[ เรือนจำ # 8 ]

               มาคุยกันเรื่องคดีความที่ติดคุกกันบ้างนะครับ   ว่าในคุกนั้นส่วนใหญ่โดนคดีอะไรกัน  และอาจแทรกเรื่องราวพฤติกรรมทางคดีของแต่ละคนด้วย   เริ่มเลยนะครับ

               คดีที่ติดคุกกันนั้น  เขาแบ่งหลักๆ  เป็น  5 กลุ่ม  คือ  คดีความผิดต่อชีวิตและร่างกาย
    คดีเกี่ยวกับเพศ  คดีเกี่ยวกับทรัพย์  คดีเกี่ยวกับยาเสพติด และ สุดท้ายคดีลักษณะอื่นๆ

               เรือนจำที่ผมอยู่นี้    ร้อยละ 45  โดนข้อหายาเสพติด    อีกร้อยละ 40  โดนคดี
    เกี่ยวกับทรัพย์    และอีกร้อยละ 10  โดนคดีความผิดต่อชีวิตและร่างกาย  รวมกับคดีเกี่ยวกับเพศ   ส่วนร้อยละ  5  ที่เหลือนั้น โดนคดีลักษณะอื่น

               คดีลักษณะอื่น  ในข้อ 5 ที่ผมว่านั้นเป็นอย่างไร  เอาเป็นว่าคดีที่ไม่เกี่ยวกับข้อ1 - ข้อ 4 ก็แล้วกัน  เช่นว่า  คดีผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ     พ.ร.บ.จราจรฯ   พ.ร.บ.ป่าสงวน  อะไรพวกนี้ละครับ  ซึ่งผมจะไม่ขอพูดถึง  เพราะโทษน้อยอยู่ไม่กี่เดือน  ศาลมักจะตัดสินลงโทษแล้ว ให้ปล่อยตัวไป  เนื่องจากกว่าจะสั่งฟ้องอะไรเสร็จจำเลยก็ต้องขังมาพอแก่โทษแล้ว(ใช้ศัพท์สูงซะหน่อย  ความจริงถ้าเขียนว่า ถูกจำคุกมาเกินกว่าโทษที่ได้รับในคดีนั้นแล้ว  น่าจะอ่านได้เข้าใจง่ายกว่าใช่ไหม)   เช่นว่าสอบสวน พิจารณา กันมา 5 - 6 เดือน  แล้วสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท อะไรอย่างนี้  แล้วก็ปล่อยตัวไป    ไม่จับก็ไม่ได้นะครับพวกนี้  เพราะสร้างความเดือดร้อน ให้ชาวบ้าน   ก็คิดดูสิมีปืนเถื่อนเก็บไว้ที่บ้านแล้วตำรวจจะรู้ได้ยังไง  นอกจากเอาออกมาทำนักเลงใส่ชาวบ้าน  นั่นละ ที่เขาแจ้งจับ

               คดีลักษณะอื่น ที่น่าหยิบมาพูดถึงก็มีครับ (ไหนว่าจะไม่ขอพูดถึง)  เช่นคดี พ.ร.บ.ป่าไม้  หรือ พ.ร.บ.ป่าสงวน อย่างนี้  ที่นี่มีมาบ่อย  ครั้งละ 5 คน 10 คน   คือพูดยากนะ  คนเราไม่รู้จะทำมาหากินอะไรเพราะไม่มีที่ทำกิน  ก็ไปจับจองถางป่าในเขตสงวน  ทำการเพาะปลูก  แล้วถูกจับมา  ซ้ำร้ายบางคนนั้นแค่ไปรับจ้างถางป่า ที่คนอื่นจับจองอีกที  แล้วต้องมาติดคุกกัน  ก็ไม่ต้องทำอะไรกิน  พ้นโทษออกไปแล้วกลับไปดูที่ดินที่เคยถางไว้  อ้าว … เขาออก ส.ป.ก. ให้คนอื่นไปแล้ว    

               ล่าสุดนี้มีป้าอยู่คนหนึ่ง คดีแกก็น่าสงสาร  โดนคดีป่าไม้ เหมือนกัน  คือแกมีบ้านอยู่ในป่า  ติดเขตสงวน  แล้วจ้างให้ชาวบ้านตัดไม้ใหญ่ในที่ดินของตน  แต่ยังไม่ทันได้มาใช้สร้างบ้าน  พอขนมาเก็บ ตำรวจก็ตามมาดำเนินคดี  ทราบว่าลูกๆ มาประกันตัวออกไป  ยังไม่แน่ว่าจะโดนกี่เดือน   เห็นสภาพแล้วน่าสงสาร  คือรู้ละว่าเขาทำผิดกฎหมาย  แต่ก็ยังดีกว่าให้เขาไปลักขโมยไม่ใช่หรือ ?

               เข้าเรื่องที่จะพูดถึงดีกว่า  ในตอนนี้  ว่าจะพูดถึง คดีเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย  
    คดีในกลุ่มนี้นั้น  มีโทษสูงต่ำก็แล้วแต่ว่าที่ก่อเหตุนั้น เข้ากับมาตราไหนในประมวลกฎหมายอาญา  จะเป็นคดีฆ่า  พยายามฆ่า  ทำร้ายร่างกาย  หรือแค่ใช้กำลังประทุษร้าย  หรือแค่ผิดต่อเสรีภาพ  โทษที่ได้รับก็จะต่างไป   ตั้งแต่จำคุกแบบมีกำหนดโทษ  หรือจำคุกตลอดชีวิต  หรือสูงสุดก็ประหารชีวิต ไปเลย  

               ตั้งแต่อยู่มาได้เจอกับนักโทษประหารคนนึง  รายนี้เลว:-)  ทราบว่าข่มขืนเด็ก  แล้วฆ่า  ทีนี้พี่สาวเด็กมาเห็นเหตุการณ์  ก็ตามไปใช้มีดพร้าฆ่าตายไปอีกคน   ตอนที่ยังจับตัวไม่ได้นั้นข่าวกระฉ่อนมาถึงคุกแล้ว  และมาจับได้ในอีก 4 – 5 เดือนถัดมา  ในอีกจังหวัดหนึ่ง  ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 150 กิโลเมตร  เห็นว่าหลบหนีโดยการเดินเท้า แล้วไปรับจ้างถางป่าอยู่ที่นั่น   โชคดีที่ตำรวจตามจับได้  ไม่อย่างนั้นอาจก่อคดีขึ้นมาอีกแน่นอน  พวกข่มขืนนี่โรคจิตครับ  เป็นคนดีได้ไม่นาน  แล้วก่อเหตุอีก  กี่รายแล้วที่ผมได้เจอกับพวกนี้โดยที่เหยื่อนั้น ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

               โจรในคดีฆ่านั้น  ผมจัดเป็น 3 พวก  (ขออนุญาตจัดเอาเองตามสัดส่วน  ของเรือนจำแห่งนี้   และขออนุญาตพูดถึงแต่คดีฆ่า  เพราะฆ่านั้น นับเป็น 1 ใน 5 ของคดีอุกฉกรรจ์อันได้แก่ ปล้น – ฆ่า – ชิงทรัพย์ – วางเพลิง  และอะไรอีกคดีน้า…นึกไม่ออก  ใครเรียนมาทางกฏหมายช่วยมาเพิ่มเติมหน่อยนะครับ)

               3 พวกที่ว่านั้น  หนึ่ง - โจรที่ฆ่าคนเป็นครั้งแรก  กลุ่มนี้จะมีมากที่สุด  สังเกตง่ายครับพวกนี้  จะทำตัวเป็นนักเลงใหญ่  และภูมิใจที่จะบอกใครๆ ว่าโดนคดีฆ่าคนตาย  ทั้งที่ตอนมาใหม่ๆ นั้นก็มีอาการกลัวคุกกันลนลาน  เพราะจริงๆแล้ว ครึ่งหนึ่งของกลุ่มนี้ไม่ใช่โจรโดย:-)  แต่ที่ทำนักเลงกับเพื่อนผู้ต้องขังนั้น  มาเรียนรู้กันที่ในคุกนี้เอง   โดยพวกนี้จะสู้คดีกันนาน  ไม่ยอมรับครับ  พอขึ้นศาลแล้วก็ปฏิเสธลูกเดียว  ทั้งที่ยิงเขาจริง แต่คนไทยมักไม่ยอมมาให้การเป็นพยาน  หลายคนสู้มา 5 ปี แล้วยกฟ้องไป แต่หลายคนเหมือนกันที่ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต  ไม่ทราบอย่างไรนะครับ  พวกที่รับสารภาพมักจะได้ลดครึ่งหนึ่งเหลือ 50 ปี หรือบางคนไม่ถึงด้วยซ้ำ

              มีข้อสังเกตอย่างหนึ่งของโจรในกลุ่มนี้  คือส่วนใหญ่ไม่ซ้อมยิงปืน  บางคนนั้นไม่เคยยิงปืนมาก่อนกระทั่งก่อเหตุ  แต่มักยิงแม่นครับ  -นัดเดียวจอด  

               สอง – พวกมือปืนรับจ้าง  พวกนี้จะอยู่อีกแบบครับ  อ่อนน้อมถ่อมตน  ติดคุกครั้งแรกกันทั้งนั้น  คือบางคนอาจจะเคยติดมาแล้วในที่อื่น  คดีอื่น แล้วเปลี่ยนชื่อมาเรื่อย  เลยไม่เคยมีประวัติต้องโทษซ้ำ  เพราะเรือนจำจะขังคนที่รับมาพร้อมหมายศาล  รับนายดำมา โดยที่เพื่อนบ้านต่างรู้ว่านี่คือนายดำ  แต่ถ้าศาลบอกว่าให้ขังนายขาว  นายดำที่มานั้นก็ต้องชื่อขาวครับ  คือมันผิดตั้งแต่ตำรวจส่งฟ้องแล้ว บางรายยิ่งร้ายปลอมชื่อเพียงเพราะคนทำผิดเป็นลูกคนใหญ่คนโต กลัวเสียประวัติ ก็เคยได้ยิน  จะบอกว่าเขาไม่ได้ตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร์แล้วเสือ-กอ มาเก็บประวัติอาชญากรไปทำอะไรก็ไม่รู้

               พวกที่ 2 นี้มักไม่ค่อยก่อเหตุวุ่นวายเหมือนพวกแรกครับ  พวกนี้มักอยู่ในระเบียบ ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร  

               สาม – ตำรวจ  ถูกต้องครับพวกที่ 3 คือพวกตำรวจ  แปลกจริงตำรวจที่ติดคุกมา มักเป็นคดีฆ่า  บางคนยังติดยศนำหน้าชื่ออยู่เลย  แต่พักหลังนี่ไม่ค่อยมีแล้วนะครับ  จะมีก็แต่ตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการเพราะติดยา หรือค้ายามาประปราย พวกนี้ผมจะให้ความสนใจเป็นพิเศษครับ  เพราะเป็นตำรวจแล้ว แทนที่จะจับผู้ร้ายกลับมาติดคุกเสียเอง  ผมยังเคยคิดนะครับ ว่าพวกนี้แค่ติดคุกมาหาข่าว หรือติดคุกจริง  แต่ส่วนใหญ่แล้วติดจริง  แต่ก็มักย้ายไปจำคุกที่อื่น  คือคุกที่ผมอยู่นี้ขังได้เฉพาะคนที่ต้องโทษไม่เกิน 20 ปี  มากกว่านี้ เขาก็จะย้ายไปคุกที่มีความมั่นคงสูงกว่าครับ


    เคยนึกบ้างไหมครับว่าคนเราโกรธแค้นอะไรกันนักหนาถึงต้องฆ่ากันให้ตาย  พวกในกลุ่ม 3 นั้น ผมเชื่อครับว่าแค้นจริง  อย่างไปเข้าเวรกลับมา  เพื่อนตำรวจนอนอยู่กับเมียนี่  ก็น่าฆ่าอยู่  (แค่พูดเล่นนะครับ เหตุการณ์นี้ไม่เคยมี   เพราะตำรวจต่างจังหวัดเขาไม่อยู่แฟลตกันหรอก  ลองไปเดินดูสิ  ที่แฟลตนะมีแต่นักร้อง  หรือไม่ก็น้องเมีย ที่มาเรียนหนังสือ กันทั้งนั้น  - ตำรวจนั้นไปเช่าบ้านให้เมียเปิดร้านเสริมสวยหรือไม่ก็ขายของชำกัน  เห็นว่าเงินเดือนตำรวจน้อยนิด  บางคนถึงกับไถ(นา…) )

               พวกในกลุ่ม 2 นั้น ไม่พูดถึงอยู่แล้ว  พวกนี้ได้เงินเป็นค่าตอบแทน  ไอ้ที่ได้เป็นแสนนี่ก็ล่อใจได้อยู่  แต่เชื่อไหมครับ บางคนลากปืนยิงจรวด(แบบเล็กๆ ไม่รู้เขาเรียกอะไร)  โดยได้ค่าจ้างแค่ 3,000 บาท  คุ้มไหม  หรือบางคนแค่เขาขอช่วย ก็ไปยิงแล้ว  ไม่รู้มันคึกอะไรนักหนา  แล้วแปลกนะครับ ติดคุกแล้วโรงพักนี้มาสอบ  โรงพักโน้นมาสอบ  ให้ความสำคัญมันเข้าไป  หารู้ไม่ว่านั่นละที่มันชอบ  สร้างชื่อเอาไว้  ประกันตัวไปมันก็ก่อเรื่องอีก  

               พวกในกลุ่ม 3 นี่สิ ที่จะพูดถึง  ไม่รู้มันไปหาปืนมาใช้ได้ยังไง  ขนาดคนทำงานสุจริตกว่าจะได้รับอนุญาตให้ซื้อได้นั้นลำบากแสนเข็น  แต่พวกนี้พกปืนไปตลาดครับ  แค่เพื่อนข้างโต๊ะหยิบเบียร์เราไปริน มันยัดปืนใส่มือผมแล้ว (เมื่อก่อนนะครับ ตอนนี้ผมเป็นคนดีแล้ว)   พวกนี้เวลามีปืนในมือแล้วไม่คิดอะไรครับ  แค่เพื่อนมาทวงเงินค่าติดที่ยืมไป มันก็ยิงตายแล้ว  ทำยังกับชีวิตไม่มีค่า

               ถ้าคุณพลาดท่าไปทำร้ายใครแล้วจะทำอย่างไร  
    เคยได้ยินไหมครับที่เขาว่าคนรวยไม่ติดคุก  อาจได้ครับถ้าคุณจะใช้เงินฟาดหัว  ให้ญาติคนตายไปสักสามแสน  พาพวกนายๆไปกินข้าวสักสามแสนอาจทำให้คุณหลุดคดีได้  เพราะหกแสนสำหรับคนบางคนนั้นก็หายากอยู่   แต่ถ้าคุณจะสู้คดีโดยคิดว่าไม่มีพยานมาให้การนั้นผมขอบอกว่าอย่าเลย  สู้คดีไป 4 – 5 ปี แล้วยังไม่เห็นแววว่าศาลจะยกฟ้อง   สู้สารภาพไปเสียเลยดีกว่า ศาลท่านอาจจะลดโทษให้บ้าง (ย่อหน้านี้ ไม่ใช่มาสอนโจรนะครับ  แค่พูดถึงในกรณีที่คุณพลั้งมือไป  คืออะไรที่มันเกิดได้ เราก็พลาดกันได้)

               จบเรื่องฆ่าดีกว่า  มาต่อที่คดีทำร้ายร่างกาย กับใช้กำลังประทุษร้าย  อันนี้เหมือนกันครับเพียงแต่ถ้าหมอบอกว่าคนเจ็บ ต้องรักษาตัวเกิน 2 สัปดาห์ ก็เป็นทำร้ายร่างกาย  โทษก็จะหนักกว่าใช้กำลัง   ส่วนความผิดต่อเสรีภาพนั้น มักพ่วงท้ายในหมายศาล ของพวกที่พาเขาไปกักขังหน่วงเหนี่ยว  ที่นี่ก็มีมา 2 – 3 คนครับ  มีทั้งไปอนาจาร  พาไปเพื่อเรียกค่าไถ่  ก็ไม่รู้ว่าโทษในมาตรานั้น จะกี่วันกี่เดือน  ไม่ทราบจริงๆ

               แล้วพบกันตอนหน้านะครับ มาว่ากันที่เรื่องของทรัพย์
    อาจหาความเป็นเอกภาพของเรื่องไม่ได้
    แต่รับรองได้อาจจบแล้ว ประมวลได้อย่างไร
    ก็นั่นละ – คุก


               สวัสดีครับ /.





    จากคุณ : Old Man Jailer - [ 6 ต.ค. 46 13:12:41 ]