เพลงแรกที่ท่าน้ำโรงเรียนฝรั่ง
พ.ไทยยืนวงษ์
วันนี้อยากจะเขียนเกี่ยวกับเพลงคลาสสิคสักนิดหน่อยด้วยเป็นดนตรีที่ผมลักลอบฟังมาตั้งแต่เด็กยันโตมาได้จนป่านนี้ ที่ต้องใช้คำว่าลักลอบนี้ผมเห็นว่าสมควร เหตุที่ใช้เนื่องมาจากวัยเยาว์อันแวดล้อมด้วยวงศาคณาญาติที่มีแต่รสเพลงลูกทุ่งและเพลงไทยสากลแบบเก่าสมัยสุนทราภรณ์เป็นปฐมอบอวลหอมกรุ่นไปทั่วบ้าน เป็นบรรยากาศน่ารักน่าใคร่ที่แม้ผมเองในวัยเด็กยังซาบซึ้งดื่มด่ำ ไปไหนมาไหนก็ร้องเพลงผิวปากในบทดนตรีวิถีไทยตลอด ที่ร้องได้จนจบมีนับสิบเพลง ส่วนที่ได้ครึ่งๆกลางๆเห็นจะนับไม่ได้ถ้วน ดังนี้แล้ว บทเพลงในแบบอื่นจึงยากที่จะแทรกตัวเบียดบังเข้ามาในชีวิตได้ง่ายนัก
บ้านริมคลองในวันฝนตก เสียงลุงฮัมเพลงลูกทุ่งเคล้าเสียงฝน ขณะที่ก้มหน้าก้มตาซ่อมชุนรอยขาดของแห ภาพประทับใจของเด็กน้อยที่นั่งมองจากขั้นกระไดบ้านคือชายชราผิวสีกร้านแดด ไม่สวมเสื้อ นั่งหลังโค้งงอปะชุนทั้งที่สายตาไม่ดี แต่ใบหน้าที่เรียบสงบและเสียงเพลงในลำคอก็แสดงออกถึงความสุขได้ตามอัตภาพ
ดนตรีคลาสสิคเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของผมเมื่อครั้งอายุได้เพียงสิบสองสิบสามขวบเท่านั้น เหตุที่มีเพื่อนฝูงมากมาย พากันเที่ยวท่องไปตามลำน้ำไกลบ้านด้วยเรือไม้เก่าๆ ครั้งหนึ่งเฉียดกรายท่าน้ำโรงเรียนฝรั่ง ได้ยินเสียงร้องเพลงพร้อมๆกันหลายคน รู้สึกว่าแปลกดีจึงเทียบเรือไว้แล้วแอบขึ้นไปมองลอดรั้วให้เห็นที่มาของเสียง
ภาพนั้นคือผู้หญิงฝรั่งแต่งชุดขาว มีผ้าคลุมหัวกำลังสอนให้เด็กหญิงที่มีทั้งเล็กและโตราวสิบกว่าคนร้องเพลง เพลงนั้นช้าและไพเราะ ร้องด้วยภาษาที่แปลก ดูดวงหน้าของเด็กหญิงน้อยๆที่เปล่งเสียงร้องเต็มที่ก็สุกปลั่งมีชีวิตชีวา ผมตกอยู่ในภวังค์จวบจนมือกระด้างของเพื่อนที่มาด้วยตะปบเข้าที่ไหล่เรียกให้ไปต่อ ผมรีรออยู่เล็กน้อยก่อนลงเรือไปอย่างไม่สู้เต็มใจนัก
หลายเดือนผ่านไป ผมมักเวียนไปที่ท่าน้ำโรงเรียนฝรั่งเท่าที่จะหาโอกาสได้ รั้งโรงเรียนไม่แข็งแรงนัก ทำด้วยไม้ระแนงเก่าคร่ำ แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของความเป็นโรงเรียนทำให้ผมกลัว ได้แต่เพียงยืนเขย่งเกาะรั้วแนบใบหน้าสอดส่องมองภาพภายในด้วยใจจดจ่อ หากเป็นช่วงเวลาที่คณะนักร้องกำลังฝึกซ้อมก็จะดีใจปีติสุขเป็นพิเศษ
มองหาใครอยู่หรือจ๊ะ? เสียงหญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยถามเบาๆ แต่ทำเอาผมสะดุ้งอย่างแรง ทั้งตกใจและอายที่มาแอบดู แต่เธอผู้นั้นไม่ได้มีท่าทีโกรธเคือง กลับยิ้ม อันเป็นยิ้มที่หวานและอบอุ่นที่สุดในช่วงวัยเด็กของผมครานั้น
เธอเปิดประตูให้ผมเข้าไปดูภายในโรงเรียน มีอาคารมากมายล้วนทำด้วยไม้ทาสีฟ้า หลังคาสีส้มที่เก่าซีดแต่ยังดูสดใสในสายตาเด็กลูกทุ่งที่เห็นบ้านทั่วไปมีแต่สีน้ำตาล เด็กหญิงตัวน้อยหลายคนมองผมอย่างประหลาด บางคนขำกับการแต่งกายของผม เมื่อหญิงสาวใจดีทราบจุดประสงค์ที่ผมมักมาเฝ้าดูก็หัวเราะเบาๆ ผมได้ยินแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าเริ่มชาด้วยความอาย แต่เธอจับมือผมพาไปหาผู้หญิงฝรั่งชุดขาวที่มีผ้าคลุมหัว พูดคุยกันนิดหน่อย ผู้หญิงชุดขาวหันมามองทางผมแล้วยิ้มเมตตา ชี้ให้ผมไปนั่งแล้วตบมือบอกคณะนักร้องให้เตรียมตัว
นั่นเป็นคอนเสิร์ตแรกในชีวิต มีคณะนักร้องที่แม้เป็นเด็กหญิงแต่ก็ร้องได้ไพเราะ หญิงฝรั่งชุดขาวก็มีท่าทางตั้งอกตั้งใจทำมือโบกไปมาหน้าเหล่านักร้อง หญิงสาวแสนดีเดินมานั่งฟังเคียงข้างผม กลิ่นหอมของเธอราวดอกไม้ป่าที่ผมเผลอสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างลืมตัว รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้มานั่งอยู่ตรงนั้น เวลานั้น ซาบซึ้งกับบทเพลงประหลาด ขับขานด้วยภาษาที่ไม่เคยได้ยิน ทว่า ท่วงทำนองของมันกลับซึมลึกเข้าในหัวใจผมอย่างรวดเร็วราวฟองน้ำดูดซับความหวานจากมธุรส จากวันนั้น ผมได้รับอนุญาตให้ไปนั่งฟังคณะนักร้องซ้อมร้องเพลงได้ทุกวันที่ว่าง เมื่อเข้าเรียนในชั้นที่สูงขึ้น เวลาว่างที่จะไปเที่ยวเตร่อย่างก่อนก็หาได้น้อย โรงเรียนฝรั่งท่าน้ำจึงค่อยๆห่างเหินผมไป จนไม่ได้ไปอีกเลยในอีกปีต่อมา
ภาพคณะนักร้องของโรงเรียนคริสต์ในจังหวัดบ้านเกิด เก่าจนเป็นสีเหลืองซีด เด็กหญิงนักร้องสิบกว่าคนยังมีรอยยิ้มที่สดใส ซึ่งป่านนี้คงอยู่ในวัยไล่เรียกับผมและคงดำเนินชีวิตไปตามครรลองของตนโดยเก็บภาพอดีตอันสวยงามนี้ติดตัวเอาไว้ ภาพคุณแม่อธิการชาวฝรั่งเศสผู้มีเมตตาและคุณครูคนไทยที่มีกลิ่นหอมราวดอกไม้ป่าผู้มีความรักให้กับเด็กทุกคนแม้เด็กบ้านนอกลูกชาวบ้านที่ไร้การศึกษาอย่างผมตอนนั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่รูปถ่ายเก็บไว้ไม่ได้คือเสียงเพลง ทุกครั้งที่หยิบภาพนี้ขึ้นมาดู ผมจะเปิดเพลง แคนตาต้า ลำดับที่ 147 ประพันธ์โดย โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบเก่า เพราะนั่นคือเพลงคลาสสิคเพลงแรกที่ผมได้ฟัง ในขณะพายเรือล่องเที่ยวลำคลองกับผองเพื่อน ณ ลำน้ำที่ห่างไกล
จากคุณ :
อันโตนิโอ
- [
6 ต.ค. 46 01:53:24
]