ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านนะค่ะ
ที่พยายามทนอ่านกันมา
ไม่รู้จะจบถูกใจกันหรือเปล่า
เอาเป็นว่า ไปตามกันต่อแล้วกันนะค้า
++++++++
หลังจากที่ไปส่งจารวีที่บ้านและแวะเก็บของแล้ว
เอราวุธตรงไปหาหญิงสาวเจ้าของเรื่องที่ทำเอาเขานั่งไม่ติด
กระวนกระวานมาตลอดวันสองวันที่ผ่านมา
พี่เอ หญิงสาวร่างบางเข้ามากอดเขาอย่างแสนยินดี
ว่าไงเรา
เขาดึงตัวเธอออกห่าง ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาเม็ดโตให้ เมื่ออีกผ่านเริ่มสงบลง
ฝนเสียใจค่ะ ไม่คิดว่า
เรื่องมันจะแย่แบบนี้ ฝน
โทรไปหาเขาแล้ว
แต่
แต่ติดต่อเขาไม่ได้ โทรไปบ้านเขา ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน
เสียงสะอึกสะอื้นฮักขัดการเล่าเป็นห้วง ๆ
เอราวุธลูบผมของคนที่นั่งพิงอย่างเบามือ
น้องสาวคนเดียว ถึงจะคนละแม่คนละพ่อ แต่พ่อหล่อนก็เป็นน้องชายแท้ ๆ ของพ่อเขา
ถ้าอารู้เข้า จะเป็นยังไง
นี่ขนาดเขาไม่ใช่คนเป็นพ่อเป็นแม่ ยังรู้สึกขนาดนี้
ครอบครัวเขาเป็นครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องอาศัยอยู่ในอาณาเขตรั้วเดียวกัน
ถึงจะคนละมุม จนกระทั่งเมื่อกลางปี ฝน น้องน้อยของพี่ ๆ ทั้งห้าคนขอแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว
ด้วยการเรียนปีสุดท้ายทำให้มีกิจกรรม ต้องหาข้อมูลจนมืดค่ำ
เจ้าตัวเลยใช้เป็นข้ออ้าง เพื่อนจะได้ออกมาอยู่ข้างนอก
แรก ๆ ที่บ้านออกจะคัดค้าน เมื่อเธอต้องการออกมา
แต่ในที่สุดก็ทนเสียงอ้อนของเจ้าหล่อนไม่ไหว
ทั้งบ้านหล่อนบ้านเขาเลยยอมปล่อยให้เธอออกมาอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย
เพียงปีเดียวเท่านั้น
ยังไม่ถึงปีก็เกิดเรื่อง
ฝนโทรกลับไปหาพ่อกับแม่หรือยัง ชายหนุ่มถามเสียงแห้ง
เจ้าตัวส่ายหน้าน้ำตาคลอขึ้นมาอีก
ฝนไม่กล้าโทรไป ฝนไม่อยากให้ท่านเดือดร้อน ฝนทำตัวฝนเอง
ชายหนุ่มถอนหายใจ
สงสารคนเป็นน้อง
สงสารอาทั้งสองคน
กลับบ้านเราเถอะนะ เสียงเรียบ ๆ แต่มั่นคงบอกกับหญิงสาว
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานไม่น้อยสำหรับครอบครัวเขา
อาทั้งสองคนโกธรและโมโหมาก เมื่อรู้ว่าลูกสาวคนเล็กต้องเจอชะตากรรม
ชะตาที่ตัวเธอเองเป็นคนเลือกเดินเข้าไปโดยไม่ยับยั้งชั่งใจตัวเอง
น้องสาวเขาเองก็เข้าใจและยอมรับมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฝนเหลือตัวสุดท้ายในเทอมหน้า เธอบอกกับเขาว่า
จะพยายามไปเรียนให้จบให้ได้ อีกสี่เดือนก็จะหมดเทอม
แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็คงต้องขอดร๊อปไว้ก่อน หลังจากนั้นเธอจะไปฮ่องกง
ไปอยู่กับพี่ฟ้า พี่สาวซึ่งห่างจากเธอเกือบสิบปีที่แต่งงานและอยู่กับสามีที่นั่น
มันโหดร้ายเกินไปเมื่อต้องทำลายคนที่เขายังไม่มีโอกาสลืมตามองโลก
ฝนบอกเขาอย่างนี้ เธอยังมีอนาคตข้างหน้า มีทางไป
นั่นสินะ!
ส่วนไอ้คนที่ทำน้องสาวเขาท้อง มันกลับไม่รับผิดชอบอะไรต่อชีวิตหนึ่ง
และอีกหนึ่งที่จะเกิดมา วันนั้นทั้งเขาและพี่ชายคนรองเลยจัดการมันซะหายแค้น
เมื่อเข้าไปพูดกับไอ้สารเลวแล้วไม่ได้เรื่อง
เปล่า เขาและพี่ชายไม่ได้ต้องการให้
ใครต้องมารับผิดชอบ
น้องสาวคนเดียวกับหลานอีกคนทำไมครอบครัวเขาจะเลี้ยงไม่ได้
เพียงแต่ต้องการคำขอโทษหรืออะไรก็ได้ที่ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยมันก็ยังเป็นมนุษย์อยู่
ฝนไม่มีน้ำตาสักหยด เมื่อมันเอ่ยปากปฏิเสธ น้องเขาแสดงอาการเข้มแข็ง
ทั้ง ๆ ที่ภายในเธอบอบช้ำ จะมีเพียงริ้วละอองบางบนตาแดง ๆ ของเธอเท่านั้น
เมื่อลากเขาและพี่ชายออกมา
นี่หรือคือจุดจบของเรื่อง เรื่องที่น้องของเขาตัดสินใจก้าวเดินเข้าไป
ไม่มีการรับผิดชอบ ไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นอย่างหลายคู่ที่เขาเคยเห็นมา
อย่างน้อยก็ยังดี
ที่ฝนไม่คิดเอาเด็กออก
จะมีชีวิตกี่ชีวิตกันนะที่ได้โอกาสจากคนเป็นแม่อย่างนั้น
บัวหอมกับจารวีได้ฟังเรื่องฝนเมื่อเขาเอาเรื่องเรียนไปปรึกษา
โดนสองสาวต่อว่ายกใหญ่ที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้เล่าให้พวกหล่อนฟัง
โดยเฉพาะบัวหอมที่โวยวายตามนิสัยของหล่อนแถมชอบอกชอบใจที่เขาและพี่ชาย
ไปรุมอัดเจ้าหนุ่มนั้นเสียอีก จารวีแนะนำให้เข้าไปคุยกับอาจารย์ที่สอนดู
เพราะวิชานี้จารวีเคยเรียนมาก่อน ไม่มีสอบแต่ต้องทำ Thesis และ Present งานเท่านั้น
ชายหนุ่มมองออกไปยังท้องถนนที่เริ่มจะติดขัด
เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ พี่เก่งมารับจารวีกลับไปแล้ว
ไอ้แดนเหรอ เออ เอ็งเข้ามาหาข้าหน่อยสิ
จะตอนไหน ก็ตอนนี้สิว่ะ เอ็งขับรถเข้ามาไม่กี่ชั่วโมงหรือจะให้ข้าออกไปหา
เออ เจอกันที่เดิมนะ
เขาวางสาย นึกครึ้มยังไงไม่รู้ที่โทรไปนัดเพื่อนตั้งแต่มัธยมให้มาเจอกัน
ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพอย่างเขาเลย
เอราวุธนอนคว่ำหน้าอยู่เตียงหลังใหญ่ ลืมตาขึ้น
ภายในห้องดูไม่คุ้นเคย
ปรับสายตาได้เลยพลิกกลับมานอนหงายแทน รู้สึกแปลบ ๆ ที่ไหล่ซ้าย
จำได้ล่ะว่า ตอนกลับดูจะเซไปกระแทกอะไรสักอย่าง
ประตูห้องนอนเปิดออก เพื่อนสนิทโผล่หน้าเข้ามา
นึกว่ายังไม่ตื่นซะอีก ไงวะ คอไม่แข็งยังริกินเหล้าซะเมา
ดีนะที่ห้องข้าอยู่ใกล้ร้าน ตอนกลับมาเอ็งกะข้าเกือบซวยได้นอนเป็นหมาเฝ้าหน้าประตูแล้ว
ทำไมล่ะ
ก็หาการ์ดไม่เจอนะสิ ไม่รู้มันหายหรือลืมไว้ไหน ไม่ได้กลับมานานเลยลืม
ลองไปเคาะห้องข้าง ๆ อาศัยขอปีนระเบียงข้ามมา กว่าจะเข้าห้องได้นะเอ็งเอ๊ย
น้องฟูเออ
เพื่อนบ้านข้าน่ะ ถามแล้วถามอีกแถมเข้าใจหาว่าข้าเป็นขโมยอีกต่างหาก
ชนแดนว่ายิ้ม ๆ เล่าถึงวีรกรรมตอนตีสามอย่างสนุก
คำแรกที่โจ๊กถึงปากทำเอาเอราวุธร้องออกมา
ทำไมมันเย็นชืดอย่างนี้วะ
ชนแดนหัวเราะ ก็ข้าซื้อไว้ตั้งแต่สิบโมง แล้วไปทำคีย์การ์ดใหม่
กว่าจะติดต่อ กว่าจะทำเรื่อง กว่าจะพาช่างมา กว่าอะไร ๆ จะเรียบร้อย
กว่าเอ็งจะตื่นขึ้นมา มันก็ต้องเย็นเป็นธรรมดาว่ะ นี่มันบ่ายสองแล้วนะโว้ย
เอราวุธวางช้อนลง งั้นลงไปหาอะไรข้างล่างกินเหอะ
กินไม่ลงว่ะเย็น ๆ อย่างนี้ จะได้เลยกลับบ้านด้วย
แล้วนี่วันไหนเอ็งจะกลับ
พรุ่งนี้เย็น ที่โน่น
ชนแดนหมายถึงโรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง
กำลังยุ่ง ออเดอร์เพียบตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้ว
บอกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาไม่ได้กลับมาที่ห้องเกือบเดือน
++++++++++++++++++++++
กลุ่มเด็กชายวัยรุ่นกำลังส่งเสียงโหวกแหวกแย่งบอลลูกกลมอยู่บนสนามหญ้า
เรียกให้คนที่นั่งอยู่ใต้ต้นจามจุรีมองตามอย่างสนใจ โดยเฉพาะร่างสูงของคนตัวใหญ่
ผิวคล้ำ ที่โดดเด่นกว่าคนอื่น ๆ ในสนาม
มองอะไรพี่บัว! ตีทำข้อนี้เสร็จแล้วกลับบ้านกันเหอะนะ
เสียงล้อเลียนเรียกหล่อนให้กลับมามองเด็กสาวหน้าตาคมคายตรงหน้า
ไหนเอามาให้พี่ดูก่อน ถ้าทำผิดก็ต้องแก้ให้ถูกก่อนกลับนะ
สมุดถูกส่งมาตรงหน้า เจ้าตัวบอกอย่างมั่นใจ เอาไปเลยพี่ ข้อนี้ไม่ต้องแก้ชัวร์
จ้า พี่รู้ว่าเราเก่ง งั้นก็กลับได้เลย
บัวหอมมองคำตอบของเด็กสาวที่ส่งมาให้ ไม่มีอะไรผิดเลยส่งคืนให้
บรรพตีตะโกนก้องไปยังสนามที่ยังชุลมุนกันอยู่ ครู่เดียวร่างสูงก็วิ่งเข้ามาหา
หอบหายใจถี่เพราะความเหนื่อยหลังจากวิ่งอยู่กลางสนามนานพอควร
จะกลับแล้วเหรอ
อือ
แต่วันนี้ไม่ได้กลับด้วยนะ รถเราซ่อมเสร็จแล้ว
บัวหอมเอ่ยบอกคนตรงหน้า เล่าอาการของมอเตอร์ไซต์คู่กายคันเก่ง
ที่เอาไปทิ้งไว้ที่ร้านซ่อมเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาให้ฟัง
เด็กสาวบรรพตีเดินมาเกาะแขนหล่อนไว้
งั้นวันนี้ตีกลับกับพี่บัวนะ ให้พี่บรรกลับบ้านไปก่อน
ไปได้แล้วพี่ชาย แถมยังหันไปไล่พี่ชายของตัวเองอีกต่างหาก
อะไรว้า เมื่อเช้าบอกให้มารับ ตอนนี้ไล่เราเฉยเลยยัยตัวแสบ
ชายหนุ่มบ่นแกมขำ ก่อนเดินกลับไปที่รถกะบะสีเหลืองคันเก่าที่จอดเอาไว้อย่างว่าง่าย
ทำไมไม่กลับกับพี่เราล่ะตี บัวหอมเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
เมื่อพาบรรพตีซ้อนท้ายออกมาจากโรงเรียนแล้ว
ก็ตีไม่อยากกลับกับพี่บรรนี่ ตีอยากมีรถมอไซต์ แต่พี่บรรไม่ยอม
พี่บัวดูดิเพื่อนตีเขามีกันหมดแล้ว พอตีขอทีไรก็บอกเอาไว้ก่อน เอาไว้ก่อน
น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจจากเด็กสาวทำเอาหล่อนอมยิ้ม นึกหน้าที่ชอบขมวดคิ้ว
ริมฝีปากเชิด ๆ ยามไม่ได้ดังใจออก
ถามเสียงดังแข่งกับความดังของรถกลับไป
ตีคิดว่ามันเป็นค่านิยมที่ตีต้องทำอะไร มีอะไรตามเพื่อนหรือเปล่า
เด็กสาวเงียบไป
เด็กส่วนใหญ่ในโรงเรียนมันจะมีรถจักรยานยนต์เป็นของตัวเอง
เมื่อเพื่อนมีคนที่ไม่มีก็อยากมีบ้าง พ่อแม่บ้างคนทนลูกรบเร้าไม่ไหวก็ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาซื้อให้ลูก
ตีเพิ่งจะอายุสิบห้า เกิดไปชนใครเขาเข้าจะทำไงใบขับขี่ก็ไม่มี
จริงอยู่บ้านเราเด็กปอสามก็ขี่รถปร๋อไปมาแล้ว แต่ที่พี่ชายตียังไม่อยากซื้อให้
เพราะเป็นห่วงตีต่างหาก เห็นมั้ยเด็กบ้านเราตายไปเท่าไหร่แล้วกับอุบัติเหตุจากรถมอเตอร์ไซต์
แขนยาวติดจะเก้งก้างโอบเอวหล่อนไว้ แนบแก้มกับแผ่นหลังบอกเสียงเบา
ก็ตีอยากขี่บ้างนี่ ไม่คิดจะตามใครหรอก ไม่เอามือหนึ่งเอามือสองก็ได้
เอางี้ พี่ให้ตีเป็นคนขับแล้วพี่ซ้อนดีมั้ย ตอนเช้ากับเย็นเรากลับบ้านด้วยกัน
แถมตีก็ไม่ต้องไปขอที่บ้านให้ซื้อให้ด้วย พอตีโตอีกหน่อยค่อยซื้อดีมั้ย เจ้าของรถเสนอ
ใจนึก เด็กสมัยนี้น่ากลัวจะตาย บิดกันซะไม่เห็นฝุ่น
แล้วคนที่เกาะหลังหล่อนอยู่ก็คงเฮี้ยวไม่เบา มีหล่อนคอยดู คอยปรามท่าจะดีกว่านะ
ก็ได้จ๊ะ งั้นพี่บัวมารับตีทุกวันเลยนะ
บรรพตีรับคำง่าย ๆ ยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างสมใจหมาย
++++++++++++++
ขอติดไว้ตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ จะเอาตอนจบมาให้จริง ๆ ล่ะค่ะ
กระทู้นี้แหล่ะค้า
ตอนนี้ขอตัวไปทำงานก่อนนะค้า
จากคุณ :
พิจิกา...ปลายฝนต้นหนาว
- [
6 ต.ค. 46 16:38:29
A:203.170.159.236 X:
]