับพี่สองคน ฉันมีความสุขมาก..
    แต่เมื่อกลับถึงบ้าน เจอสภาพเก่าๆ คนเดิมๆ ฉันก็เริ่มเซ็ง

    “อ้าว กลับมาแล้วหรอ รอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวพี่อุ่นข้าวให้”

    เรา…..
    ใช่ ต้องเรียกว่าเรา
    เราสามคนนั่งกินข้าวพร้อมกันเหมือนทุกวัน

    ซักวันเราคงกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันแบบสมบูรณ์แบบ
    ฉันภาวนาให้วันนั้นอย่ามาถึงเลย

    ฉันขึ้นไปห้องนอน ปิดประตูไม่สนิท เลยทำให้ได้ยินเสียงข้างล่าง

    “เดือน พรุ่งนี้ไปเลือกแหวนกันนะ”

    ฉันฟังดูก็รู้แล้วว่า พี่เดือนจะต้องกำลังยิ้มแบบอายๆอยู่

    เฮ้อ~สงสัยว่าวันๆนั้นจะมาถึงแล้ว
    วันที่เราสามคนจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน

    พอพี่เดือนกลับไป และพี่เก่งเข้านอน

    ฉันก็ออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ

    นั่งที่ม้าหิน

    “นึกว่าร้องไห้อยู่ซะอีก”

    ชายแปลกหน้า อายุน่าจะพอๆกับฉัน เข้ามาทักฉัน

    “ทำไมฉันต้องร้องไห้”

    “คนที่มีความสุขหน่ะ เค้าคงไม่มานั่งถอนหายใจคนเดียวที่สวนสาธารณะตอนกลางคืนหรอก”

    ฉันรู้สึกว่า โดนแทงใจดำ

    “นายเล่นกีต้าร์หรอ” ฉันมองเห็นกีต้าร์ที่เค้าถืออยู่ จึงถามขึ้น
    “ใช่ อยากฟังเพลงอะไรมั้ยหละ จะได้เข้ากับบรรยากาศเศร้าๆของเธอ”

    “นายรู้จักเพลง I believe มั้ย”
    “เพลง soundtrack หน่ะหรอ”
    “ใช่”
    “ทำไมหรอ”
    “ฉันหน่ะเคยไปดูหนังเรื่องนี้กับพี่ ฉันชอบเพลงนี้มาก พี่ก็รู้ว่าฉันชอบเพลงนี้มาก เลยเล่นเปียโนเพลงนี้ให้ฉันฟัง และสอนให้ฉันเล่นกีต้าร์เพลงนี้ แต่ฉันก็ยังเล่นไม่ได้ จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังเล่นไม่ได้อยู่ดี..”

    “ใช่ เพลงนี้รึป่าว…..” นายแปลกหน้าคนนี้ดีดกีต้าร์เพลง I believe ให้ฉันฟัง

    ฉันก้มหน้าลง ตั้งใจฟังเสียงกีต้าร์คลอเบาๆ และนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น

    เพลงนี้แหละ I believe

    ฉันคิดแล้ว น้ำตามันก็ไหลออกมา

    “แตร๊งงงงง….ง” นายแปลกหน้าตั้งใจดีดกีต้าร์ให้เพลงล่ม

    “….” ฉันเงยหน้ามองเค้า ประมาณว่า ทำไมหยุดเล่นหละ”
    “เธอคงรักพี่มาก” ฉันก้มหน้าลง

    “เธอรู้ความหมายของคำว่า believe มั้ย” ฉันเงยหน้าขึ้นมามองนายแปลกหน้า
    “ความเชื่อไง believe หมายถึงความเชื่อมั่น เชื่อใจกัน…ฉันก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเธอมีปัญหาอะไรกับพี่ แต่ฉันเชื่อว่าถ้าเธอเชื่อใจตัวเอง และเชื่อใจพี่เธอ ปัญหาทุกอย่างแก้ได้”

    “เฮ้อ….นานๆ ฉันก็พูดอะไร เข้าท่าเหมือนกันนะเนี่ย” ฉันหัวเราะ นายแปลกหน้ายิ้ม

    “ฉันกลับก่อนหละ ขอบคุณมาก หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะ” ฉันลุกขึ้นยืน และเดินกลับบ้าน

    ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่า สภาพที่ฉันต้องกลับมาเจอ ก็คือ

    พี่ฉันนั่งรออยู่ที่โซฟา

    “ไปไหนมา เพ”
    “สวนสาธารณะค่ะ”
    “ไปตอนนี้เนี่ยนะ รู้มั้ยว่ามันกี่โมงแล้ว”
    “….” ฉันนิ่งเงียบ ตกใจที่พี่พูดเสียงดัง

    พี่เข้ามากอดฉันแล้วพูดเบาๆว่า

    “อย่าไปไหนอีกนะ พี่เป็นห่วง”

    ฉันแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

    ================================================

    หลายวันต่อมา การเตรียมงานแต่งงานของพี่ท่าทางจะไปได้ด้วยดี
    ทุกอย่างดูเรียบร้อย

    วันแต่งงานของพี่ ตรงกับ วันเกิดของฉัน พอดี

    ฉันเดินเข้าไปหาพี่ที่ห้อง
    พี่แต่งชุดสูท เท่ห์มาก

    “อ้าว เพ เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันยิ้มให้พี่

    “พี่รักเพมั้ย”
    “ถามแปลกๆ ก็ต้องรักอยู่แล้ว พี่มีน้องอยู่คนเดียวนี่หน่า”
    “เพรักพี่นะ” พี่ยิ้มให้ฉันและจูบหน้าผากของฉันเบาๆ

    “เก่ง เสร็จรึยัง”
    “เสร็จแล้วครับ จะออกไปแล้วครับ”

    พี่หันมายิ้มให้ฉันแล้วลุกออกไปจากห้อง

    ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว

    “เจ้าบ่าวมีอะไรจะพูดมั้ยครับ” พิธีกรของงานกล่าวบนเวที

    “ครับ ก่อนอื่น ผมต้องขอขอบคุณแขกทุกท่านมากๆนะครับ ที่ให้เกียรติมาร่วมงานของผมกับเดือน และงานวันนี้ พอดีตรงกับวันพิเศษของคนๆนึง ผมขอมอบเพลงนี้ให้แก่เธอครับ น้องสาวของผม เพลีน่าครับ”

    พี่เดินไปที่เปียโน และเล่นเพลงๆนึง

    เพลงๆนั้น เพียงแค่ขึ้นต้นเพลงมา

    ก็ทำเอาฉันน้ำตาร่วง

    บทเพลงที่ฉันรักมากที่สุด

    I believe……..




    พองานเลิก ฉันก็เดินกลับไปที่สวนสาธารณะอีกครั้ง
    เพราะหวังว่าจะได้เจอกับคนบางคน

    แล้วก็ได้พบกับเค้าจริงๆ
    สิ่งแรกที่ฉันทำเมื่อพบกับเค้า ก็คือ ยิ้มให้

    “ฉันว่าคนที่มีความสุข เค้าก็มาเดินเล่นสวนสาธารณะคนเดียวตอนกลางคืนได้นะ”

    ฉันยิ้มให้นายแปลกหน้า ที่ต่อไปเค้าคงไม่ใช่คนแปลกหน้าอีกแล้วหละมั้ง


    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    จากคุณ : นันนพิน - [ 5 ต.ค. 46 15:45:15 A:161.200.255.161 X: ]