+;+;Silence of the Lamb +;+;

    (๑)

    ‘แพร’ ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นด้านหลังร่างแบบบางของเพื่อนสาวที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟารับรองแขก เธอถึงกับถอนหายใจด้วยซ้ำ เมื่อสามวันที่แล้วนี่เอง ห้าวันที่แล้วด้วย เจ็ดวันที่แล้วด้วยสิ อ้อ รวมถึงสิบสองวันที่แล้วอีกต่างหาก แล้วก็ต้องนับครั้งนั้นเมื่อเดือนที่แล้วด้วย

    หญิงสาวคนเดียวกันนี้มานั่งรอเธอที่ตรงนี้…ที่โถงคอนโดของเธอ บนโซฟาตัวเดิม เวลาเดียวกันนี้ พร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วย… ทุกที

    ‘แพร…ทำไมมันต้องโกหกฉันด้วย’

    “ว่าไง แม่คุณ แม่ดอกแก้ว” แพรตบไหล่เพื่อนสาวจากทางด้านหลัง แก้วเอี้ยวคอมาดูแวบหนึ่งแล้วรีบหันกลับพลางปาดน้ำตาทิ้ง แพรจึงแกล้งเมินหน้าหนีแล้วทำเป็นค้นหากุญแจห้องในกระเป๋าถือ นึกในใจว่าเดาแล้วไม่มีผิด…

    ‘ไม่! ต้องพูดกันเดี๋ยวนี้’ แพรจำได้แม่นตอนที่เพื่อนสาวโทร.หาแฟนหนุ่มอยู่ในห้องพักของเธอ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรก ก่อนจะมีครั้งต่อๆ ไปที่วนไปวนมาอยู่อย่างนี้ หลังจากมีคนมาบอกเธอว่าเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนอื่น… และดูยังไงก็ไม่ใช่ ‘เพื่อน’

    วันนั้น คือ วันแรก และยังไม่มีวันสุดท้าย

    ‘ไม่! อย่านะ’ หญิงสาวเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งหลังจากถูกอีกฝ่ายวางสายใส่ ‘มันวางหูใส่ฉัน แพร ดูมันสิ!!’ น้ำเสียงนั่นเกรี้ยวกราด

    ‘ใจเย็นๆ… อย่าคิดมากเลย’

    แต่ถึงจะพูดอะไรตอนนี้ แก้วก็ไม่รับฟังทั้งนั้น หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ที่ขว้างทิ้งไปแล้วพยายามโทร.กลับไปใหม่ แต่ทำยังไงชายหนุ่มก็ไม่ยอมรับสาย พอเรียกไปเป็นครั้งที่สี่ก็ปรากฏว่าเขาปิดเครื่องหนีไปแล้ว

    ‘มันไม่แคร์ฉันเลย แพร แกเห็นมั้ย?’

    ‘เอาน่า…แก้ว ขืนคุยกันตอนนี้ แกก็ทะเลาะกันเปล่าๆ อีกอย่าง ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นแค่เพื่อนก็ได้ แกคิดมากไปเองหรือเปล่า คนที่มาบอกน่ะเชื่อถือได้เหรอ…’

    ‘ไม่ใช่คนเดียวนะแพร มีคนมาบอกฉันหลายคนแล้วนะ… ดูเหมือนว่าใครๆ ก็รู้ ก็เคยเห็นแม่นั่นทั้งนั้น แล้วมีฉันเป็น:-)อยู่คนเดียว’

    ‘แล้วแก้วเคยถามโจ้ตรงๆ มั้ย ฉันหมายถึง ก่อนหน้านี้น่ะ’

    ‘ก็เคยถาม โจ้ก็บอกว่าฉันคิดมาก วันนั้นไปเดินกับน้องบ้างล่ะ เพื่อนที่ทำงานเก่าบ้างล่ะ กับกลุ่มน้องสาวเพื่อนบ้างล่ะ…ฉันไม่รู้สิ แพร ฉันกับมันก็คบกันมาตั้งนานขนาดนี้ ฉันก็รู้ ว่าคนเรามันก็มีนอกลู่นอกทางกันได้บ้าง เขวกันบ้าง ฉันก็ไม่ใช่ถึงจะรับไม่ได้หรอกนะ ตราบใดที่ …แกเข้าใจมั้ย’

    ‘ไม่จริงจัง…’ แพรช่วยเติมคำตอบให้เพื่อน

    ‘ใช่’ แก้วตอบเสียงอ่อย

    ‘แก้ว ฉันสมมตินะ… สมมติว่า ถ้ามันไปมีคนใหม่จริงๆ แก้วจะทำยังไง’

    ‘ไม่รู้สิ…เฮ้อ…’ เธอถอนหายใจ ‘ฉันไม่เคยคิดถึงเหมือนกัน…เราคบกันมานานเกินไป แพร…’ เธอลุกแล้วเดินไปที่ระเบียงแล้วทอดสายตาออกไปไกล ครุ่นคิดถึงคำพูดของเพื่อนสาว

    ‘แพร แกเคยเจอโจ้กับผู้หญิงคนนั้นมั้ย’

    ไม่มีคำตอบ

    ‘แกก็เคยเห็นใช่มั้ย!!??’ เธอหันกลับมาหน้าซีดเผือด เพื่อนสาวผินหน้าหนีพูดอะไรไม่ออก

    ‘นานเท่าไหร่แล้ว…?’ แก้วเค้นเสียงถาม แต่เพื่อนสาวก็ยังไม่ยอมตอบ ‘ทำไม ฉันถึงหูหนวกตาบอดแบบนี้นะ’ หญิงสาวรีบจ้ำกลับมาที่ห้อง กดโทรศัพท์อย่างเอาเป็นเอาตาย

    ‘แก้ว ใจเย็นๆ น่า…’

    ผ่านไปพักหนึ่ง โทรศัพท์ก็ติด เขาเปิดเครื่องแล้ว

    ‘ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร…?’ เธอรีบกรอกเสียงลงไป
    ‘ไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ โจ้ แก้วก็แค่อยากรู้ความจริง บอกมานะว่าเป็นใคร’
    ‘ไม่วันหลังแล้ว บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นก็เลิกกันไปเลย’
    ‘อย่านะ!!’

    ตึ๊ด ตืด…. โทรศัพท์ถูกตัดไป

    หลังจากวันนั้น ผู้หญิงลึกลับคนนี้ก็คุกคามชีวิตของแก้วมากขึ้นทุกทีๆ มันเหมือนทุกๆ สามวัน ทุกๆ สัปดาห์ ทะเลาะกัน-คืนดีกัน-ทะเลาะกัน-แล้วก็คืนดีกัน…

    ยิ่งนานวัน ‘การมีอยู่’ ของผู้หญิงคนนั้นก็เด่นชัดขึ้นทุกทีๆ
    กลิ่นน้ำหอมในรถเขา ตุ้มหูข้างนั้น โทรศัพท์เครื่องที่สองที่เขาปิดไม่ให้เธอรู้อยู่เป็นเดือน สายตาเย็นชา เหมือนถูกบังคับให้ทำ…บังคับให้รักเธอ เหลืออยู่อย่างเดียวเท่านั้น … เขาไม่เคยยอมรับ

    และไอ้ความมั่นใจบ้าๆ ของหญิงสาวที่เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว คนที่เหลือคนสุดท้าย ตัวจริงก็ต้องเป็น ‘เธอ’ แพรอยากถามเพื่อนเหลือเกินว่าอะไรทำให้เพื่อนมั่นใจได้ขนาดนี้ จนยอมให้อภัยจนถึงทุกวันนี้

    ‘ฉันไม่เข้าใจ มันทำกับแกขนาดนี้แล้ว แต่ฉันก็เห็นแกกลับไปคืนดีกับมันทุกครั้ง’ แพรถามคำถามนี้หลักจากแก้วมาร้องห่มร้องไห้เรื่องที่เขาไปเปิดโทรศัพท์อีกเครื่องแต่ไม่ยอมบอกเธอ

    มันเปลี่ยนไปตอนไหนไม่รู้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง ที่แพรเลิกบอกให้เพื่อนเลิกคิดมาก แล้วกระตุ้นให้เพื่อนคิดเยอะๆ แทน ว่าจะเอายังไงต่อไปกันแน่

    ‘ฉันยังไม่อยากให้คนที่ทำงานรู้’ ทั้งคู่ ทำงานอยู่ที่เดียวกัน

    ‘ไม่อยากให้แม่รู้ด้วย แพร แกก็รู้ ว่าแม่ฉันหวังกับโจ้แค่ไหน’ นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งที่เวลาจะทะเลาะกัน จะปรับความเข้าใจกัน หรือจะคืนดีกันก็ต้องมาใช้ห้องของแก้วทุกที

    ‘แกก็จะปล่อยให้เป็นสามคนผัวเมียอย่างนี้เหรอไง…?’

    แก้วนิ่งไป เหมือนพูดอะไรไม่ออก ‘ความรัก’ กับ ‘ความโกรธ’ กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง

    ‘ไม่ ฉันจะไม่เป็นคนทนอีกแล้ว ให้มันรู้กันไป ฉันจะเลิกกับมัน คนเลวๆ อย่างนั้น’ แก้วมองหน้าเพื่อนสาวอย่างมุ่งมั่น แล้วล้วงเอามือถือออกจากกระเป๋า…

    แต่แพรฟังคำนี้มาหลายต่อหลายครั้ง แพรรู้ว่าเพื่อนไม่เคยทำได้ ไม่ช้า ทั้งคู่ก็จะกลับไปดีกันเหมือนเดิม เพื่ออีกไม่กี่วันต่อมา แก้วจะวิ่งกลับมาร้องไห้บอกว่าพอแล้วๆ ๆ … ฉันไม่เอามันแล้ว

    แล้วก็จะร้องไห้กลับมาใหม่

    จากคุณ : นารูมิ - [ 5 ต.ค. 46 16:54:15 ]